นับเป็นเวลาเกือบ 10 ปีแล้วที่หูฟังแบบ TWS ได้ถือกำเนิดขึ้น พร้อมดีไซน์ไร้สายที่ทำให้ผู้ใช้งานได้รับความบันเทิงแบบ on-the-go ไปจนถึงทำงานได้อย่างคล่องตัว จนเมื่อต้นเดือนมกราคม 2024 ที่ผ่านมานี้เอง หัวเว่ยได้เซอร์ไพรซ์วงการแก็ดเจ็ตอีกครั้งด้วยหูฟังที่เรียกได้ว่าเป็นก้าวใหม่ที่น่าจับตามองของแบรนด์
วันนี้เราจึงขอแนะนำหูฟัง HUAWEI FreeClip ให้ทุกคนได้สัมผัสทั้งความชาญฉลาดแบบ Fashion Forward และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่อัดแน่นมากับหูฟังที่เป็นได้ทั้งแก็ดเจ็ตสุดล้ำและเครื่องประดับในตัวเดียว
ปฏิวัติศาสตร์แห่งดีไซน์ด้วยการออกแบบ C-Bridge Ergonomic Design สวมใส่สบายในทุกโอกาส
ใครใช้หูฟังคงทราบกันดีว่าเรามักจะชั่งน้ำหนักว่าจะเลือกระหว่าง “ความสบายในการสวมใส่” หรือ “การยึดเกาะที่มั่นคง” หัวเว่ยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกสมาร์ทดีไวซ์ที่ได้รับการขนานนามว่า Fashion Forward หรือ แฟชั่นล้ำหน้า ได้นำไอเดียนี้เข้ามาพัฒนา HUAWEI FreeClip อย่างลงตัว โดยหูฟังหน้าตาไม่ซ้ำใครนี้ได้รับการออกแบบมาให้เป็น C-bridge Design ซึ่งหมายถึงบอดี้โค้งรูปตัว C ทำหน้าที่ทั้งเชื่อมต่อส่วนลำโพง และส่วนควบคุมไว้ด้วยกัน และยึดเกี่ยวหูของผู้สวมใส่ไว้ให้มั่นคง เมื่อมองเผินๆ จะดูเหมือนสวมเครื่องประดับแฟชั่นสุดล้ำชิ้นหนึ่ง
หัวเว่ยออกแบบ C-bridge Design นี้ โดยได้ศึกษามาแล้วว่าองศาการยึดเกาะหูที่ทำให้รู้สึกคล่องตัวและสบายที่สุดคือ 11.4° ส่วนโลหะรูปตัว C จึงใช้องศาโค้งเดียวกันเพื่อให้ผู้สวมใส่ใช้งานได้นานโดยไม่เจ็บ ขณะเดียวกันวัสดุที่ใช้ก็เป็นโลหะเส้น Ni-Ti ประสิทธิภาพสูงที่มีความยืดหยุ่น สามารถยึดเกาะใบหูได้อย่างมั่นคง และมีน้ำหนักเบาเพียง 5.6 กรัม[1]
Acoustic Ball อัจฉริยะ มอบประสบการณ์เสียงฟังชัดเหนือระดับ
ส่วนลำโพงของ HUAWEI FreeClip เรียกว่า Acoustic Ball ทำหน้าที่เป็นเสมือนลูกบอลกระจายเสียงที่มีขนาดพอเหมาะพอดี ออกแบบมาให้มีความโค้งมนรับกับโพรงหู ช่วยลดแรงดัน หรือแรงกดจากการใส่หูฟังให้แน่น พร้อมเหลือพื้นที่ให้มีอากาศถ่ายเท มอบความสบายเมื่อใส่เป็นเวลานาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการใช้เทคโนโลยีเสียงแบบ Open-ear ป้องกันไม่ให้ช่องหูถูกอุดทั้งหมด ช่วยให้ผู้ฟังมีประสบการณ์เสียงชัดเจนสมจริงขณะที่ยังคงสามารถได้ยินเสียงสภาวะแวดล้อมรอบด้านได้อยู่
แม้ยังได้ยินเสียงภายนอก แต่ Acoustic Ball ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Dual-Magnet High-Sensitivity ทำให้เรายังคงฟังเสียงในหูฟังได้อย่างชัดเจน โดยใช้แม่แหล็กจับความเข้มของเสียงเบส และเสียงแหลมของเพลงที่ฟัง มาขยายศักยภาพของลำโพงให้มอบเสียงที่มีคุณภาพตลอดการใช้งาน ในสภาพแวดล้อมที่จอแจ อัลกอริทึม Adaptive Equal-Loudness ก็จะเพิ่มระดับความถี่ของเสียงให้ยังฟังเนื้อหาต่างๆ ได้ชัดเจน ในทางกลับกันคนรอบข้างก็จะไม่ได้ยินเสียงดังเล็ดลอดออกมา เพราะช่องลำโพงที่ออกแบบให้อยู่ด้านหลังของ Acoustic Ball นั้นมี Reverse Sound Waves System หรือการป้องกันเสียงเล็ดลอดด้วยเทคโนโลยีแม่เหล็ก ให้ข้อมูลสำคัญหรือเสียงเพลงไม่รั่วไหลให้คนรอบข้างได้ฟังไปด้วย
เมื่อความสะดวกสบายพบกับความชาญฉลาดด้วย Comfort Bean
สิ่งที่ทำให้ HUAWEI FreeClip มีความแตกต่างอย่างชัดเจนคือ Comfort Bean หรือส่วนรองรับด้านหลังหูนั่นเอง ซึ่งออกแบบมาให้เป็นรูปเมล็ดถั่ว รับกับความโค้งเว้าของใบหู มีความยาว 12.4 มม. รองรับแรงกดจากส่วน Acoustic Ball พอดี และมีน้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย ช่วยพยุงให้หูฟังเกี่ยวใบหูอย่างมั่นคง
Comfort Bean นี้เองไม่ได้เป็นเพียงส่วนรองรับน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเสมือนศูนย์ปฏิบัติการกลางสั่งการทุกอย่าง คือเป็นแหล่งบรรจุแผงควบคุมและแบตเตอรี่ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน Multi-touch Smart Gesture Control ได้ เช่น แตะสามครั้งเพื่อเปลี่ยนเพลง แตะสองครั้งเพื่อเล่น-หยุดเพลง หรือรับ-วางสาย ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ตามความถนัดของแต่ละคน อย่างไรก็ดี Touch Control Area ของ HUAWEI FreeClip นั้นครอบคลุมทั้งตัวหูฟัง ผู้ใช้สามารถแตะเพื่อสั่งการได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นบริเวณ C-bridge Design, Acoustic Ball และ Comfort Bean เพื่อใช้งานฟีเจอร์ดังกล่าว
อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาด้วยความใส่ใจชีวิตประจำวันของผู้บริโภค
เหตุผลที่ต้องยกให้ HUAWEI FreeClip รับมงฯ หูฟังระดับ 5 ดาวแห่งปี แน่นอนว่าไม่ได้จำกัดเพียงดีไซน์อัจฉริยะเท่านั้น แต่เป็นเทคโนโลยีที่หัวเว่ยอัดมาให้เต็มๆ ด้วยความใส่ใจในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น
- Multi-Channel DNN call noise cancellation algorithm – หัวเว่ยยังคงคิดถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ที่ต้องทำงานและประชุมออนไลน์ จึงออกแบบมาให้ไมโครโฟนรับเสียง 2 ตัว จับเสียงรบกวนรอบข้างและใช้เทคโนโลยีลดเสียงแวดล้อม และเสียงลมไม่ให้เข้ามารบกวนการสนทนา
- Dual-Device Connection – หูฟังของหัวเว่ยรองรับการใช้งาน HUAWEI Super Device ให้สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ 2 เครื่องพร้อมกัน หรือเชื่อมต่อแล็ปท็อป พร้อมกับแท็บเล็ต โดยผู้ใช้ไม่ต้องเป็นต้องกดเชื่อมต่อซ้ำเมื่อสลับใช้อุปกรณ์
- แบตเตอรี่ยาวนานสูงสุด 36 ชั่วโมง – เมื่อใช้ HUAWEI FreeClip ร่วมกับเคสชาร์จ จะสามารถฟังเพลงได้ต่อเนื่องสูงสุด 36 ชั่วโมง แม้แบตฯ เคสใกล้หมด แต่เมื่อชาร์จหูฟังเพียง 10 นาที ก็สามารถใช้งานต่อได้อีกถึง 3 ชั่วโมง
- Certified Sweat-Resistant ป้องกันละอองเหงื่อและฝุ่นตามมาตรฐาน IP54
- Smart Wear Detection – ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องสังเกตุว่าหูฟังเป็นข้างซ้ายหรือขวา เพราะสลับกันใช้ได้อย่างอิสระโดยเทคโนโลยีนี้จะตรวจจับเองว่าหูข้างที่ใส่อยู่เป็นข้างซ้ายหรือขวา
HUAWEI FreeClip วางจำหน่ายในราคา 6,490 บาท มีตัวเลือกสีม่วงล้ำสมัย และสีดำเรียบหรู มาพร้อมเคสชาร์จทรงกลมมนถือถนัดมือ มอบความรู้สึกเรียบง่ายและสะดวกสบาย
ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Facebook Huawei Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
[1] น้ำหนักจริงอาจแตกต่างออกไปขึ้นอยู่กับการผลิต