Xiaomi ประกาศเปิดตัว Xiaomi Mi 11 อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน โดยเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นแรกของโลกที่ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 888 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พร้อมหน้าจอระดับเกรด A+, ลำโพงระดับพรีเมี่ยม, กล้องที่ยอดเยี่ยม เป็นต้น
สเปก Xiaomi Mi 11
ตัวเครื่องมีขนาด 164.3 x 74.6 x 8.1 มม. (หนา 8.6 มม.สำหรับฝาหลังแบบหนัง) และน้ำหนัก 221.8 กรัม (194 กรัม สำหรับฝาหลังแบบหนัง) หน้าจอแสดงผลจอขอบโค้งแบบ AMOLED ความละเอียด 2K 1440 x 3200 พิกเซล ขนาด 6.81 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9
โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz และอัตราการสุ่มตัวอย่างสัมผัส 480Hz, รองรับ HDR10+, ความสว่างสูงสุด 1500 nits, 1B colors, ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass Victus และได้รับการการันตีจาก DisplayMate ว่าเป็นสมาร์ตโฟนจอที่ดีที่สุดโดยได้รับคะแนนสูงสุดที่เกรด A+
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.84GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 888 (5 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 660, RAM 8GB/12GB แบบ LPDDR5, หน่วยความจำภายใน 128GB/256GB แบบ UFS 3.1 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual-LED dual-tone flash ประกอบด้วย
- กล้องหลัก ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.33″. ขนาดพิกเซล 0.8µm, รองรับระบบ PDAF และ OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 และถ่ายมุมกว้างได้ 123 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
รองรับการบันทึกวิดีโอระดับ 8K ที่ 24/30fps และ 4K ที่ 30/60fps
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 20 MP รูรับแสง f/2.3 ขนาดเซ็นเซอร์ 1/3.4″ และขนาดพิกเซล 0.8µm สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด FHD 1080p ที่ 30fps และแบบสโลว์โมชั่นที่ 120fps รองรับโหมด HDR และโหมดกลางคืน
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, ลำโพงสเตอริโอที่ปรับจูนโดย Harman Kardon, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.2, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C
และใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,600mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบผ่านสาย 55W ชาร์จ 100% ภายใน 45 นาที, ชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W และรองรับการชาร์จแบบย้อนกลับ Reverse Charging 10W รองรับอะแดปเตอร์ Quick Charge 4+, Quick Charge 3+ และ Power Delivery 3.0
ทั้งนี้ Xiaomi Mi 11 มีให้เลือก 6 สีคือ Black, White, Blue, Khaki Vegan Leather (ฝาหลังแบบหนัง), Purple Leather (ฝาหลังแบบหนัง) และรุ่นพิเศษ Mi 11 Lei Jun Special Edition ที่มีลายเซ็นต์ของซีอีโออยู่ที่ฝาหลังของตัวเครื่อง และฝาหลังกระจกแบบ 3 มิติ โดยเริ่มเปิดพรีออเดอร์แล้วที่ประเทศจีน และจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 1 มกราคม 2021 ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 8GB + 128GB ราคา 3999 หยวนหรือประมาณ 18,500 บาท
- RAM 8GB + 256GB ราคา 4299 หยวนหรือประมาณ 19,900 บาท
- RAM 12GB + 256GB ราคา 4699 เหยวนหรือประมาณ 21,700 บาท
และโทรศัพท์ไม่ได้มาพร้อมกับที่ชาร์จ แต่ Xiaomi มี Set Edition พิเศษที่มีที่ชาร์จ GaN 55W มาให้ โดยชุดนี้มีจำหน่ายในราคาเดียวกันในระยะเวลาจำกัด หลังจากนั้นจะต้องซื้อแยกต่างหากในราคา 99 หยวนหรือประมาณ 450 บาท รวมยังได้เปิดตัวบริการเสริมอย่าง Mi Care สำหรับคนอยากซื้อประกันเพิ่มในราคา 679 หยวน ประมาณ 3,100 บาท (ประกันจะเพิ่มเป็น 2 ปี + ประกันจอแตก 2 ครั้ง 2 ปี)
ที่มา : Gsmarena