คลังเก็บ

เปิดตัว Sony Xperia 5 IV มาพร้อมจอ OLED 120Hz, ชิป Snapdragon 8 Gen 1, กล้องหลัง 3 ตัว 12MP และแบตเตอรี่ 5,000mAh

Sony ประกาศเปิดตัว Sony Xperia 5 IV สมาร์ตโฟนเรือธงไซส์กะทัดรัดรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการ โดยมาพร้อมจุดเด่นหน้าจอแสดงผล OLED ที่มีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 8 Gen 1, ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัวเลนส์ ZEISS ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh

สเปก Sony Xperia 5 IV

ตัวเครื่องมีขนาด 156 x 67 x 8.2 มม. และน้ำหนัก 172 กรัม หน้าจอแสดงผลแบบ OLED ความละเอียด FHD+ 1080 x 2520 พิกเซล 1 พันล้านสี ขนาด 6.1 นิ้ว อัตราส่วน 21:9 โดยมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz, รองรับการแสดงผลในช่วงสี DCI-P3 และ BT.2020 รวมถึง HDR และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass Victus

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM8450 Snapdragon 8 Gen 1 (4 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 730, RAM 8GB, หน่วยความจำภายใน 128GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 12

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera เลนส์ ZEISS และเคลือบโคตติง ZEISS T* พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.7, 24mm (wide), 1/1.7″, 1.8µm, ระบบ Dual Pixel PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.4, 60mm, 1/3.5″, ระบบ Dual Pixel PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, รูรับแสง f/2.2, 16mm และถ่ายมุมกว้างได้ 124 องศา

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

รวมทั้งติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้างเครื่อง, ลำโพงคู่สเตอริโอ รองรับ 360 Reality Audio, DSEE Ultimate และ Dolby Atmos รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP65/IP68,

รองรับ 4G/5G dual mode (SA/NSA), Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e, tri-band, Wi-Fi Direct, DLNA, hotspot, Bluetooth 5.2, NFC, ช่องหูฟัง 3.5 มม., พอร์ต USB Type-C

และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว ชาร์จ 50% ภายใน 30 นาที, ชาร์จแบบไร้สาย และชาร์จแบบย้อนกลับ

Sony Xperia 5 IV

ทั้งนี้ Sony Xperia 5 IV มีให้เลือก 3 สีคือ Green, Black และ Ecru White โดยมีราคา 1,049 ยูโรหรือประมาณ 38,500 บาทและ 999 ดอลลาร์หรือประมาณ 36,700 บาทในยุโรปและสหรัฐอเมริกาตามลำดับ และจะวางจำหน่ายครั้งแรกในยุโรปตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ตามด้วยสหรัฐอเมริกาในปลายเดือนตุลาคมนี้

ที่มา : Gizmochina