คลังเก็บ

ยกระดับการดูแลสุขภาพไปอีกขั้น ด้วยการอัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ล่าสุดในสมาร์ทวอทช์ Galaxy Watch4 Series

ซังซุงประกาศการอัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับสมาร์ทวอทช์ Galaxy Watch4 และ Galaxy Watch4 Classic เพื่อช่วยให้ผู้ใช้บรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์การติดตามการออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา (Advanced Interval Training) สำหรับคนที่ชอบวิ่งหรือปั่นจักรยาน โปรแกรมการฝึกการนอนหลับแบบใหม่ และการแสดงข้อมูลเชิงลึกขององค์ประกอบร่างกาย (Body Composition)[1] ที่ดีขึ้นกว่าเดิม รวมถึงการนำเสนอหน้าปัดและสายสมาร์ทวอทช์แบบใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้ได้แสดงสไตล์ของตนเองได้ดังที่ต้องการ

มร.จางฮยอน ยุน รองประธานบริหารและหัวหน้าธุรกิจ ฝ่ายแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ โมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า “เราทราบดีว่าผู้ใช้งานสมาร์ทวอทช์ต้องการประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น เราจึงได้มุ่งมั่นที่จะนำทางคอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน Galaxy Watch4 ไปสู่รูปแบบการดูแลด้านสุขภาพที่ซ้ำใคร ซึ่งเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดนิยามใหม่ด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ ของซัมซุง”

สร้างแรงบันดาลในการเคลื่อนไหวร่างกาย

การวัดองค์ประกอบร่างกายแบบใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจร่างกายตนเองได้ดียิ่งขึ้น โดยแอปพลิเคชัน Samsung Health จะให้ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับจากการประมวลผลผ่านโปรแกรมฟิตเนสดิจิทัล Centr[2] ของคริส เฮมส์เวิร์ธ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงวิธีการดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย และแนวความคิดต่างๆ โดยผู้ใช้งาน Galaxy Watch4 สามารถทดลองใช้งาน Centr แบบเต็มรูปแบบได้ฟรี 30 วัน[3] โดยไม่จำกัดการเข้าถึงใดๆ

นอกจากนี้ ด้วยฟีเจอร์การออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา หรือ Interval ทำให้ไม่ว่าจะเป็นนักวิ่งหรือนักปั่นจักรยาน ที่มีเป้าหมายเพื่อการออกกำลังกาย หรือฝึกซ้อมแข่งขัน สามารถตั้งค่าระยะเวลา ระยะทาง รวมถึงจำนวนรอบของการออกกำลังกายไว้ก่อนล่วงหน้าได้ หลังจากนั้น Galaxy Watch4 จะทำหน้าที่แนะนำโปรแกรมการฝีกที่เหมาะสำหรับแต่ละบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งซัมซุงยังได้ร่วมมือกับแอปพลิเคชันชั้นนำ อย่าง adidas Running และ Strava เพื่อช่วยส่งเสริมให้ผู้ใช้ได้ออกกำลังกายอย่างเต็มที่มากขึ้นอีกด้วย

Samsung Galaxy Watch4

โปรแกรมฝึกฝนเพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น

Galaxy Watch4 ได้รับการพัฒนาเพื่อมอบการนอนหลับอย่างมีคุณภาพให้แก่ผู้ใช้งาน ด้วยโปรแกรมฝึกการนอนหลับใหม่ ที่ช่วยปรับพฤติกรรมการนอน ผ่านการติดตามการนอนหลับตลอดเจ็ดวัน พร้อมทำการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับการนอนหลับระหว่างสัปดาห์ถึง 2 ครั้งเพื่อความแม่นยำที่สุด โดยโปรแกรมจะแสดงผลในรูปแบบสัญลักษณ์รูปสัตว์สุดน่ารักในท่าทางนอนหลับเพื่อบ่งบอกประเภทการนอนของผู้ใช้ ก่อนที่จะแนะนำโปรแกรมฝึกการนอนหลับที่มีความยาว 4-5 สัปดาห์ ซึ่งรวมถึงการมอบภารกิจ เช็คลิสต์ พร้อมนำเสนอบทความเกี่ยวกับการนอนหลับ คำแนะนำสำหรับการทำสมาธิ ปิดท้ายด้วยการรายงานผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้พัฒนาการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ กุญแจสำคัญในการพักผ่อนอย่างมีคุณภาพ คือสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบด้วยเหตุนี้ Galaxy Watch4 จึงมีฟีเจอร์ช่วยมอนิเตอร์เวลานอนหลับของผู้ใช้ เพื่อเตรียมพร้อมสั่งปิดไฟผ่าน SmartThings ให้โดยอัตโนมัติ[4] อีกด้วย

ติดตามข้อมูลเชิงลึก

ด้วยการทำงานของเทคโนโลยี BioActive Sensor ขั้นสูงและแอปพลิเคชัน Samsung Health Monitor[5] ซึ่งนับตั้งแต่การเปิดตัวเมื่อปี 2020 จนถึงปัจจุบัน แอปพลิเคชัน Samsung Health Monitor เปิดให้บริการแล้วใน 43 ประเทศทั่วโลก และวางแผนจะขยายเพิ่มอีก 11 ประเทศ ซึ่งรวมถึงแคนาดา เวียดนาม และแอฟริกาใต้ ในเดือนมีนาคมนี้

สะท้อนตัวตนผ่านสายและหน้าปัดนาฬิกา

Galaxy Watch4 ที่ได้รับการอัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่ จะมอบประสบการณ์การสวมใส่ที่ดียิ่งขึ้นจากภายในสู่ภายนอก โดยผู้ใช้สามารถปรับแต่งดีไซน์หน้าปัดนาฬิกาทั้งในด้านสีสันและแบบตัวอักษรบอกเวลาเพื่อสะท้อนความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคล รวมถึงยังสามารถเลือกซื้อสายนาฬิกาสีใหม่[6] ที่มีทั้งสีแดงเบอร์กันดี และสีครีม บนวัสดุที่หลากหลายทั้งแบบผ้า และสายโลหะแบบ Link Bracelet

ความมุ่งมั่นในการขยายการเชื่อมต่อภายใต้แอนดรอยด์ อีโคซิสเต็ม

ในปีที่ผ่านมา ซัมซุงและ Google ได้ร่วมมือกันพัฒนา Wear OS™ ซึ่งดำเนินงานโดยซัมซุง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ไร้รอยต่อของการใช้งานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ที่ทำงานผ่านระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ พร้อมการเข้าถึง
แอปพลิเคชันต่างๆ ผ่าน Google Play ได้อย่างลื่นไหล ซึ่งรวมถึง Google Maps, Google Pay และ YouTube Musicโดยเร็วๆ นี้ ผู้ใช้จะสามารถอัพเดต Galaxy Watch4 เพื่อสตรีมเพลงผ่านแอปพลิเคชัน YouTube Music ได้จาก Wi-Fi หรือ LTE ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินกับศิลปินคนโปรดขณะออกกำลังกายหรือเดินทางได้โดยไม่ต้องมีสมาร์ทโฟนอยู่ใกล้ตัว

นอกจากนี้ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ยังมีฟีเจอร์ Google Assistant ที่พร้อมเปิดให้ใช้งานร่วมกับ Galaxy Watch4 Series ด้วยเช่นกัน โดยผู้ใช้จะสามารถสั่งการด้วยเสียงได้ทั้งผ่านทาง Bixby และ Google Assistant เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่ตนเองชื่นชอบ[7] ลงบน Galaxy Watch4 ได้ทันทีหลังเปิดกล่อง เพียงแตะลงบนสมาร์ทวอทช์เมื่ออยู่ในโหมดการตั้งค่าเริ่มต้น เท่านี้ก็เตรียมพร้อมรับประสบการณ์การใช้งานอันน่าประทับใจได้เลยทันที

ผู้ใช้ Galaxy Watch4 และ Galaxy Watch4 Classic สามารถอัพเดตซอฟต์แวร์ ผ่านแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


[1] สำหรับวัตถุประสงค์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายโดยทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีไว้สำหรับใช้ในการตรวจหา วินิจฉัย หรือรักษาสภาพทางการแพทย์หรือโรคใดๆ การวัดนี้ใช้สำหรับการอ้างอิงส่วนบุคคลของผู้ใช้เท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำ ไม่ควรวัดองค์ประกอบร่างกาย หากผู้ใช้ฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจที่หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นๆ และไม่ควรวัดองค์ประกอบร่างกายหากกำลังตั้งครรภ์ ผลการวัดอาจไม่ถูกต้องหากผู้ใช้อายุต่ำกว่า 20 ปี ทั้งนี้ ความพร้อมใช้งานของคุณลักษณะนี้อาจแตกต่างกันไปตามประเทศ

[2] ข้อมูลเชิงลึกดำเนินการโดย Centr ซึ่งจะพร้อมใช้งานเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นในช่วงเวลาเปิดตัว

[3] ข้อเสนอทดลองใช้งานฟรี 30 วันของ Centr สำหรับผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Samsung Health ที่เชื่อมต่อ Galaxy Watch 4 Series กับสมาร์ทโฟน โดยข้อเสนอนี้เป็นสิทธิ์สำหรับผู้ใช้งานทุกคนที่สมัครใช้งาน Centr ผ่าน Samsung Health บน Centr.com ซึ่งเป็นข้อเสนอสำหรับลูกค้าใหหม่ของ Centr เท่านั้นและไม่สามารถใช้ได้กับสมาชิกเดิมของ Centr โดยแอปพลิเคชันนี้มีศูนย์บริการพร้อมให้บริการทั่วโลก การสมัครมอบสิทธิ์ในการเข้าถึง Centr ฟรี 30 วันแรกโดยไม่จำกัด การสมัครสมาชิกจะถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหลังจากสิ้นสุดการทดลองใช้ฟรี 30 วันและจะต่ออายุอัตโนมัติเมื่อสิ้นสุดการสมัครแต่ละครั้ง ทั้งนี้ ผู้ใช้สามารถยกเลิกการต่ออายุอัตโนมัติได้ตลอดเวลา

[4] ต้องใช้แอปพลิเคชันสมาร์ทโฟน Samsung Clock เวอร์ชันล่าสุด (v. 12.1.10.5), แอปพลิเคชันสมาร์ทโฟน Samsung SmartThings (v. 1.7.59.23) และแอปพลิเคชัน
สมาร์ทโฟน SmartThings Framework (v1.4.1) ซึ่งใช้งานได้ในอุปกรณ์อัจฉริยะที่ลงทะเบียนกับ SmartThings

[5] ต้องใช้สมาร์ทโฟนซัมซุง กาแลคซี่ที่ใช้แอนดรอยด์ 7 หรือใหม่กว่า และแอปพลิเคชัน Samsung Health Monitor ซึ่งมีให้บริการที่ Samsung Galaxy app store เท่านั้น เนื่องจากข้อจำกัดของประเทศในการขออนุมัติ/ลงทะเบียนเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ แอปพลิเคชัน Samsung Health Monitor สามารถใช้งานได้กับนาฬิกาและสมาร์ทโฟนที่ซื้อในประเทศที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น

[6] วางจำหน่ายแยก ซึ่งความพร้อมใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ

[7] จำกัดเฉพาะแอปพลิเคชันที่รองรับการดาวน์โหลดผ่าน Google Play Store เท่านั้น และต้องใช้ Google Play Store เวอร์ชันล่าสุดบนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อของคุณ