โตชิบา ทีวี (Toshiba TV) ฉลองครบรอบการก้าวสู่ปีที่ 70 จัดงานแถลงข่าวทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในตลาดทีวีไทย ปี พ.ศ. 2565 เดินหน้ารับความท้าทายครั้งใหม่ นำ “โตชิบา ทีวี” สมาร์ททีวีสุดล้ำรุ่นล่าสุด มาพร้อมเทคโนโลยี REGZA ครบครันด้วยภาพและเสียงที่เหนือระดับด้วยคุณภาพระดับโรงภาพยนตร์ ลุยขยายส่วนแบ่งการตลาดทีวีพรีเมียม ตั้งเป้ายอดขาย 330 ล้านบาท ณ ชฎารูม โรงแรมสยามเคมปินสกี้
มร.เจสัน ซู ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปส่วนงานปฎิบัติการต่างประเทศ TVS REGZA Corporation Japan เผยว่า “แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ภาพรวมของตลาดทีวีในประเทศไทยที่มีมูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท จะอยู่ในภาวะค่อนข้างอิ่มตัว และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพียง 3% ต่อปี อันเนื่องมาจากภาคเศรษฐกิจที่หดตัวจากผลกระทบของวิกฤติโควิด-19 ภายในประเทศ และวิถีชีวิตของคนในสังคมที่เข้าสู่ยุค “Mobile First” เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เมื่ออยู่นอกบ้านและภายในบ้าน
แต่ขณะเดียวกันได้เป็น “ความท้าทายครั้งใหม่” ของแบรนด์ผู้ผลิตทีวีเพื่อที่จะผลักดันให้ตลาดทีวีเติบโตต่อไปได้ โดยเฉพาะในกลุ่มสมาร์ททีวี ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 50% ในกลุ่มยุโรป อเมริกา และสิงคโปร์ ขณะที่ในไทยยังอยู่ที่ 25% ของมูลค่าตลาดทีวีในไทย ซึ่งจากนโยบายการเปิดประเทศและการกำหนดให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นในปีนี้ เป็นปัจจัยเชิงบวกสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทยอยฟื้นตัว และการขยายตัวของความเป็นเมือง (Urbanization)
ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลดีต่อ “โตชิบา ทีวี” ในการปลุกกระแสความต้องการของผู้บริโภคในตลาดทีวีอีกครั้ง เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมความสุขและความบันเทิงภายในบ้านของครอบครัว ด้วยสมาร์ททีวีที่มาพร้อม “นวัตกรรม” ที่พัฒนาไปไกล เติมเต็มความสมบูรณ์แบบจากการดึงคอนเทนต์บนมือถือหรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมารับชมผ่านจอทีวีที่มีขนาดใหญ่
ด้วยเทคโนโลยีภาพและเสียง REGZA ซึ่งเป็นตัวย่อของคำว่า “Real Expression Guaranteed by amazing Architecture แทนความหมายถึงความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ของโตชิบา ทีวี ที่จะนำเสนอเฉพาะโซลูชันที่ดีที่สุด จึงให้ภาพที่มีความคมชัดระดับ 4K และเสียงที่สมจริงประหนึ่งอยู่ในโรงภาพยนตร์
พร้อมเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์และคุณสมบัติอัจฉริยะอีกมากมาย ทำให้ได้อรรถรสความบันเทิงมากกว่า ในราคาที่คุ้มค่าและเข้าถึงได้ง่าย โดยปีนี้ โตชิบา ทีวี พร้อมแนะนำ ไลน์อัพผลิตภัณฑ์ใหม่รวม 6 รุ่นด้วยกัน”
ด้าน มร.ทัตสึฮิโระ นิชิโอกะ ผู้จัดการด้านภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์โตชิบา ทีวี, Toshiba TV Global TVS REGZA Corporation เผยว่า “โตชิบา ทีวี (Toshiba TV) เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ.1952 และตลอด 70 ปี ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะแบรนด์ทีวีชั้นนำระดับโลกด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นครั้งแรกในโลกและครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นมากมาย ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นแบรนด์ทีวีคุณภาพระดับพรีเมียม ที่มาพร้อมเสน่ห์และสไตล์ความเป็นญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียบง่ายแต่มีสไตล์ เป็นการหลอมรวมระหว่างงานฝีมือชั้นสูงและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
โตชิบา ทีวี ได้สร้างนวัตกรรมเพื่อเปิดโลกใหม่แห่งความบันเทิง อาทิ ทีวีกรอบจอคู่ (double-window) การชมแบบปรับเวลา (time-shift viewing) การชมภาพ 3 มิติแบบไม่ต้องใช้แว่นตา (glasses-free 3D) และอัลตร้าเอชดี 4 เค (UltraHD 4K) เพื่อมอบประสบการณ์รับชมภาพในบ้านที่เสมือนนั่งชมในโรงภาพยนตร์
โตชิบา ทีวี มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์รับชมภาพและเสียงที่สมจริงที่สุดด้วยเทคโนโลยีขั้นสุดยอดที่สร้างคอนเทนต์ตรงตามแบบฉบับที่ผู้สร้างคอนเทนต์ตั้งใจมอบให้ ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าได้รับชมภาพและฟังเสียงอย่างสมจริงและตื่นเต้นมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อนำไปสู่การยกระดับการใช้ชีวิตของทุกคน
ในปี พ.ศ.2561 ตลาดสมาร์ททีวีทั่วโลกมีมูลค่า152.96 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะสูงถึง 288.71 พันล้านดอลลาร์ใน พ.ศ.2568 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม 9.5% ตลอดระยะเวลาคาดการณ์ตามผลสำรวจของ Nielsen นอกจากนี้ยังพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา มีแนวโน้มในการใช้สมาร์ททีวีเพื่อหลากหลายจุดประสงค์มากขึ้น ไม่เพียงแค่รับชมข่าวสาร แต่ยังเพลิดเพลินกับบริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ จากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทีวี
อีกทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังทำให้ใครหลายคนจำเป็นต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from home : WFH) ทำให้ต้องอาศัยหน้าจอทีวีเพื่อการทำงาน และความบันเทิงเพิ่มขึ้น กรณีการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตสูงสุดในตลาดความบันเทิงภายในบ้าน ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคคาดหวังสมาร์ททีวีคุณภาพสูง
สอดคล้องตรงกับปรัชญา Truth ของโตชิบา ทีวี ซึ่งคำว่า Truth คือ คุณภาพที่ผู้บริโภคต้องการในยุคนิวนอร์มอล (New Normal) ทั้งนี้ด้วยคุณภาพของโตชิบา ทีวี แบรนด์ REGZA สามารถคว้าส่วนแบ่งตลาดถึงอันดับ 1 ในตลาดญี่ปุ่นช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม พ.ศ.2565* ดังนั้นเราจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าทีวีรุ่นใหม่ที่เราเปิดตัวในวันนี้จะตอบโจทย์ยุคนิวนอร์มอลได้เป็นอย่างดี”
ส่วน พงษ์เทพ ศิริสกุลเวโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกขายผลิตภัณฑ์ทีวี, TVS REGZA Corporation Thailand Office กล่าวว่า “เนื่องจากปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อทีวีพรีเมียมเครื่องใหม่ของผู้บริโภคกลุ่มบน อันดับหนึ่ง คือ คุณภาพของภาพและเสียง ตามมาด้วยรูปโฉมและการออกแบบ แบรนด์ และฟังก์ชั่นสมาร์ททีวี ซึ่งเป็นจุดได้เปรียบของโตชิบา ทีวี ที่ใช้เทคโนโลยี ภาพ REGZA Engine 4K PRO ระบบประมวลผลอัจฉริยะ มีพลังการวิเคราะห์ภาพที่แม่นยำ ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสีควอนตัมดอท (Quantum Dot) และระบบปรับความสว่างแบบ Full Array Local Dimming
อีกทั้งยังเพิ่มความคมชัดของภาพยิ่งขึ้นด้วยระบบอัจฉริยะหลักของโตชิบา AI Ultra Essential PQ Technology เพื่อการรับชมภาพที่สมจริงที่สุด พร้อมทั้งระบบ REGZA Engine ที่ช่วยยกระดับภาพคอนเทนต์ Full HD ในทุก ๆ เนื้อหา เช่น รายการทีวี, DVD, Blu-ray และสตรีมมิ่ง ให้มีความคมชัดเทียบเท่า 4K ด้านประสบการณ์รับฟังเสียงที่สมจริงก็เป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีเสียง REGZA Power Audio Technology รวมทั้ง REGZA Power Audio PRO+ ที่มาพร้อมกับ Quad Passive REGZA bass woofer ให้เสียงสมจริงสุดเร้าใจ และ REGZA Power Audio PRO ที่ติดตั้ง Power Bass Booster ให้เสียงอันทรงพลัง
พร้อมยกระดับความบันเทิงด้วย Dolby Atmos และประสบการณ์เสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทางที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งได้รับการปรับแต่งคุณภาพจากห้องปฏิบัติการในประเทศญี่ปุ่น เพื่อยกระดับความบันเทิงทั้งภาพและเสียงให้เสมือนการรับชมอยู่ในโรงภาพยนตร์ ภายใต้รูปลักษณ์ดีไซน์มินิมอลสไตล์ แต่คงไว้ซึ่งโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทาน พร้อมออกแบบเส้นสายในแนวตั้งและแนวนอนให้สอดคล้องกับพื้นที่อยู่อาศัย ผสมผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างลงตัว และเพื่อฉลองครบรอบ 70 ปี เราจึงขยายไลน์อัพโตชิบา ทีวี ประจำปีนี้มีรุ่นใหม่ถึง 6 รุ่น”
สำหรับปี พ.ศ.2565 โตชิบา ทีวี รุ่นใหม่มีด้วยกัน 6 รุ่น ได้แก่: X990 ซีรี่ส์ Z770 ซีรี่ส์ M550 ซีรี่ส์ C350 ซีรี่ส์ V35 ซีรี่ส์ และ S25 ซีรี่ส์
นายพงษ์เทพ เพิ่มเติมว่า “โตชิบา ทีวี ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 10% ภายใน 5 ปี เพื่อขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายทั้งยอดขายและส่วนแบ่งตลาด เราจะดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่ช่วยกระตุ้นการซื้อ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค การขยายช่องทางการขาย ส่งเสริมแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและสร้างการรับรู้แบรนด์ให้ดียิ่งขึ้นผ่านโซเชียลมีเดีย รวมถึงรีวิวโดยนักอินฟลูเอนเซอร์ และการชูจุดแข็งขององค์กรให้แพร่หลายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังชูกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอล FIFA World Cup 2022 อย่างเป็นทางการ และฉลองครบรอบ 70 ปี ของโตชิบา ทีวี เพื่อให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มเป้าหมาย”
ติดตามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ “โตชิบา ทีวี” และกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ ได้ที่ Facebook : Toshiba TV Thailand / https://www.th.toshiba-visual.com/