Xiaomi ประกาศเปิดตัว Xiaomi 14 Series ซึ่งประกอบด้วย Xiaomi 14 และ Xiaomi 14 Pro อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน โดยมาพร้อมชิปเซ็ท Snapdragon 8 Gen 3 รุ่นแรกของโลก, กล้อง Leica ที่อัปเกรดใหม่ และรันระบบปฎิบัติการ HyperOS ใหม่ของ Xiaomi
สเปก Xiaomi 14
ตัวเครื่องมีขนาด 152.8 x 71.5 x 8.2/8.3 มม. และน้ำหนัก 188/193 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ LTPO OLED Huaxing C8 ใหม่ที่พัฒนาร่วมกันโดย Xiaomi และ TCL ความละเอียด 1200 x 2670 พิกเซล ขนาด 6.36 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9, 68,000 ล้านสี, ได้รับการรับรองมาตรฐานสีเที่ยงตรง CIE2015
โดยมีอัตรารีเฟรชเรทแบบปรับได้ 1-120Hz, รองรับ HDR10+, ZREAL, HDR Vivid และ Dolby Vision, ความสว่างสูงสุด 3,000nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass Victus
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.3GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8650-AB Snapdragon 8 Gen 3 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 750, RAM 8GB/12GB/16GB แบบ LPDDR5X, หน่วยความจำภายใน 256/512GB/1TB แบบ UFS 4.0 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย HeperOS
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมชุดเลนส์ Leica VARIO-SUMMILUX พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual-LED ประกอบด้วย
- กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Light Hunter 900 รูรับแสง f/1.6, 23mm (wide), 1/1.31″, ขนาดพิกเซล 1.2µm, รองรับระบบ Dual Pixel PDAF, Laser AF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 75mm, ระบบ PDAF (10cm – ∞), ระบบกันสั่น OIS และซูมแบบออปติคอล 3.2 เท่า
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 14mm และถ่ายมุมกว้างได้ 115 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (wide) สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K@30/60fps, 1080p@30/60fps, gyro-EIS, รองรับโหมด HDR และโหมด Panorama
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, ไมโครโฟน 4 ตัวที่สามารถบันทึกเสียงได้แบบ 360 องศา, ลำโพงสเตอริโอรองรับ Dolby Atmos, Hi-Res Audio และ Hi-Res Wireless,
รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP68. รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e/7, dual-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.4, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C
และใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,610mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบผ่านสาย 90W ชาร์จ 100% ภายใน 35 นาที, ชาร์จเร็วแบบไร้สาย 90W ชาร์จ 100% ภายใน 31 นาที
รวมทั้งรองรับการชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W ชาร์จ 100% ภายใน 46 นาที และรองรับการชาร์จแบบย้อนกลับ Reverse Charging 10W รองรับอะแดปเตอร์ Quick Charge 4 และ Power Delivery 3.0
ทั้งนี้ Xiaomi 14 มีให้เลือก 4 สี 2 วัสดุโดยตัวเครื่องวัสดุกระจกจะมีสีดำ, สีขาว และสีเขียวเข้ม ส่วนตัวเครื่องวัสดุหนังวีแกนจะมีเพียงสีเดียวคือ สีชมพู โดยเปิดให้สั่งจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ประเทศจีน
ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 8GB + 256GB ราคา 3,999 หยวน หรือประมาณ 20,000 บาท (มีเฉพาะสีดำ และสีเขียว)
- RAM 12GB + 256GB ราคา 4,299 หยวน หรือประมาณ 21,500 บาท
- RAM 16GB + 512GB ราคา 4,599 หยวน หรือประมาณ 23,000 บาท
- RAM 16GB + 1TB ราคา 4,999 หยวน หรือประมาณ 25,000 บาท
สเปก Xiaomi 14 Pro
ตัวเครื่องมีขนาด 161.4 x 75.3 x 8.5 มม. และน้ำหนัก 223/230 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ LTPO OLED Huaxing C8 ใหม่ที่พัฒนาร่วมกันโดย Xiaomi และ TCL ความละเอียด 1200 x 2670 พิกเซล ขนาด 6.36 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9, 68,000 ล้านสี, ได้รับการรับรองมาตรฐานสีเที่ยงตรง CIE2015
โดยมีอัตรารีเฟรชเรทแบบปรับได้ 1-120Hz, รองรับ HDR10+, ZREAL, HDR Vivid และ Dolby Vision, ความสว่างสูงสุด 3,000nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Xiaomi Dragon Crystal Glass ที่ทนทานต่อแรงตกกระแทกได้สูงกว่าในรุ่นก่อนถึง 10 เท่า รวมถึงยังทนรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิมถึง 1.25 เท่า
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.3GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8650-AB Snapdragon 8 Gen 3 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 750, RAM 12GB/16GB แบบ LPDDR5X, หน่วยความจำภายใน 256/512GB/1TB แบบ UFS 4.0 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย HeperOS
ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมชุดเลนส์ Leica VARIO-SUMMILUX พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual-LED ประกอบด้วย
- กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Light Hunter 900 รูรับแสงปรับได้กว้างสูงสุดถึง f/1.42 และแคบสุดที่ f/4.0, 23mm (wide), 1/1.31″, ขนาดพิกเซล 1.2µm, รองรับระบบ Dual Pixel PDAF, Laser AF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 75mm, ระบบ PDAF (10cm – ∞), ระบบกันสั่น OIS และซูมแบบออปติคอล 3.2 เท่า
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2, 14mm และถ่ายมุมกว้างได้ 115 องศา
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล (wide) สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K@30/60fps, 1080p@30/60fps, gyro-EIS, รองรับโหมด HDR และโหมด Panorama
รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, ไมโครโฟน 4 ตัวที่สามารถบันทึกเสียงได้แบบ 360 องศา, ลำโพงสเตอริโอรองรับ Dolby Atmos, Hi-Res Audio และ Hi-Res Wireless,
รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP68. รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G/5G แบบ Dual Mode (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e/7, dual-band, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.4, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C
และใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,880mAh รองรับการชาร์จเร็วแบบผ่านสาย 120W ชาร์จ 100% ภายใน 18 นาที, ชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W ชาร์จ 100% ภายใน 18 นาที
รวมทั้งรองรับการชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W ชาร์จ 100% ภายใน 46 นาที และรองรับการชาร์จแบบย้อนกลับ Reverse Charging 10W รองรับอะแดปเตอร์ Quick Charge 4 และ Power Delivery 3.0
ทั้งนี้ Xiaomi 14 Pro มีให้เลือก 4 สี 2 วัสดุโดยตัวเครื่องวัสดุกระจกจะมีสีดำ, สีขาว และสีเขียวเข้ม และจะมีตัวเครื่องรุ่นพิเศษ Titanium Edition ที่มีเพียงแค่รุ่นความจุเดียว 16GB + 1TB โดยเปิดให้สั่งจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ประเทศจีน
ส่วนราคามีดังนี้
- RAM 12GB + 256GB ราคา 4,999 หยวน หรือประมาณ 25,000 บาท
- RAM 16GB + 512GB ราคา 5,499 หยวน หรือประมาณ 27,500 บาท
- RAM 16GB + 1TB ราคา 5,999 หยวน หรือประมาณ 30,000 บาท (เฉพาะรุ่นวัสดุกระจก)
- Xiaomi 14 Pro Titanium Edition (RAM 16GB + 1TB) ราคา 6,499 หยวน หรือประมาณ 32,500 บาท
ที่มา : Gsmarena