รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ
ดีไซน์สุดลักชูจากการคอลแลบ realme Design Studio x Ollivier Savéo
การออกแบบ realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G เกิดจากความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง realme Design Studios ซึ่งผนึกกำลังกับ Ollivier Savéo (โอลิวิเยร์ ซาเวโอ) ผู้ผลิตนาฬิกาหรูชั้นนำของฝรั่งเศส
ซึ่งเคยฝากผลงานการคอลแลบกับแบรนด์นาฬิกาหรูของสวิสทั้ง Rolex, Roger Dolby, Piaget, Breitling และ Quentin เพื่อผสานศาสตร์แห่งการออกแบบตัวเรือนนาฬิการะดับมาสเตอร์เข้ากับเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนที่สมบูรณ์แบบที่สุดของวันนี้
โอลิวิเยร์ต้องการให้ 12 Pro+ 5G และ 12+ 5G มอบความสวยงามโดดเด่นเสมือนเป็นเครื่องประดับชิ้นงามในมือคุณ ผ่านการนำเสนอรายละเอียดงานออกแบบที่ซับซ้อนเหนือกว่าสมาร์ตโฟนทั่วไป
โดยได้ดีไซน์กรอบของโมดูลกล้องแบบ Golden Fluted Bezel ที่ผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยใช้เครื่องกลึง CNC (Computer Numerical Control) คุณภาพสูง
พร้อมตกแต่งขอบด้วยเส้นโลหะที่เซาะร่องอย่างแม่นยำกว่า 300 เส้น กระบวนการนี้เพื่อสร้างกรอบที่สวยงามดั่งตัวเรือนของนาฬิกาหรูแบบ 360° (ดีไซน์ขอบ Golden Fluted Bezel มีเฉพาะในรุ่น realme 12Pro+ 5G)
ในส่วนของแผงหน้าปัดใช้การขัดเงาแบบ Sunburst ที่ขัดเงาแบบวงมากกว่า 500 วง เพื่อสร้างพื้นผิวยูวีไล่ระดับแสงอันน่าหลงใหลและเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ส่งผลให้ส่วนโมดุลกล้องดูเปล่งประกายในทุกองศาการมอง และช่วยขับเน้นจุดเด่นเรื่องกล้องของให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนมากยิ่งขึ้น
พื้นที่ส่วนใหญ่ของฝาหลังถูกหุ้มด้วยหนังวีแกน (Vegan Leather) และเย็บตกแต่งเส้นกึ่งกลางแนวตั้งด้วยตะเข็บแบบ 3D Jubilee Bracelet ซึ่งเป็นการร้อยเรียงรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนต่อเนื่องกัน เพื่อให้ตะเข็บมีรูปลักษณ์แบบเมทัลลิกที่ซับซ้อนสวยงาม และยิ่งมองลึกก็จะยิ่งเห็นถึงรายละเอียด
นอกจากนี้ยังรองรับการกันน้ำระดับ IP65 ซีลกาวพิเศษช่วยปกป้องอุปกรณ์จากฝุ่นน้ำ และสเปรย์ของเหลว ตัววัสดุหนังวีแกนมอบคุณสมบัติความคงทนต่อการใช้งาน ทั้งทนต่อรอยขีดข่วนและสารเคมีต่าง ๆ ได้ดี
โดยเฉพาะการทนต่อความร้อน-หนาวได้ดีอย่างทึ่ง เพราะทนทานต่ออุณหภูมิได้ตั้งแต่ระดับต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง -50° ไปจนถึงร้อนสุดขีดที่ถึง 200°C โดยที่ยังไม่เสียหายได้เลยทีเดียว!
นอกจากงานออกแบบโครงสร้างตัวเรือน ยังเปิดตัวโทนสีคลาสสิกรูปแบบใหม่ซึ่งมีแรงบันดาลใจจากอุตสาหกรรมนาฬิการะดับพรีเมียม
โดยรุ่น realme 12Pro+ 5G นำเสนอ 2 โทนสี ได้แก่ Submarine Blue สีน้ำเงินเข้มดั่งท้องทะเลลึก สะท้อนความสง่างามอันเงียบสงบโดยฉายความโดดเด่นได้อย่างแยบยล และสี Navigator Beige สื่อถึงความประณีตอันละเมียดละไม กลมกลืนไปกับแนวตะเข็บสีทองได้อย่างสวยงามลงตัว
และสำหรับรุ่น realme 12+ 5G นำเสนอโทนสี Pioneer Green สีแห่งความสง่างามและความหรูหราแบบเรียบง่ายซึ่งมักพบในหน้าปัดของนาฬิกาหรู และยังยังแฝงกลิ่นอายของการผจญภัยและแมกไม้สีเขียวได้อย่างอ่อนโยน และสี Navigator Beige เช่นเดียวกับรุ่น Pro+
ด้านหน้า realme 12 Pro+ 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขอบโค้ง 120Hz Curved Vision Display มอบประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด โดยเป็นจอ OLED 1.07 พันล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2412 พิกเซล ขนาด 6.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 93%
พร้อมอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz. อัตราตอบสนองหน้าจออัตโนมัติ 2000Hz, ช่วงสี DCI-P3 100%, ความสว่างสูงสุด 950nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, ปรับความสว่าง: 20,000 ระดับ, รองรับอัตราการหรี่แสง 2160Hz PWM, รับรองการป้องกันดวงตาโดย TÜV Rheinland และกระจกป้องกันความแข็งแรงสูง 0.55 มม.
ส่วนด้านหน้าของ realme 12+ 5G เป็นหน้าจอแสดงผลจอแบน 120Hz Ultra Smooth OLED Display ความละเอียด FHD+ 1080 x 2400 พิกเซล 16.7 ล้านสี ขนาด 6.67 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 92.65%
โดยมีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz, อัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz, ปรับความสว่างได้ 4,096 ระดับ, ความสว่างสูงสุด 2000nits, อัตราส่วนคอนทราสต์ 5000000:1, รองรับ HDR10+
และได้ TÜV Rheinland Low Blue Light Certification รวมทั้งรองรับ Rainwater Smart Touch และมีฟีเจอร์ Sunlight Display
ตรงกลางด้านบนเจาะรูฝังกล้องเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Sony Selfie Camera รูรับแสง f/2.4 (realme 12 Pro+ 5G) และความละเอียด 16 ล้านพิกเซล AI Selfie Camera รูรับแสง f/2.45 (realme 12+ 5G)
พลิกมาด้านหลังเครื่อง realme 12 Pro+ 5G ดีไซน์ขอบโค้ง โดยตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้องเลนส์ 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED และข้อความ 120X CAMERA อยู่ในโมดูลทรงกลมแบบ Golden Fluted Bezel
ถัดจากโมดูลกล้องตรงกลางลงมามีการเย็บตกแต่งเส้นกึ่งกลางแนวตั้งด้วยตะเข็บแบบ 3D Jubilee Bracelet และด้านซ้ายล่างมีโลโก้ realme
ส่วนด้านหลังเครื่อง realme 12+ 5G ดีไซน์ขอบเหลี่ยม โดยตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้อง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED และข้อความ OIS CAMERA อยู่ในโมดูลทรงกลมขนาดใหญ่ที่ได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์หน้าปัดนาฬิกา
โดยมาพร้อมกับหน้าปัด Sunburst ที่ถูกขัดเงา และแปลงเป็นโมดูลเลนส์ทรงกลม ถัดจากโมดูลกล้องตรงกลางลงมาเย็บตกแต่งเส้นกึ่งกลางแนวตั้งด้วยตะเข็บแบบ 3D Jubilee Bracelet และด้านซ้ายล่างมีโลโก้ realme
โดยกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ของ realme 12 Pro+ 5G ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX890, เลนส์ 6P, รูรับแสง f/1.8, 24mm (wide), 1/1.56″, 1.0µm, ระบบ multi-directional PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Periscope ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ OmniVision OV64B, เลนส์ 4P, รูรับแสง f/2.8, 71mm, 1/2.0″, 0.7µm, ระบบ PDAF, ระบบกันสั่น OIS และซูมออปติคอล 3 เท่า
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์ 5P, รูรับแสง f/2.2, 16mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้าง 112 องศา
ขณะที่กล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera ของ realme 12+ 5G ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony LYT-600, เลนส์ 5P, รูรับแสง f/1.88, 26mm (wide), 1/1.95″, ระบบ PDAF และระบบกันสั่น OIS
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์ 5P รูรับแสง f/2.2, 16mm, 1/4.0″, 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 112 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เลนส์ 3P รูรับแสง f/2.4
ด้านซ้ายข้างเครื่อง realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G ออกแบบเรียบๆ ไม่มีปุ่มกดใดๆ
ด้านขวาข้างเครื่อง realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G มีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง
ด้านบนเครื่อง realme 12 Pro+ 5G มีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2 สำหรับตัดเสียง กับช่องลำโพงเสียง
ขณะที่ realme 12+ 5G มีช่องไมโครโฟนตัวที่ 2สำหรับตัดเสียง, พอร์ตอินฟราเรด และช่องหูฟัง 3.5 มม. (หายากแล้วในสมาร์ตโฟนสมัยนี้)
ด้านท้ายเครื่อง realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G มีช่องใส่ซิมการ์ด, ช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
โดยช่องใส่ SIM Card ของ realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G จะเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง ไม่มีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกมาให้
รอพบกับงานเปิดตัว realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G พร้อมกัน 21 มีนาคม ผ่านช่องทาง Facebook, Youtube และ Tiktok ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป
แล้วพบกับรีวิวเต็มของ realme 12 Pro+ 5G และ realme 12+ 5G ในวันเดียวกันด้วยครับ
เกาะติดข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ จาก realme Thailand ผ่านช่องทาง
Facebook: (https://www.facebook.com/realmeTH)
Instagram: (https://www.instagram.com/realme_thailand)
Tiktok: (https://www.tiktok.com/@realme_thailand)
Twitter: (https://twitter.com/realmeTH)
Youtube: (https://www.youtube.com/@realmeThailandTH)
#realme12ProPlus5G #realme12Plus5G #BeAPortraitMaster
#realme12Series5G #realme #realmeTH