บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด โชว์ความสำเร็จการพัฒนาสินค้าภายใต้โครงการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” กับข้าวฮาง จากวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ซึ่งตลอดการพัฒนาสินค้าในระยะเวลากว่า 9 ปี ได้ช่วยให้สมาชิกในชุมชนมีรายได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มมูลค่าข้าวให้สอดรับกับเทรนด์การดูแลสุขภาพ
พร้อมยกระดับภูมิปัญญาที่ดำเนินมากว่า 200 ปี ให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเพิ่มอัตลักษณ์ให้กับสินค้าผ่านแนวคิด 3 High ได้แก่ High Profile ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นสินค้าตัวท็อปในหมวดหมู่สินค้าทางการเกษตร
และกลุ่มสินค้าประเภทข้าวที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจและเลือกซื้อ High Benefit ในฐานะข้าวที่มีคุณค่าสูง โดยเฉพาะสาร GABA ที่ช่วยลดความดันโลหิต คลอเรสเตอรอล ความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน และ High Value ผ่านการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลัก เช่น ข้าวฮางเหนียว ข้าวฮางเจ้าหอมมะลิ ข้าวฮางหอมนิล เพิ่มมูลค่ายกระดับต่อยอดเป็นสินค้าที่มีความสร้างสรรค์ เช่น คุกกี้ข้าวฮางสามสี
ดร. ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยยังคงเดินหน้าเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรที่มีศักยภาพในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ผ่านการเป็นทั้งผู้พัฒนาสินค้า ช่องทางขนส่ง ช่องทางตลาดและการจัดจำหน่าย
รวมทั้งการปลุกปั้นแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภค โดยปัจจุบันหนึ่งในสินค้าที่เป็นที่นิยมและเป็นต้นแบบสินค้าที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องคือ “ข้าวฮาง จากวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร” ซึ่งเป็นแนวทางการต่อยอดสินค้าเกษตรที่สำคัญของไทยอย่าง “ข้าว” ให้มีมูลค่าสูงขึ้นตามเทรนด์การดูแลสุขภาพ
และยังเป็นการยกระดับภูมิปัญญาภูไทที่มีมากกว่า 200 ปี ของชาวสกลนครให้มีความโดดเด่นและมีความสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น โดยตั้งแต่เริ่มพัฒนาสินค้าดังกล่าวภายใต้โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุขเป็นระยะเวลากว่า 9 ปี ได้ช่วยให้วิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ บ้านกุดจิกมีแหล่งรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งได้รู้จักกรรมวิธีแบบใหม่ในการพัฒนาข้าวฮางให้มีคุณภาพ และยังได้การยอมรับในฐานะ OTOP ระดับสามดาวอีกด้วย
ดร. ดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาข้าวฮางภายใต้โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข ในระยะถัดไป ไปรษณีย์ได้ตั้งเป้าหมายและกำหนดอัตลักษณ์ที่สำคัญของสินค้าไว้ดังนี้
- ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นสินค้าตัวท็อปในหมวดหมู่สินค้าทางการเกษตร และกลุ่มสินค้าประเภทข้าวที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจและเลือกซื้อ สามารถป้อนตลาดคนรักสุขภาพ กลุ่มคนมีกำลังซื้อ กลุ่มผู้ป่วยหรือต้องคุมอาหารได้ทั้งช่องทางออนไลน์ www.thailandpostmart.com ที่ทำการไปรษณีย์ หรือช่องทางร้านค้าที่ให้การสนับสนุนจัดจำหน่าย อีกทั้งยังมุ่งนำเสนอสตอรี่ที่สำคัญทั้งกระบวนการในผลิตที่ปลอดภัย มาตรฐานของสินค้า ผลลัพธ์ที่ได้จากการบริโภค เป็นต้น
- High Benefit จากการผลิตด้วยกระบวนการ “แช่-นึ่ง-ผึ่ง-สี” ที่กระตุ้นให้ข้าวงอก และทำให้ข้าวมีสารอาหารต่างๆ สูง โดยเฉพาะสาร GABA ซึ่งช่วยลดความดันโลหิตและปริมาณคลอเรสเตอรอล มีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคอัลไซเมอร์ อีกทั้งมีธาตุแมงกานีส ในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง นอกจากนั้นข้าวฮางมีค่าการเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในกระแสเลือดต่ำจึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญที่มนุษย์จำเป็นต้องใช้ในการควบคุมระบบประสาทรวมทั้งกล้ามเนื้อ
- High Value ยกระดับข้าวของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีรายได้ที่มากขึ้นจากสินค้าประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์หลักอย่างข้าวฮางเหนียว ข้าวฮางเจ้าหอมมะลิ ข้าวฮางหอมนิล ข้าวฮางมันปู ข้าวฮางไรซ์เบอร์รี่ ผ่านการผลิตขึ้นใหม่ การรับผลิตตามรายการสั่งซื้อและงานแสดงสินค้าทางการเกษตร รวมทั้งการต่อยอดเป็นสินค้าที่มีความสร้างสรรค์ขึ้นและรองรับกับไลฟ์สไตล์การบริโภคใหม่ๆ ของคนเมืองอย่างเค้กกล้วยหอมข้าวฮาง ข้าวฮางกรอบ คุกกี้ข้าวฮางสามสีที่เป็นการใช้ข้าวฮางแทนแป้งสาลี มาเป็นส่วนประกอบหลักในการทำคุกกี้จากข้าวฮางที่มีคุณประโยชน์
“จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน วิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์มีสมาชิกรวม 28 ราย จัดอยู่ในหมวดหมู่วิสาหกิจชุมชนเงินล้าน มีผลผลิตข้าวเปลือกที่นำมาแปรรูปทำข้าวฮาง ประมาณ 15,000 กิโลกรัม และวิสาหกิจชุมชนฯ มีการรับซื้อข้าวเปลือกจากเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ 25,000 กิโลกรัม มีตลาดรองรับที่สำคัญ ได้แก่ รพ.วานรนิวาส เพื่อทำเป็นอาหารสุขภาพสำหรับผู้ป่วย
และแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามออเดอร์ อาทิ แป้งข้าวฮางสำหรับทำขนม คุกกี้ข้าวฮาง เค้กกล้วยหอม บราวนี่ ขนมปังกรอบ ชิฟฟ่อนข้าวฮาง การขายปลีกบนช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ฯ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 90 แห่ง มีการผลิตและมีบรรจุภัณฑ์ที่รองรับกับการจัดส่งในพื้นที่ต่างๆ ทั้งการแพ็คแบบสูญญากาศในกล่อง และการบรรจุแบบขวด สามารถส่งข้าวฮางออกจำหน่ายได้ทั่วประเทศ
นอกจากนี้ สินค้าดังกล่าวยังมีความโดดเด่นด้วยการจัดส่งที่รวดเร็วตามมาตรฐานส่งด่วน EMS เลือกซื้อได้ง่ายผ่านช่องออนไลน์ที่มีความสะดวกอย่าง www.thilandpostmart.com ปลอดภัย ให้บริการในราคาพิเศษ และจัดส่งต่อเนื่องตลอด 365 วัน”
ดร. ดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปี 2566 โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุขมีสินค้าที่เป็นไฮไลท์จาก 4 ชุมชนที่ไปรษณีย์ไทยได้พัฒนาให้เกิดรายได้ และกระจายสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศด้วยแพลตฟอร์ม Thailandpostmart.com เครือข่ายที่ทำการและมาตรฐานการขนส่งที่มีความปลอดภัยและรวดเร็ว ได้แก่
ไข่เค็ม อสม. ไชยา สินค้าเด็ดประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลาส้ม “สุขหล่ำ” จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มพัฒนาอาชีพบ้านห้วยหมากหล่ำ อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี ข้าวฮางทิพย์ จากวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ลำไยอบกึ่งแห้ง แบรนด์ “ชนะ” จากจังหวัดลำพูน
ตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข สามารถช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืนขึ้นให้กับชุมชนที่ร่วมโครงการไม่ต่ำกว่าหลักล้านบาท ช่วยนำพาให้สินค้าต่าง ๆ เข้าสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น และตอกย้ำเครือข่ายขนส่งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศให้เกิดประโยชน์ในมิติเศรษฐกิจและคุณภาพ
ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th
เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
X: @Thailand_Post
ไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post
ติ๊กต็อก : @thailandpostchannel