คลังเก็บ

วาเลนไทน์นี้ขอชวนคนติดแฟน มารู้จักอาชีพอิสระ รายได้ดี ที่ได้ใช้เวลากับแฟนทั้งวัน กับงานส่งอาหารผ่าน Gojek

วงการฟู้ดเดลิเวอรี่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วยความสะดวกสบายและปลอดภัยไม่ต้องเดินทางออกนอกบ้านก็สามารถสั่งอาหารที่อยากกินได้ตลอดเวลา และสามารถช่วยเว้นระยะห่างทางสังคมได้อีกด้วย ต้องบอกว่าเมื่อคนสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันมากขึ้น เราก็จะเห็นพี่ๆ คนขับมอเตอร์ไชค์ส่งอาหารมากขึ้นตามไปด้วย เพื่อรองรับกับความต้องการของลูกค้า ทั้งเป็นรายได้หลักและรายได้เสริมในช่วงที่ไม่มีงาน ทำให้หลายครั้งเราได้เห็นภาพน่ารักๆ ของคู่รักที่พากันมาส่งอาหารเป็นคู่แบบไม่กลัวลูกค้าอิจฉา วันนี้ เราขอพาไปทำความรู้จักกับคู่รักที่ทำอาชีพส่งอาหารกับแอป Gojek อาชีพอิสระที่ทำให้ไม่ต้องห่างจากแฟน และช่วยสร้างรายได้นำไปเลี้ยงครอบครัวได้จริง

Gojek

กิตติพันธ์ “อ๊อฟ”  ปภัสเลิศพงศ์ อายุ 27 ปี และ ชะบาไพร “แพร” ชัยปัญญา อายุ 35 ปี  คบหากันมายาวนานถึง 6 ปี ทั้งคู่ลาออกจากงานประจำและหันมาทำอาชีพส่งอาหารคู่กันกับแอปพลิเคชัน Gojek เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว ทั้งอ๊อฟและแพรคิดตรงกันคืออยากมองหาอาชีพอิสระที่สร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและดูแลครอบครัวได้ รวมถึงสามารถแบ่งเวลาดูแลกันและกัน และมีเวลาให้ครอบครัว

คุณอ๊อฟ เล่าว่า “เมื่อก่อนเคยทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการร้านที่ทำงานเดียวกันกับแพร เจอแพรที่ทำงาน ชอบแพรเพราะตอนทำงานด้วยกันแพรจะชอบบ่นเยอะ เสียงดัง และเค้าตัวเล็กน่ารัก ช่วงเที่ยงพักกินข้าวเจอกันเรื่อยๆ เลยชอบและผูกพันกันมากขึ้นจึงตัดสินใจคบหากัน แต่ด้วยงานค่อนข้างหนักและทำงานเป็นกะไม่ค่อยมีเวลา ทางบริษัทก็มีนโยบายที่ไม่อนุญาตให้พนักงานคบกันได้ในที่ทำงานเดียวกัน อ๊อฟจึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และเปลี่ยนไปทำงานที่ร้านกาแฟแทน จากนั้นอยากหาอาชีพใหม่ที่อิสระมากขึ้นและมีเวลามากขึ้น เลยมาสมัครเป็นคนขับมอเตอร์ไซค์ส่งอาหาร มองว่าเป็นอาชีพอิสระ ถ้าเราขยันก็สามารถหาเงินได้เยอะ แต่เมื่อเทียบกับการทำงานประจำเราเหนื่อยมากขึ้นแต่ค่าตอบแทนเงินเดือนก็ได้เท่าเดิม  อ๊อฟขับรถมอเตอร์ไซค์ส่งอาหารมาได้ 2 ปีกว่าแล้ว โดยขับกับ GET ก่อนที่จะรีแบรนด์เป็น Gojek เมื่อก่อนรายได้ต่อวันก็ประมาณ 2 พันกว่าบาท ขึ้นกับความขยันของแต่ละคนด้วยถ้าช่วงเสาร์-อาทิตย์รายได้จะเยอะมากขึ้นเพราะคนหยุดอยู่บ้านก็จะสั่งกันเยอะ  พอเห็นว่ารายได้ดีจึงแนะนำแฟนให้มาสมัครทำเป็นงานเสริมก่อนจะลาออกมาทำด้วยกันทั้งคู่”

คุณแพร เล่าเสริมว่า “เมื่อก่อนทำงานประจำเป็นแคชเชียร์ร้านสะดวกซื้อ ทำงานค่อนข้างหนักและไม่มีเวลาพักผ่อนเป็นของตัวเอง วันหยุดส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถหยุดได้ ช่วงเทศกาลก็ลาไปเที่ยวไม่ได้ และต้องเข้างานเป็นกะเวลาไม่ตรงกับครอบครัวและไม่ค่อยเจอแฟน ตัวเองยังชอบเที่ยวอยากเดินทาง อยากไปไหนก็ได้เลยพยายามมองหาอาชีพเสริมก่อน และได้รับคำแนะนำจากอ๊อฟว่าขับแอปรายได้ดี แพรจึงทำเป็นอาชีพเสริมอยู่ประมาณ 4-5 เดือน ก่อนตัดสินใจลาออกจากงานประจำและมาทำเต็มตัวกับ Gojek ประมาณเดือนมกราคม ปี 63 ช่วงโควิด-19 พอดี รู้สึกแฮปปี้มากที่เช้า 8 โมงก็เริ่มทำงาน 1 ทุ่มก็เลิกงานแล้ว สามารถบริหารจัดการเวลาได้เองอยากไปไหนก็ตัดสินใจเองได้เลย”

ปัจจุบันทั้งคู่มาขับรถมอเตอร์ไซค์ส่งอาหารด้วยกันใช้รถคันเดียวกัน โดยคุณอ๊อฟทำหน้าที่เป็นคนขับและคุณแพรแฟนสาวนั่งซ้อนท้ายมีหน้าที่เปิดแอปรับงานและไปสั่งอาหารจากร้าน พอไปถึงลูกค้าคุณแพรจะเดินไปส่งให้ถึงตึกเพราะบางออฟฟิศยอมให้ขึ้นไปส่งบนตึกได้ หรือลูกค้าบางคนติดประชุมลงมาไม่ได้ลูกค้าก็จะชอบให้ขึ้นไปส่ง 

คุณแพรเล่าต่อว่าเธอมองว่าการทำงานด้วยกันช่วยทำให้งานง่ายและสะดวกมากขึ้น คนขับไม่ต้องไปวนหาที่จอด ไปส่งถึงมือลูกค้าเร็วและทำให้รับงานได้มากขึ้น ที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณแพรคือนี่เป็นอาชีพที่ได้ทำงานใกล้ชิดอยู่กับแฟนตลอดเวลา ทำให้เธอมีความสุขมากจริงๆ ที่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น 

นอกจากนั้น ทั้งคู่ยังบอกว่าพอมาทำงานด้วยกันก็เห็นมุมน่ารักของกันและกันมากขึ้น อย่างบางวันร้อนมาก คุณอ๊อฟก็จะถามคุณแพรว่าร้อนมั้ย ทำงานด้วยกัน กินข้าวกลางวันด้วยกันทุกวัน ตอนนี้ทั้งคู่สนุกและชอบงานนี้มาก มองว่าจะทำงานนี้ด้วยกันไปอีกนานๆ โดยทั้งคู่เวลาเหนื่อยก็จะคอยให้กำลังใจกันเองว่าสู้ๆ อดทนนะ สู้เพื่อครอบครัวเรา 

วันวาเลนไทน์ปีนี้ คุณแพรบอกว่าก็ยังคงทำงานด้วยกันกับคุณอ๊อฟ เสิร์ฟอาหารถึงมือลูกค้าและคู่รักที่รอฉลองวาเลนไทน์ด้วยกันก่อน พอเลิกงานก็จะไปหาของอร่อยๆ กินกัน ส่วนคุณอ๊อฟบอกว่ามีเตรียมเซอร์ไพรส์ให้แฟนอยู่แล้ว

ทั้งคู่ฝากทิ้งท้ายถึงคนที่ตกงานหรืออยากหางานทำช่วงนี้ ใครอยากทำงานที่อิสระมากขึ้นมีเวลาให้ครอบครัวที่หรือคนรักมากขึ้น สามารถถมาสมัครเป็นพาร์ทเนอร์คนขับกับ Gojek ได้ วิธีการสมัครก็ง่ายไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gojek.com/th