เผยเบื้องหลังนวัตกรรมของ HUAWEI FreeClip ที่ใช้เวลาวิจัยและพัฒนา 3 ปีเต็มในการออกแบบหูฟังที่ให้ความสะดวกสบายและยังคงประสบการณ์ด้านเสียงที่ยอดเยี่ยม แตกต่างจากหูฟัง Open-ear ในท้องตลาดทั่วไป
เรื่องราวนวัตกรรมเบื้องหลังการออกแบบ C-bridge Design
การออกแบบ C-bridge Design ได้แรงบันดาลใจจากความแข็งแกร่งและความมั่นคงของสะพานสมัยใหม่ หัวเว่ยใช้เวลา 3 ปี
ในการผลิตอย่างพิถีพิถันทั้งการออกแบบที่คำนึงถึงน้ำหนักและคุณภาพ รวมถึงยึดแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ผสมผสานประสิทธิภาพ การออกแบบ เสียง และการควบคุมของอุปกรณ์แต่ละส่วนเข้าด้วยกันอย่างลงตัว
ขณะเดียวกันก็ให้ความเสถียรและความทนทานต่อการใช้งาน ดีไซน์ของ HUAWEI FreeClip แตกต่างจากหูฟังรูปแบบคลิปหนีบหูอื่น ๆ เพราะหัวเว่ยได้ออกแบบอย่างพิเศษด้วยวิธีการทางวิศวกรรมที่ครอบคลุมและซับซ้อนเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความสวยงามและความสะดวกสบายตามหลักสรีรศาสตร์
HUAWEI FreeClip มีให้เลือกสองสี ได้แก่ สีม่วงและสีดำ โดยสีม่วงเสน่ห์แห่งเทรนด์ด้วยเฉดสีรุ้งอันน่าหลงใหล พร้อมความเงางามสดใสอันละเอียดอ่อนซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพระอาทิตย์ตกเหนือหุบเขาและสีดำดูเรียบหรูและหรูหราสะท้อนผืนผ้าใบบนท้องฟ้ายามค่ําคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาว
ยึดหลักการสวมใส่กระชับสบายตามหลักสรีรศาสตร์ ทดสอบกับผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 10,000 ราย
การออกแบบ C-bridge Design สร้างขึ้นจากข้อมูลการทดสอบกับหูผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 10,000 ราย เพื่อให้มั่นใจว่าความพอดีของหูฟังยังคงสบายและกระชับ ไม่ว่าหูของผู้ใช้จะมีขนาดและรูปร่างใดก็ตาม โครงสร้างพื้นฐานต้นแบบของ C-bridge Design ทำจากโลหะคืนรูปนิกเกิล-ไทเทเนียม (Ni-Ti) ประสิทธิภาพสูง ที่ผ่านการทดสอบการบิดมากกว่า 25,000 ครั้ง
ด้านนอกของหูฟังทำจากวัสดุ TPU พร้อมฉีดพ่นเคลือบแลคเกอร์มันวาว หูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักเพียง 5.6 กรัม[1] เพื่อการสวมใส่สบายตลอดทั้งวัน ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าหูฟังจะพอดีกับใบหูโดยไม่บังช่องหูจนแน่นเกินไป อีกทั้งโครงสร้างโค้งเว้าตามหลักสรีรศาสตร์ของ Acoustic Ball และ Comfort Bean จะทำงานร่วมกันเพื่อกระจายแรงกดทั่วทั้งหูได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เปลี่ยนประสบการณ์หูฟังแบบ Open-ear
หูฟังแบบOpen-ear ส่วนใหญ่มักมีระยะห่างของช่องเสียงจากช่องหูของผู้ใช้ ซึ่งไม่เพียงแต่ลดความชัดเจนของเสียงเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่เสียงจะเล็ดลอดออกมาอีกด้วย การออกแบบ C-bridge Design แก้ปัญหานี้โดยการสร้างระยะห่างที่เหมาะสมระหว่าง Comfort Bean และ Acoustic Ball ที่เอียงมุม 11.4° เพื่อรับพอดีเหนือช่องหูของผู้ใช้
ในขณะเดียวกัน Acoustic Ball ยังมาพร้อมเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ 13.3 มม. ให้การขับเสียงใกล้กับช่องหูมากขึ้นโดยไม่ปิดกั้นช่องหูจนสุด นอกจากนี้คุณภาพเสียงของ HUAWEI FreeClip ได้รับการเสริมด้วย 2 ฟีเจอร์ ได้แก่ ไดรเวอร์ยูนิตความไวสูงแบบแม่เหล็กคู่ และระบบ Reverse Sound Waves ไดรเวอร์วงจรแม่เหล็กคู่จะเพิ่มความเข้มของการเหนี่ยวนำแม่เหล็กสร้างความชัดเจนของเสียงและการสะท้อนที่ดีขึ้น และระบบ Reverse Sound Waves ช่วยลดการเล็ดลอดของเสียง และช่วยให้คุณดื่มด่ำไปกับเสียงได้อย่างสุนทรีย์และเป็นส่วนตัวมากขึ้น
เป็นเจ้าของก่อนใครกับโปรโมชันสุดคุ้ม 2.2 นี้
HUAWEI FreeClip วางจำหน่ายในราคา 6,490 บาท พร้อมโปรโมชัน รับฟรี HUAWEI Band 8 มูลค่า 1,899 บาท กระเป๋าหูฟัง มูลค่า 599 บาท จำกัด 50 สิทธิ์แรกเฉพาะช่องทางออนไลน์ บริการดูแลหูฟัง HUAWEI Loss Care มูลค่า 499 บาท (1 ข้าง 1ปี ในราคาส่วนลด 50%)
เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 ทางหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมทั้งช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ HUAWEI Store ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์ม Lazada และ Shopee
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์หัวเว่ยยังเข้าร่วมโครงการ “Easy E-Receipt 2024” ช้อปสูงสุด 50,000 บาท รับคืนสูงสุด 17,500 บาท
สำหรับลูกค้าที่ซื้อ HUAWEI FreeClipตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 สามารถเข้าร่วมโครงการนำใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์มาลดหย่อนภาษีตามเงื่อนไขของกรมสรรพากรได้[2]
ติดตามข่าวสารก่อนใครได้ที่ HUAWEI Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery
[1] น้ำหนักจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการกำหนดค่าผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต
[2] จะสามารถหักภาษีได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการยืนยันของกรมสรรพากร