คลังเก็บ

เปิดตัว vivo X100s และ X100s Pro มาพร้อมชิป Dimensity 9300+ SoC, กล้องเซ็นเซอร์ 1 นิ้ว และชาร์จไว 100W

เมื่อช่วงปลายปีก่อน vivo ได้เปิดตัว vivo X100 Series ซึ่งประกอบด้วย vivo X100 และ vivo X100 Pro มาปีนี้ได้เปิดตัว vivo X100s และ vivo X100s Pro รุ่นอัปเกรด โดยมาพร้อมชิปเซ็ท Dimensity 9300+ รุ่นแรกของโลก พร้อมเพิ่มพลัง AI ให้แช็งแกร่งชึ้น

สเปก vivo X100s

vivo X100s

ตัวเครื่องมีขนาด 163.1 x 75.8 x 7.8 มม. และน้ำหนัก 203 กรัม หน้าจอแสดงผลจอแบนแบบ 8T LTPO AMOLED 1 พันล้านสี ความละเอียด QHD+ 2800 x 1260 พิกเซล ขนาด 6.78 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9, อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.43% โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 1-120Hz, ครอบคลุมขอบเขตสี DCI-P3 100% และความสว่างสูงสุด 3,000 nits

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 9300+ (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Immortalis-G720 MC12, RAM 12GB/16GB แบบ LPDDR5 และหน่วยความจำภายใน 256GB/512GB/1TB แบบ UFS 4.0 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Origin OS 4

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera เลนส์ ZEISS พร้อมโคตติง T* จาก Zeiss และชิปประมวลผลภาพ vivo V2 ISP พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.49″, รูรับแสง f/1.6, ระบบ PDAF, ระบบ Laser AF พร้อมเทคโนโลยี Super light-sensitive VCS bionic รุ่นที่ 2 ช่วยเก็บแสงได้สมจริงเหมือนตาเห็น และเก็บแสงได้ดีขึ้น 24.2% และระบบกันสั่น OIS มาตรฐาน CIPA 4.5 ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope Telephoto ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.6, 70mm, 1/2.0″, ระบบ PDAF, ระบบกันสั่น OIS และซูมออปติคอล 3x
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 15mm, 1/2.76″, ระบบ AF และถ่ายภาพมุมกว้างได้ 119˚

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 20mm

รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP69, ลำโพงสเตอริโอคู่, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE/5G dual Band (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6/7, dual-band, Bluetooth 5.4, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,100mAh รองรับชาร์จเร็ว 100W ชาร์จ 1-50% ภายในเวลา 11 นาที

ทั้งนี้ vivo X100s มีให้เลือก 4 สีคือ สีเขียวหินอ่อน Qingyun Green, สีขาว Moonshine White, สีดำ Space Ash และสีเทา Titanium Grey โดยเปิดให้สั่งจองอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีน และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 เป็นต้นไป

ส่วนราคามีดังนี้

  • RAM 12GB + 256GB ราคา 3,999 หยวน หรือประมาณ 20,760 บาท
  • RAM 16GB + 256GB ราคา 4,299 หยวน หรือประมาณ 22,320 บาท
  • RAM 16GB + 512GB ราคา 4,599 หยวน หรือประมาณ 23,880 บาท
  • RAM 16GB + 1TB ราคา 4,999 หยวน หรือประมาณ 26,960 บาท

สเปก vivo X100s Pro

ตัวเครื่องมีขนาด 164.1 x 75.3 x 8.9 มม. และน้ำหนัก 224 กรัม หน้าจอแสดงผลจอขอบโค้งแบบ 8T LTPO AMOLED 1 พันล้านสี ความละเอียด QHD+ 2800 x 1260 พิกเซล ขนาด 6.78 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9, อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 93.43% โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 1-120Hz, ครอบคลุมขอบเขตสี DCI-P3 100% และความสว่างสูงสุด 3,000 nits

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 3.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Mediatek Dimensity 9300+ (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Immortalis-G720 MC12, RAM 12GB/16GB แบบ LPDDR5 และหน่วยความจำภายใน 256GB/512GB/1TB แบบ UFS 4.0 และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 14 ครอบทับด้วย Origin OS 4

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera เลนส์ ZEISS APO Sonnar พร้อมโคตติง T* จาก Zeiss และชิปประมวลผลภาพ vivo V3 พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1″, รูรับแสง f/1.75, 23mm (wide), ระบบ PDAF, ระบบ Laser AF พร้อมเทคโนโลยี Super light-sensitive VCS bionic รุ่นที่ 2 ช่วยเก็บแสงได้สมจริงเหมือนตาเห็น และเก็บแสงได้ดีขึ้น 24.2% และระบบกันสั่น OIS มาตรฐาน CIPA 4.5 ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ ZEISS APO Periscope Telephoto ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/2.5, 100mm, 1/2″, ระบบ PDAF (18cm – ∞), ระบบกันสั่น OIS และซูมออปติคอล 4.3x และซูมดิจิทัล 100x
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 15mm, 1/2.76″, ระบบ AF และถ่ายภาพมุมกว้างได้ 119˚

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0, 20mm

รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังใต้หน้าจอ, รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP69, ลำโพงสเตอริโอคู่, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE/5G dual Band (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6/7, dual-band, Bluetooth 5.4, NFC, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,400mAh รองรับชาร์จเร็ว 100W ชาร์จ 1-50% ภายในเวลา 12 นาที และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W

ทั้งนี้ vivo X100s Pro มีให้เลือก 3 สีคือ สีขาว Moonshine White, สีดำ Dark Night และสีเทา Titanium Grey โดยเปิดให้สั่งจองอย่างเป็นทางการแล้วที่ประเทศจีน และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 เป็นต้นไป

ส่วนราคามีดังนี้

  • RAM 12GB + 256GB ราคา 4,999 หยวน หรือประมาณ 25,960 บาท
  • RAM 16GB + 512GB ราคา 5,599 หยวน หรือประมาณ 29,070 บาท
  • RAM 16GB + 1TB ราคา 6,199 หยวน หรือประมาณ 32,190 บาท

ฟีเจอร์กล้องใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน vivo X100s Series

โหมดกล้องแนว Street Photography

vivo X100s Series ได้เพิ่มโหมดกล้องแนวใหม่ที่เรียกว่า Humanistic Street Photography โดยเป็นโหมดถ่ายภาพระดับโปรที่ทำเพื่อคนที่ชอบถ่ายภาพแนวสตรีทโดยเฉพาะ

โดยมากับหน้าตา UI ต่าง ๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกล้อง DSLR สามารถปรับแต่งปุ่มชัตเตอร์ และลายน้ำต่าง ๆ ได้ตามความชอบของตัวเอง ส่วนฟีเจอร์การถ่ายภาพเด็ด ๆ ในโหมดนี้ประกอบไปด้วย

  • เลือกโทนภาพได้ 4 แบบ Vivid เน้นจัดจ้าน, ZEISS เน้นสีธรรมชาติ, Textured ดัน Contrast ดึงรายละเอียด และ B/W ถ่ายขาวดำ
  • เลือกระยะ Focal Length ได้ 5 ระยะ 24มม. / 28มม. / 35มม. / 50มม. / 85มม.
  • ปรับรูรับแสงเบลอหลังได้ตั้งแต่ f/0.95 – f/16
  • ปรับค่าชดเชยแสงได้สะดวก รวดเร็ว
  • ปรับ Shutter Speed ได้ตามใจ
  • มีโหมด C1 และ C2 ให้เลือกปรับการตั้งค่ากล้องได้เองเหมือนกล้องจริง

Telephoto Stage มี AI เสริม ซูมถ่ายคอนเสิร์ตชัด

vivo X100s Series มีระบบที่เรียกว่า Telephoto Stage ที่มีการใช้อัลกอริทึมของระบบถ่ายภาพ BlueImage ที่ vivo พัฒนาเองเข้ามาช่วยปรับไม่ให้ภาพ หรือวิดีโอในคอนเสิร์ตมีปัญหาแสงล้น Overexposure หลุดโฟกัส ช่วยดึงรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งสีหน้า หรือรายละเอียดเสื้อผ้าของนักร้องให้คมชัดแม้ซูมไกล

โดยใน vivo X100s รุ่นมาตรฐาน และรุ่น X100s Pro จะรองรับการถ่ายวิดีโอในโหมด Telephoto Stage ที่ระยะ 20x ส่วนในรุ่นท็อปสุดอย่าง vivo X100 Ultra จะรองรับที่ระยะ 30x

ฟีเจอร์  AI Visual Effects ถ่ายภาพเปลี่ยนฤดูได้

ในโหมดถ่ายภาพ Portrait บน vivo X100s Series ทุกรุ่นได้มากับฟีเจอร์ AI สนุก ๆ ที่มีชื่อว่า  AI Visual Effects ที่สามารถ Generate เปลี่ยนฉากหลัง และแสงเงาต่าง ๆ ในภาพให้เป็นฤดูที่แตกต่างกันไปได้ทั้งหมด 4 ฤดู ทั้งฤดูใบไม้พลิ ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูร้อน รวมถึงฤดูหนาวไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็เหมือนถ่ายรูปอยู่ต่างประเทศได้