ด้านการถ่ายภาพ
กล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera 48MP
Redmi Note 9T 5G ติดตั้งกล้อง 3 ตัว พร้อมไฟแฟลชคู่ LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 0.8μm, Super Pixel 4-in-1, 1.6μm, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2”, รูรับแสง f/1.79 และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ระยะโฟกัส 4 ซม. และขนาดพิกเซล1.75μm
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ขนาดพิกเซล1.75μm
ส่วนโหมดถ่ายภาพนั้นมีให้เลือกทั้งโหมดปกติ, วิดีโอ, ภาพบุคคล (Portrait), โหมดโปร, โหมดกลางคืน, โหมด 48MP, โหมดวิดีโอสั้น, โหมด Panorama, โหมดเอกสาร, โหมด VLOG, โหมดสโลโมชั่น และโหมดวิดีโอเคลื่อนไหว
สามารถตั้งค่าเปิด/ปิดแฟลช, เปิด/ปิดโหมด HDR, เปิด/ปิดโหมด AI, ปรับความฟรุ้งฟริ้ง/ใส่ฟิลเตอร์, โหมด Google Lens รวมทั้งตั้งค่าเลือกขนาดอัตราส่วนภาพ, ตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ, กรอบภาพยนตร์, แสดงตาราง, ปรับให้ตรง, ถ่ายมาโคร, ปรับเบลอ และตั้งเวลาถ่ายต่อเนื่องได้
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
โหมดปกติ
โหมด Portriat
โหมดฟิลเตอร์
ภาพต้นฉบับ
ภาพที่ใช้ฟิลเตอร์เปลี่ยนฉากหลังเป็นสีขาวดำ เพิ่มความโดดเด่นเฉพาะตัวบุคคลได้
ใส่สติ๊กเกอร์เพิ่มความน่ารักได้
เปลี่ยนภาพจากโหมดปกติเป็นภาพ Portrait ได้
ภาพต้นฉบับ
อีกฟีเจอร์เด่นของกล้องใน Redmi Note 9T 5G เมื่อถ่ายเสร็จแล้วก็คือ สามารถเปลี่ยนท้องฟัาให้ดูสดใส หรือจะเปลี่ยนจากภาพกลางวันให้เป็นกลางคืนก็ทำได้ และมีลูกเล่นเปลี่ยนภาพนิ่งให้เป็นภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้จะอยู่ในโหมดแก้ไขภาพ แล้วเลือกที่ท้องฟ้า
คราวนี้มาดูภาพอื่นๆ จากกล้องหลังกันบ้าง
กล้องหน้า 13MP
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3 พร้อมเทคโนโลยี AI Beauty สามารถปรับผิวเนียน, หน้าเรียว และตาโต และมีฟิลเตอร์ให้เลือกมากถึง 20 แบบ
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
โหมดปกติ
โหมด Portrait
โหมดฟิลเตอร์
ด้านบันเทิง
Redmi Note 9T 5G มาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอที่ให้พลังเสียงที่ดังกระหึ่มกว่าลำโพงตัวเดียว และยังเป็นลำโพงคู่รุ่นแรกในซีรีส์ Redmi Note ซึ่งรองรับการสลับช่องเสียง L/R อัตโนมัติ ส่วนการรับชมวิดีโอก็รองรับความละเอียดสูงระดับ 4K
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ที่ใช้กับเครื่องรุ่นนี้มีขนาด 5,000 mAh ซึ่งถือว่าเยอะพอใช้งานได้ทั้งวัน ตามสเปกระบุว่าสามารถใช้นำทางได้นานต่อเนื่อง 15 ชั่วโมง เล่นวิดีโอได้นานต่อเนื่อง 18 ชั่วโมง และเล่นเกมได้นานต่อเนื่อง 11 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จเร็ว 18W สามารถชาร์จ 33% ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นตัวเครื่องยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่รอบการชาร์จสูงซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สามารถใช้งานได้ยาวนานเกือบ 3 ปีโดยที่ความจุแบตเตอรี่แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลย
รวมทั้งมีโหมดประหยัดพลังงานทั้งแบบปกติ และแบบ Ultra หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานต่อเนื่องใน 1 วันปรากฏว่าสามารถใช้งานแบบทั่วไปได้ภายใน 1 วันแบบสบายๆ แต่ถ้าเปิดใช้งาน 5G พร้อมกับใช้งานไปด้วย แบตเตอรี่ก็จะหมดเร็วขึ้น โดยรวมแล้วถือว่าพอใช้
บทสรุป
Redmi Note 9T 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟน 5G ที่มีราคาถูกที่สุดในท้องตลาดในตอนนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นไม่ถึง 7 พันบาท ซึ่งไม่เพียงแค่ราคาถูกเท่านั้น แต่ยังอัดแน่นด้วยสเปกอย่างครบครันทั้งหน้าจอ DotDisplay ขนาด 6.53 นิ้ว ที่ได้รับการรับรองจาก Widevine L1 และ TÜV Rheinland Low Blue Light เพื่อรองรับการสตรีมเนื้อหาแบบ HD ได้หลายชั่วโมงโดยไม่ปวดตา
รวมทั้งใช้ชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 800U SoC ที่เร็วและแรง และรองรับ 5G แบบ 2 ซิมการ์ด (Dual 5G) พร้อมกันรุ่นแรกในตระกูล Redmi Note Series สามารถใช้งาน 5G ในบ้านเราได้ทันทีแต่แต่แกะกล่อง นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีลูกเล่น และโหมดถ่ายภาพเยอะไม่แพ้รุ่นใหญ่ ถ่ายออกมาได้สวยและคมชัด ปิดท้ายด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh ที่ใช้งาน 5G ได้นานหลายชั่วโมง
Redmi Note 9T 5G ทั้ง 2 สี Nightfall Black และ Daybreak Purple พร้อมวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์ JD Central ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2564 นี้ ด้วยกัน 2 รุ่น
- Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+64GB ราคา 6,999 บาท
- Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+128GB ราคา 7,499 บาท
และพิเศษสุดๆ! สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อในระหว่างวันที่ 9-15 มกราคม 2564
- Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+64GB ราคาพิเศษเพียง 5,999 บาท จากราคาปกติ 6,999 บาท ช้อปเลย :
- Redmi Note 9T ขนาดความจุ 4+128GB ราคาพิเศษเพียง 6,599 บาท จากราคาปกติ 7,499 บาท ช้อปเลย :