บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด เดินหน้าปฏิวัติวงการถ่ายภาพครั้งใหม่ ตอกย้ำการเป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีสุดล้ำอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งสุดยอดนวัตกรรมกล้องอัลฟ่ามิเรอร์เลส α7R IV (อัลฟ่า เซเว่น อาร์ มาร์ค โฟว์) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดจากตระกูลอัลฟ่า ซึ่งมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยกับเซ็นเซอร์ Full Frame ตัวแรกของโลกที่ให้ความละเอียดสูงถึง 61 ล้านพิกเซลเพื่อให้คนรักการถ่ายภาพระดับมืออาชีพสามารถจับภาพได้อย่างรวดเร็วชัดเจนยิ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัวกล้อง RX100 VII (อาร์เอ็กซ์ 100 มาร์คเซเว่น) ซึ่งมาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยีการถ่ายภาพสุดล้ำจากกล้องรุ่นใหญ่มาบรรจุไว้ในกล้องรุ่นนี้ รวมถึงไลน์อัพเลนส์กล้อง G Master ซีรี่ส์ใหม่ล่าสุดระดับพรีเมี่ยมพร้อมกันอีก 3 รุ่น ทั้ง FE 35mm F1.8, FE 600mm F4 GM OSS และFE 200-600mm F5.6-6.3 G OSS รวมทั้งอุปกรณ์เสริม อาทิ Vertical ไมโครโฟน
ซึ่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์กล้องและเลนส์กล้องออกสู่ตลาดในครั้งนี้ โซนี่มั่นใจว่านอกจากจะมอบประสบการณ์ใหม่ในการถ่ายภาพสุดประทับใจให้แก่ช่างภาพมืออาชีพและเหล่า Vlogger ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพทั้งภาพนิ่งและวิดีโอได้สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างตรงใจและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนกลุ่มธุรกิจดิจิตอล อิมเมจจิ้งของโซนี่ให้เติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
มร. เท็ทซูทากะ ซูดะ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด บ. โซนี่ ไทย จ.ก. เปิดเผยว่า “ในฐานะผู้นำตลาดดิจิตอลอิมเมจจิ้ง โซนี่เดินหน้าคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพอันล้ำสมัยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับวงการถ่ายภาพ ด้วยการพัฒนานวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่รวมทั้งรองรับการใช้งานในรูปแบบที่หลากหลาย
และในวันนี้ โซนี่พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจดิจิตอล อิมเมจจิ้งของโซนี่เพื่อทวีความแข็งแกร่ง ไปพร้อมกับการสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมถ่ายภาพให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยการแนะนำกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ล่าสุดคือ กล้องอัลฟ่าฟูลเฟรมมิเรอร์เลส รุ่น α7R IV (อัลฟ่า เซเว่น อาร์มาร์คโฟร์ หรือ อัลฟ่าเจ็ดอาร์มาร์คสี่)) กล้องฟูลเฟรมมิเรอร์เลสที่ให้รายละเอียดสูงที่สุด พร้อมระบบออโต้โฟกัสอันทรงประสิทธิภาพทั้งความรวดเร็ว และแม่นยำ
และกล้องพรีเมียมคอมแพคท์ รุ่น RX100 VII (อาร์เอ็กซ์วันฮันเดรดมาร์คเซเว่น หรือ อาร์เอ็กซ์หนึ่งร้อยมาร์คเจ็ด) ที่ได้นำสุดยอดเทคโนโลยีจากกล้อง α9 ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของระบบออโต้โฟกัส และการทำงานที่รวดเร็ว เพื่อต่อยอดประสบการณ์ใหม่ของการถ่ายภาพที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพในทุกระดับตั้งแต่ช่างภาพมืออาชีพ ไปจนถึงกลุ่ม Vlogger และ VDO Content Creator ตลอดจนผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ
ด้วยคุณภาพเทคโนโลยีที่เป็นเลิศ และก้าวล้ำมากมาย ซึ่งพัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดเป็นครั้งแรก โดยโซนี่มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์กล้อง รวมถึงเลนส์ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ จะสร้างมาตรฐานใหม่ในการถ่ายภาพให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น รวมทั้งสามารถขยายตลาดเข้าไปสู่กลุ่มผู้ใช้ที่กว้างมากขึ้นอีกด้วย”
ผลิตภัณฑ์ดิจิตอล อิมเมจจิ้ง รุ่นใหม่จากโซนี่ประกอบด้วย
กล้องอัลฟ่าฟูลเฟรมมิเรอร์เลส รุ่น α7R IV (อัลฟ่า เซเว่น อาร์ มาร์ค โฟว์)
นับเป็นสุดยอดกล้องมิลเรอร์เลสฟลูเฟรมระดับเรือธงตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ของกล้องมิเรอร์เลสแบบฟลูเฟรมที่ต่อยอดมาจากความสำเร็จของกล้องรุ่น α7R III ให้มีความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของคนรักการถ่ายภาพระดับมืออาชีพในปัจจุบันได้สร้างสรรค์ภาพในมิติใหม่ที่ไม่เกิดเคยมาก่อน
โดย α7R IV เป็นกล้องมิลเรอร์เลสตัวแรกของโลกที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ภาพแบบ Full Frame Back-illuminated CMOS ขนาด 35 ม.ม. ที่พัฒนาขึ้นใหม่ล่าสุดโดยมีความละเอียดสูงถึง 61 ล้านพิกเซล และชิปประมวลผลภาพอันทรงพลังอย่าง BIONZ X ที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นโดยให้ Dynamic Range กว้างถึง 15 สต็อป
พร้อมทั้งสามารถภ่ายภาพแบบต่อเนื่องได้ถึง 10 ภาพต่อวินาที จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพได้อย่างรวดเร็ว และได้คุณภาพสีที่เป็นธรรมชาติสมจริง พร้อมกับระบบออโต้โฟกัสแบบ Real Time Eye AF ที่ช่วยโฟกัสแบบติดตาม ดวงตาบุคคล ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ ระบบ Animal Eye AF ที่สามารถจับโฟกัสดวงตาสัตว์แม้ในขณะเคลื่อนไหวโดยไม่พราดเป้า
ด้วยการโฟกัสแบบ Hybrid AF ที่มีจุดโฟกัสแบบ Phase Detection มากถึง 567 จุด ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในการถ่ายภาพถึง 74% ในโหมดฟลูเฟรม และ Contrast Detection ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 425 จุด ทำให้สามารถโฟกัสทุกภาพได้อย่างคมชัดและแม่นยำยิ่งขึ้นแม้ในที่แสงน้อย
จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพกีฬาหรือถ่ายภาพที่ต้องการความเร็วสูงๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็ว 10 ภาพต่อวินาที และถ่ายต่อเนื่องได้ถึง 68 ภาพ รวมถึงรองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K HDR
ยิ่งไปกว่านั้น กล้อง α7R IV ยังโดดเด่นด้วยระบบป้องกันสั่นไหวแบบ 5 แกนในตัวกล้อง ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในระยะไกลนิ่งมากขึ้น โดยสามารถกันสั่นได้ถึง 5.5 Stop พร้อมกับโหมด Pixel Shift Multi Shooting ที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งเป็นการถ่ายภาพรวมกันโดยอาศัยเทคนิคการขยับเซ็นเซอร์ เพื่อให้แต่ละพิกเซลเก็บรายละเอียดได้ถึง 240 ล้านพิกเซลโดยการถ่ายภาพ 16 ครั้งแยกออกจากกัน
ขณะเดียวกันยังมีโหมดครอปภาพขนาดเท่าเซ็นเซอร์ APS-C ซึ่งหากใช้โหมดนี้สามารถจะให้ภาพที่ความละเอียดได้ถึง 26.2 ล้านพิกเซลทีเดียว ขณะที่ตัวกล้องได้รับการพัฒนาให้สามารถกันละอองน้ำและฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น ส่วนด้านหลังมีจอแสดงผลแบบสัมผัสพับได้ ความละเอียด 1.44 ล้านพิกเซล พร้อมช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ความละเอียด 5.76 ล้านพิกเซลที่ให้ความแม่นยำของภาพได้สูงถึง 120fps
นอกจากนี้ ตัวกล้องยังมาพร้อมปุ่ม Joystick ที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อการควบคุมกล้องได้อย่างง่ายดายมากขึ้น พร้อมรองรับการเชื่อมต่อแบบ USB type C และมีช่องเสียงการ์ด USH-II 2 ช่อง ทั้งยังรองรับแบตเตอรี่รุ่นใหม่ NP-FZ100 ที่สามารถเก็บภาพความประทับใจได้อย่างจุใจถึง 710 ภาพต่อแบตเตอรี่หนึ่งก้อน
และกริป VG-C4EM ที่สามารถชาร์จไฟผ่าน USB type C จากตัวกล้องโดยตรงทำให้เพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมวางจำหน่ายเดือนสิงหาคม ศกนี้ ในราคา 114,990 บาท (Body)
กล้องพรีเมียมคอมแพ็คท์ RX100 VII (อาร์เอ็กซ์ หนึ่งร้อย มาร์คเจ็ด)
เป็นสุดยอดกล้องพรีเมี่ยมคอมแพ็คท์ในตระกูล Cyber-Shot RX Series รุ่นล่าสุด RX100 VII (อาร์เอ็กซ์ 100 มาร์คเซเว่น) ที่ได้รับการต่อยอดจากความสำเร็จของกล้องรุ่น RX100 VI ให้มีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์แบบ
โดยกล้อง RX100 VII ยังคงความโดดเด่นในการออกแบบดีไซน์ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดเพื่อให้เหมาะต่อการพกพาในสไตล์กล้องคอมแพ็คท์ แต่ให้ประสิทธิภาพการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ ด้วยจุดเด่นของระบบออโต้โฟกัสสุดอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นใหม่ซึ่งถอดแบบมาจากกล้องอัลฟ่ามิเรอร์เลสรุ่นยอดนิยมอย่าง α9 โดยมีจุดโฟกัสภาพแบบ Phase Detection ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 357 จุด และ Contrast Detection ที่ครอบคลุมพื้นที่ถึง 425 จุด ทำให้สามารถจับภาพวัตถุเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำกว่ารุ่นเดิม
พร้อมกับระบบโฟกัสแบบ Real-time Eye AF ที่มีประสิทธิภาพในการโฟกัสดวงตาได้ทั้งตาคนและสัตว์ได้อย่างรวดเร็วที่สุดในโลกภายใน 0.02 วินาทีเท่านั้น ทำให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้อย่างรวดเร็วถึง 20 ภาพต่อวินาทีโดยไม่มีจอดำ และสามารถถ่ายภาพรัวด้วยความเร็ว 90 fps. ในโหมด Single Burst Shooting ด้วยการกดเพียงครั้งเดียว
นอกจากนี้ ยังมีเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Stacked 20.1 MP Exmor RS™ CMOS ขนาด 1 นิ้ว พร้อมเลนส์ ZEISS Vario-Sonnar T* 24-200mm f2.8-4.5 ซึ่งให้พลังซูมในการถ่ายภาพได้ไกลถึง 8.3 เท่า เพื่อเอาใจผู้รักการถ่ายภาพที่ต้องการคุณภาพของภาพในระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง
ยิ่งไปกว่านั้น กล้อง RX100 VII ยังมาพร้อมระบบกันสั่นที่พัฒนาขึ้นใหม่เป็นแบบ 4K Active SteadyShot โดยผสานกันสั่น Electronic และ Optical เข้าด้วยกันเพื่อให้ประสิทธิภาพในการกันสั่นที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมถึง 8 เท่า พร้อมกับประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอที่เพิ่มมากขึ้นโดยรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K HDR แบบ Hybrid Log Gamma (HLG)
ทั้งยังรองรับ S-Log3 ทำให้ภาพวิดีโอสามารถเล่นบนทีวี 4K UHD ได้เต็มขนาดและสามารถถ่ายวิดีโอแนวตั้งได้ ขณะที่ตัวกล้องมาพร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 3 นิ้ว สามารถพับได้ มีช่องความละเอียด 2.35 ล้านพิกเซล ช่วยให้มองเห็นภาพได้คมชัดสมจริง
รวมถึงมีช่องเสียบสายไมโครโฟนและอุปกรณ์เสริมตัวใหม่อย่างไม้กันสั่น Shooting Grip Kit ที่ออกแบบมาสำหรับกล้อง RX100 VII โดยเฉพาะเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับ Vlogger ที่ชอบบันทึกเรื่องราวต่างๆ ในรูปแบบของวิดีโอ ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมวางจำหน่ายเดือนสิงหาคม ศกนี้ ในราคา 38,990 บาท
เลนส์ รุ่น FE 35mm F1.8 (SEL35F18F)
เป็นสุดยอดนวัตกรรมเลนส์สำหรับกล้องมิเรอร์เลส E-Mount ระดับเรือธงตัวใหม่ล่าสุดทั้งที่เป็นฟลูเฟรม และ APS-C ที่ออกแบบมาเพื่อมอบอิสระและความคล่องตัวในการถ่ายภาพ Portrait และ Snapshots ที่เหนือชั้นกว่าเดิม ด้วยการออกแบบตัวเลนส์ให้มีขนาดและน้ำหนักเบาอย่างมากเพียง 280 กรัม
แต่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำมากมาย โดยเป็นเลนส์ไพรม์มุมกว้างที่ให้รูรับแสงสว่างถึง F1.8 เส้นผ่าศูนย์กลาง 65.6 มม. โดยให้ทางยาวโฟกัส 35 มม.บนฟลูเฟรม และ 52.5 มม.บน APS-C
มาพร้อมกับชิ้นเลนส์ 11 ชิ้น 9 กลุ่มเลนส์ รวมถึงชิ้นเลนส์พิเศษ Aspherical 1 ชิ้น ทั้งยังมีใบมีดรับแสง 9 ใบ สามารถสร้างโบเก้ได้สวยงามและจับภาพได้ใกล้สุดอยู่ที่ 0.22 เมตร รองรับฟิลเตอร์ขนาด 55 มม.
นอกจากนี้ ยังใช้ระบบมอเตอร์โฟกัสแบบ Linear Motor ช่วยให้โฟกัสภาพได้รวดเร็วแม่นยำและเงียบกริบยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเมื่อถ่ายวีดีโอสลับกับการถ่ายภาพนิ่ง แถมยังมีระบบป้องกันละอองน้ำและฝุ่นเป็นอย่างดี ขณะที่ตัวบอดี้ของเลนส์ทำจากอลูมีเนียมส่วนด้านนอกใช้พลาสติก จึงน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม ศกนี้ ในราคา 22,990 บาท
เลนส์ GM รุ่น FE 600mm F4 GM OSS (SEL600F40GM)
นับเป็นเลนส์ Super Telephoto ระดับเรือธงตัวใหม่ล่าสุดของตระกูล G Master โดยเป็นเลนส์ระยะไกลที่มีรูรับแสงขนาดใหญ่เพื่อตอบโจทย์การถ่ายภาพกีฬา ภาพสัตว์ และถ่ายระยะไกลระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ
ด้วยระยะยิงที่ไกลถึง 600 มม. พร้อมกับรูรับแสงกว้างสุดที่ F4 มีน้ำหนักเลนส์อยู่ที่ 3,040 กรัมซึ่งถือว่าเบาที่สุดในเลนส์ระยะเดียวกันในตลาด ประกอบด้วยเลนส์ 24 ชิ้น 18 กลุ่ม มีชิ้นเลนส์พิเศษ XA 1 ชิ้น, ED 2 ชิ้น และ Fluorite 3 ชิ้น ช่วยให้ได้ภาพที่มีความละเอียดคมชัดและลดการเกิดความคลาดเคลื่อนของสีต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงมี Blade Circular Aperture 11 ใบ นอกจากนี้ ตัวเลนส์ยังใช้มอเตอร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่แบบ Extreme Dynamic Linear Motor ทำให้สามารถโฟกัสภาพได้รวดเร็วแม่นยำและเงียบกริบยิ่งขึ้นกว่าเดิม
โดยระยะโฟกัสใกล้สุดอยู่ที่ 4.5 เมตร ทั้งยังมีระบบกันภาพสั่นไหว OSS ในตัว รวมถึงกันฝุ่นและละอองน้ำเพื่อให้ช่างภาพได้ลุยป่าเก็บภาพความประทับใจของฝูงสัตว์ได้อย่างสนุกสนานยิ่งขึ้น วางจำหน่ายแล้วในราคา 459,990 บาท
เลนส์ G รุ่น FE 200-600mm F5.6-6.3 G OSS (SEL200600G)
นับเป็นนวัตกรรมเลนส์ระดับพรีเมี่ยมที่ออกแบบมาสำหรับกล้องมิเรอร์เลสทั้งที่เป็นฟลูเฟรม และ APS-C ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัยล่าสุดเพื่อให้ได้ภาพที่มีคุณภาพดีที่สุด และเมื่อนำมาจับคู่กับกล้องมิเรอร์เลส จะทำให้การจับภาพแอ็คชั่นโดยเฉพาะภาพสัตว์และกีฬาจากระยะไกลแม่นยำมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเป็นเลนส์ซูมคุณภาพที่ให้ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 200-600 มม. บนฟลูเฟรม และ 300-900 มม.บน APS-C พร้อมให้ค่ารูรับแสงกว้างถึง F5.6-6.3 ตลอดช่วงซูม
ขณะเดียวกัน ยังสามารถต่อกับ Tele Converter 1.4x และ 2.0x สามารถขยายได้ถึง 1200 มม. F13 โดยภาพยังมีคงคุณภาพสวยงาม ภายในประกอบด้วยชิ้นเลนส์ประสิทธิภาพสูง 24 ชิ้น 17 กลุ่ม รวมถึงมีชิ้นเลนส์พิเศษอย่าง ED 5 ชิ้น และ Aspherical 1 ชิ้น รวมถึงมี Blade Circular Aperture 11 ใบ เพื่อให้ได้โบเก้ที่สวยงาม
ยิ่งไปกว่านั้น ยังโดดเด่นด้วยระบบมอเตอร์ความเร็วสูง Direct Drive Super Sonic Wave (DDSSM) ที่ให้ความละเอียดสูงเพื่อช่วยให้การจับภาพแอ็คชั่นจากระยะไกลได้อย่างมีคุณภาพ รวดเร็ว แม่นยำ และเงียบกริบ เคลือบด้วยสารนาโน ช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดเป็นธรรมชาติ
ทั้งยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OSS ระยะโฟกัสภาพใกล้สุดอยู่ที่ 2.4 เมตร รวมถึงมีวงแหวนโฟกัส มี Linear Response MF สำหรับการปรับโฟกัสแบบแมนนวล ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวด้วยมือได้อย่างฉับไวเหมาะกับสถานการณ์ในการถ่ายภาพต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา วางจำหน่ายแล้ว ในราคา 69,990 บาท
อุปกรณ์เสริม
พร้อมกันนี้ โซนี่ยังได้แนะนำอุปกรณ์เสริมมากมายเพื่อมอบประสบการณ์ถ่ายภาพ α7R IV ได้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นไปอีก ประกอบด้วย กริปรุ่นใหม่ VG-C4EM สำหรับถือเพื่อให้คุณสามารถถ่ายภาพในแนวตั้งได้อย่างมั่นใจ พร้อมแบตเตอรี่ NP-FW50 ที่มีความอึดกว่ารุ่นเดิมถึง 2 เท่า ทั้งยังสามารถชาร์จไฟได้อย่างง่ายดายผ่านตัวกล้อง แถมยังป้องกันละอองน้ำและฝุ่นเป็นอย่างดี
รวมถึง ECM-B1M Shotgun Microphone รุ่นล่าสุด ซึ่งมีขนาดกระทัดรัดความยาวเพียง 99.3 มม.หรือประมาณ 4 นิ้วเท่านั้น แต่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพในการบันทึกเสียงคุณภาพสูง โดยมาพร้อมการรับเสียงแบบ Super-directional สามารถปรับทิศทางการรับเสียงได้ 3 แบบ
พร้อมรองรับการแปลงสัญญาณอะนาล็อกเป็นดิจิตอลเพื่อให้ได้เสียงที่มีคุณภาพโดยปราศจากเสียงรบกวนรองข้าง และ XLR-K3M ชุดอแดปเตอร์ไมโครโฟน ที่มีน้ำหนักเบาพร้อมไมโครโฟนสำหรับการบันทึกเสียงที่คมชัดและสามารถควบคุมเสียงได้อย่างละเอียดและง่ายดายด้วยช่องเสียบถึงสองช่องด้วยกัน
ผู้สนใจสามารถทดลองประสิทธิภาพของกล้องและเลนส์รุ่นใหม่ได้ที่โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา และร้านผู้แทนจำหน่ายที่เลือกสรร และสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลโซนี่ โทร. 0-2715-6100 หรือเยี่ยมชม www.sony.co.th