บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1/64 มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งไตรมาส และกลับมามีรายได้จากบริการที่มั่นคงหลังจากขาดทุนติดต่อกัน 4 ไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการทำตลาดกลุ่มลูกค้าคนไทย ส่งผลให้มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เร่งเปิดให้บริการพร้อมการขยายเครือข่ายคลื่นความถี่ 700 MHz ทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าดีขึ้นอย่างชัดเจน
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “เรายินดีที่ได้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงต้นแม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง จากการเร่งเปิดใช้งานคลื่น 700 MHz อย่างต่อเนื่องซึ่งครอบคลุมพื้นที่ใช้งานถึงสองในสามของประชากร ลูกค้าของเราได้ประสบการณ์ใช้งานที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น และสัญญาณครอบคลุมพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถขยายบริการ 5G ไปยัง 6 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ของทุกภาค และจะขยายสถานีฐานไปยังพื้นที่ที่มีการใช้งานหนาแน่นตลอดทั้งปี 2564 เรายังคงพัฒนาการใช้งานเทคโนโลยี 5G บนคลื่น 26 GHz หรือคลื่น mmWave ซึ่งเป็นคลื่นความถี่สูงร่วมกับพันธมิตรทางอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ดีแทคยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก และส่งมอบประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านการลงทุนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เรายังเดินหน้าปรับองค์กรให้ทันสมัย โดยเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล และลดความซับซ้อนของกระบวนการทำงานและปรับเปลี่ยนวิถีการทำงานให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนอกจากในส่วนของการเติบโตหลัก เรายังมั่นใจในแนวทางการดำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน ผ่านโครงการต่างๆตลอดปีนี้”
ณ สิ้นไตรมาส 1/64 ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการทั้งหมดอยู่ที่ 19.1 ล้านราย เพิ่มขึ้น 229,000 รายจากไตรมาสก่อน จากการฟื้นตัวและการมุ่งทำตลาดในกลุ่มลูกค้าชาวไทย รายได้จากบริการไม่รวมค่า IC อยู่ในระดับคงที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 จากไตรมาสที่แล้ว และลดลงร้อยละ 7.7 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ในขณะที่รายได้จากบริการหลักลดลงร้อยละ 0.7 จากไตรมาสที่แล้ว และร้อยละ 6.5 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน EBITDA สำหรับไตรมาส 1/64 มีมูลค่า 7.477 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 2.5 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน EBITDA margin (normalized) ในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ร้อยละ 43.9 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 38.5 ในไตรมาส 4/63 และร้อยละ 43.7 ในไตรมาส 1/63 เป็นผลมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยกำไรสุทธิไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 822 ล้านบาท
นายนกุล เซห์กัล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการเงิน บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “รายได้จากการบริการของเรายังคงทรงตัวเป็นครั้งแรก หลังจากขาดทุนติดต่อกันสี่ไตรมาส สอดคล้องไปกับการเพิ่มขึ้นของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นผลมาจากแผนการฟื้นตัวที่มีประสิทธิภาพของดีแทค จากการมุ่งเน้นทำตลาดคนไทยในประเทศ ควบคู่ไปกับผลกระทบที่ดีจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ความพยายามอย่างต่อเนื่องของเราในการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิผล ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน OPEX ของเครือข่ายลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนและไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร (SG&A) ที่ควบคุมได้ดี ในไตรมาสที่ 1/64 เราเร่งการลงทุนเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว วินัยทางการเงินของเราส่งผลให้อัตรา EBITDA margin อยู่ในระดับที่ดี ในขณะที่การลงทุนในเครือข่ายได้พิสูจน์แล้วว่าทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าดีขึ้น”
ดีแทคปรับแนวโน้มสำหรับปี 2564 ในส่วนของรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่า IC จากลดลงในอัตราร้อยละที่เป็นเลขหลักเดียวในระดับต่ำ เป็น คงที่ จนถึง ลดลงในอัตราร้อยละที่เป็นเลขหลักเดียวในระดับต่ำ และ EBITDA จากลดลงในอัตราร้อยละที่เป็นเลขหลักเดียวในระดับต่ำ เป็น คงที่ จนถึง เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละที่เป็นเลขหลักเดียวในระดับต่ำ ในขณะที่คงแนวโน้มด้านค่าใช้จ่ายลงทุนที่ 1.3 -1.5 หมื่นล้านบาท
ตัวเลขสำคัญทางการเงินในไตรมาส 1/64 (หลัง TFRS 15 และ 16)
• รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่า IC 14.149 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 7.7 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
• EBITDA อยู่ที่ 7.477 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.2 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 2.5 จาก
ไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
• อัตรากำไร EBITDA (normalized) อยู่ที่ร้อยละ 43.9
• กำไรสุทธิ 822 ล้านบาท