Xiaomi แบรนด์สมาร์ตโฟนจากแดนมังกร ประเดิมต้นปี 2021 ด้วยการเปิดตัว Redmi 9T และ Redmi Note 9T 5G สองสมาร์ตโฟนราคาสบายกระเป๋า แต่อัดแน่นด้วยคุณสมบัติใช้งาน โดยเฉพาะ Redmi Note 9T 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟน 5G ที่มีราคาคุ้มที่สุดในตอนนี้ด้วยราคาเริ่มต้นไม่ถึง 7 พันบาท !!
อยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่าสมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่นนี้จะมีคุณสมบัติใช้งานอะไรบ้าง และการใช้งานจริงจะเป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปชมรีวิวของ Redmi 9T และ Redmi Note 9T 5G กันเลยครับ
สเปกเบื้องต้น Redmi 9T
| ขนาด | 162.3 x 77.3 x 9.6 มม. |
| น้ำหนัก | 198 กรัม |
| หน้าจอ | หน้าจอแสดงผล Dot Drop แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2340 พิกเซล (395 ppi) ขนาด 6.53 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 ความสว่าง: 400 nits และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3 |
| หน่วยประมวลผล | ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM6115 Snapdragon 662 (11 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610 |
| RAM | 4GB/6GB |
| หน่วยความจำภายในเครื่อง | 64GB/128GB |
| microSD Card | สูงสุด 512GB |
| ระบบปฏิบัติการ | Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12 |
| เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot Bluetooth 5.0, A2DP, LE NFC Infrared Port GPS with A-GPS, GLONASS, GALILEO, BDS |
| กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 4 เลนส์ AI Quad Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 และระบบ PDAF – กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 120 องศา – กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 – กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 |
| รองรับระบบ | 2G: GSM: B2/3/5/8 3G: WCDMA: B1/2/4/5/8 4G: TDD-LTE: B38/40/41 (2535-2655MHz) 4G: FDD-LTE: B1/2/3/4/5/7/8/20/28 |
| แบตเตอรี่ | 6000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 18W |
| สี | สีเทา Carbon Gray, สีฟ้า Twilight Blue, สีส้ม Sunrise Orange และสีเขียว Ocean Green |
| ราคา | RAM 4GB+64GB ราคา 4,499 บาท RAM 6GB+128GB ราคา 5,299 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องแพคเกจจิ้งของ Redmi 9T เป็นกล่องกระดาษแข็งสีขาวขนาดพอดีกับตัวเครื่อง ด้านหน้ากล่องมีภาพตัวเครื่องด้านหน้าและด้านหลังพร้อมชื่อรุ่น โดยมุมซ้ายด้านบนมีโลโก้ Mi และมุมซ้ายด้านล่างมีข้อความ 6,000mAh ซึ่งเป็นจุดเด่นของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- ตัวเครื่อง Redmi 9T
- อุปกรณ์เปิดถาดซิมการ์ด
- อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 22.5W
- สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
- เคสพลาสติกใส
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ และใบรับประกัน
อแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 22.5W
รูปลักษณ์ดีไซน์ / การออกแบบ
ตัวเครื่อง Redmi 9T มีดีไซน์ที่ทันสมัยและเรียบหรูด้วยมุมโค้งมน และทำจากวัสดุที่หยดน้ำไม่เกาะ ด้วยขนาด 162.3 x 77.3 x 9.6 มม. และน้ำหนัก 198 กรัม ถือว่ามีขนาดไม่ใหญ่ และหนักมากเกินไป ถือจับใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้ถนัดมือ โดยมีให้เลือก 4 สีคือ สีเทา Carbon Gray, สีฟ้า Twilight Blue, สีส้ม Sunrise Orange และสีเขียว Ocean Green ซึ่งสีที่ทาง MobileOcta ได้มารีวิวคือ สีส้ม Sunrise Orange สวยเด่นสะดุดตาเลย
หน้าจอแสดงผล Dot Drop แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2340 พิกเซล (395 ppi) ขนาด 6.53 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 ความสว่าง 400 nits ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3 และมีเลนส์กล้องเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลอยู่ตรงกลางด้านบน
ด้านหลังเครื่องมาในพื้นผิวด้านป้องกันลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี พร้อมมีเงาสะท้องเหมือนแสงอาทิตย์ที่เปล่งแสงออกมา และบริเวณมุมซ้ายยังสลักคำว่า Redmi ตัวใหญ่โดดเด่นไม่เหมือนใครอีกด้วย
โดยมุมซ้ายด้านบนติดตั้งกล้อง 4 ตัว พร้อมไฟแฟลชคู่ LED อยู่ในโมดูลสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีมุมโค้งมน โดยเลนส์ 3 ตัวแรกเรียงในแนวตั้งด้านซ้าย และเลนส์ตัวที่ 4 อยู่ด้านขวา พร้อมข้อความ 48MP Super Quad Camera
ซึ่งกล้องทั้ง 4 ตัวประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2”, 1.6μm, ซุปเปอร์พิกเซล 4-in-1, พิกเซลขนาด 0.8μm, รูรับแสง f/1.79 และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 120 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
- กล้องตัวที่ 4 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องแบบ Triple Slot สำหรับใส่ SIM Card ซึ่งรองรับ 2 SIM แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง กับใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card รองรับสูงสุด 512GB
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง และติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนปุ่มนี้ด้วย
ด้านบนมีช่องลำโพงเสียง, ช่องหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ตอินฟราเรด
ด้านท้ายเครื่องมีช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
คุณสมบัติการใช้งาน
ด้านประสิทธิภาพ
Redmi 9T รันบนระบบปฏิบัตการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12 ที่มาพร้อมอินเทอร์เฟสที่ดูสบายตา และใช้งานง่าย โดยมาพร้อมฟีเจอร์เด่นอย่างโหมดมืด (Dark Mode), ภาพพื้นหลังแบบ Super Wallpapers เป็นต้น รวมทั้งสามารถเลือกปรับแต่งธีม หรือภาพพื้นหลังได้ตามใจชอบ รวมทั้งเลือกใช้งาน Widget ที่ต้องการได้ และตั้งค่า Home Screen ได้
ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm SM6115 Snapdragon 662 (11 nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610, RAM 4GB/6GB, หน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 64GB/128GB เพิ่มได้ด้วยการ์ดหน่วยความจำแบบ microSD card ได้สูงสุดขนาด 512GB
หลังจากที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด พร้อมเปิดแอปหลายๆ ตัวพร้อมกันได้ และตอบสนองการใช้งานเป็นอย่างดี
ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV ซึ่งเป็นเกมแนว MOBA หรือเกมทำลายฐานฝ่ายตรงข้ามยอดฮิต สามารถเล่นบนเฟรมเรทสูงได้สบายๆ และถ้าเลือกตั้งค่าเกมให้เป็นค่าเริ่มต้น ก็จะสามารถตีป้อมได้ค่อนข้างลื่นเลยทีเดียว
และเกม PUBG Mobile ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ ตั้งค่ากราฟิกระดับสมดุล และเฟรมเรทระดับกลาง สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และเล่นนานๆ เครื่องก็ไม่มีอาการร้อนอีกด้วย โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Redmi 9T ผ่านแอป Antutu
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Redmi 9T ผ่านแอป GeekBench
รองรับการปลดล็อดหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock
ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังบนปุ่ม Power