สวัสดีครับ พบกับการรีวิว Lenovo Tab P11 Pro แท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ สเปคดี ดีไซน์สวย เหมาะกับยุคที่หลายคนต้องทำงานที่บ้าน หรือที่เรียกติดปากกันว่า Work From Home รวมไปถึงการเรียนออนไลน์ ที่พวกเราต้องทำกันไปอีกสักพักจนกว่าโรคระบาดจะดีขึ้น
วันนี้ทีมงาน MobileOcta มีโอกาสได้นำแท็บเล็ตรุ่นนี้มาทดสอบกันให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกัน โดยจุดเด่นคร่าวๆ ของรุ่นนี้คือมาพร้อมชิปประมวลผลจาก Qualcomm คือ Snapdragon 730G ตัวแรงระดับกลาง กล้องหลังคู่ ลำโพงรอบทิศทาง หน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา
และที่สำคัญยังเป็นแท็บเล็ตที่มาครบ จบในเครื่องเดียว มาทั้งจอ คียบอร์ด ปากกา คือไม่ต้องไปหาอุปกรณ์เสริม ไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่ม พร้อมใช้เรียนหรือใช้ทำงานได้ทันที แต่ส่วนอื่นๆ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปชมรีวิวกันเลยครับ
แกะกล่อง Unboxing
เริ่มแรกเรามาแกะกล่องดูอุปกรณ์ภายในกล่องของเจ้า Lenovo Tab P11 Pro กันก่อนเลยครับ โดยอุปกรณ์ที่ให้มามีดังนี้
- ตัวเครื่องแท็บเล็ต
- สายชาร์จ
- ที่ชาร์จ
- คู่มือ
- ปากกา Stylus
- เคสขาตั้ง
- เคสคีย์บอร์ด
- เข็มจิ้มซิม
จากที่แถมมาก็ต้องถือว่าไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเลยครับ ครบพร้อมใช้ แถมยังได้อุปกรณ์มากกว่าแท็บเล็ตคู่แข่งในราคาใกล้เคียงกันด้วย โดยเฉพาะปากกา Stylus และเคสสำหรับตั้งและพิมพ์ที่ใช้จริงสะดวกมาก ซึ่งเดี๋ยวเราจะเล่าให้ฟังกันในส่วนถัดไป
สเปค Lenovo Tab P11 Pro
- หน้าจอ OLED ขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2K 2560×1600 พิกเซล (263 ppi) รองรับ HDR10, Dolby Vision, ความสว่าง 500nits สัดส่วน 16:10 Multi-Touch 10 จุด
- CPU Qualcomm Snapdragon 730G (8nm)
- RAM 6GB
- ROM 128GB เพิ่มเมมได้ด้วย MicroSD Card
- รัน Android 10
- ขนาดตัวเครื่อง 264.3 x 171.4 x 6.9 มม.
- น้ำหนัก 485 กรัม
- กล้องหลังคู่
- กล้องหลัก 13MP รองรับ AF
- กล้อง Ultrawide 5MP
- กล้องหน้า 8MP
- มีลำโพง JBL 4 ตัวรอบทิศทาง และมีอัลกอริทึมอัจฉริยะช่วยมอบเสียงเซอร์ราวด์แบบในโรงภาพยนตร์ และรองรับระบบเสียง Dolby Atmos
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, A2DP, LE
- GPU A-GPS, GLONASS, BDS
- ชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ความเร็ว 18W
- แบตเตอรี่ 8600mAh ไม่สามารถถอดได้
- สีที่จำหน่าย คือ Slate Grey
- ปลดล็อคเครื่องด้วยการสแกนนิ้วที่ปุ่ม Power และการสแกนใบหน้า
- ราคา 20,900 บาท
Design การออกแบบ
Lenovo Tab P11 Pro มาพร้อมดีไซน์การออกแบบที่สวยงามแบบ Unibody เรียบหรูดูดีมากครับ งานประกอบแน่นหนาสมกับที่มีคำลงท้ายว่า Pro ด้านหน้าเป็นกระจก ส่วนกรอบด้านข้าง และฝาหลังเป็นอลูมิเนียมสวยงามลงตัว
ตัวเครื่องมีขนาด 264.3 x 171.4 x 6.9 มม. ถือว่าไม่เล็กไม่ใหญ่ครับ น้ำหนักอยู่ที่ 485 กรัม ถือว่ากำลังดีพอเหมาะ และไม่ต้องกลัวว่าถือใช้งานนานๆ จะเมื่อยจะหนัก เพราะในชุดแถมขาตั้งมาให้ด้วยครับ สามารถปรับได้หลากหลายองศา ขาตั้งเป็นแบบหนืดๆ หน่วงๆ คล้าย Surface ถือว่าทำได้ดีเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีเคสแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดมาให้ด้วย (เชื่อมต่อแบบแม่เหล็กที่แน่นมาก) โดยในชุดขายจริงคาดว่าแป้นจะมีภาษาไทยครับ ซึ่งตัวที่รีวิวนี้เป็นแป้นภาษาอังกฤษ การพิมพ์ถือว่าไม่มีติดขัดครับ สามารถพิมพ์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว แทบไม่ต่างจากแป้นพิมพ์ของแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ เลย และตัวเคสไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตครับ เมื่อเชื่อมต่อกับแท็บผ่านพอร์ต จะสามารถใช้งานได้ทันที และไม่ต้องตั้งค่าการเชื่อมต่อแต่อย่างใด รองรับการทำงานร่วมกับ แอปพลิเคชัน Microsoft Office ที่คุ้นเคย
เช่นเดียวกับปากกา Stylus ที่แถมมาให้ในกล่องที่มีชื่อว่า Lenovo Precision Pen 2 เมื่อเปิดใช้งานจะเชื่อมต่อเองอัตโนมัติ แต่ในตัวปากกาจะต้องเสียบชาร์จด้วยครับ โดยพอร์ตจะถูกซ่อนอยู่ใต้จุกยางด้านบน เมื่องัดขึ้น จะเจอกับพอร์ต USB-C ซึ่งสามารถใช้ที่ชาร์จที่แถมมาชาร์จได้เลย การใช้งานปากกาก็ถือว่าแทบไม่เจออาการหน่วงครับ ตอบสนองค่อนข้างรวดเร็ว รองรับได้ทั้งการจดบันทึก การขีดเขียนวาดภาพ หรือจะเอาไว้ตรวจงานก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน
ที่ด้านบนจะมีปุ่มควบคุมเสียง พร้อมกับไมค์ 2 ตัว
ด้านซ้ายมีปุ่ม Power ลำโพง 1 คู่ และช่องใส่ซิมการ์ด โดยจะมีช่องซิม 1 และช่อง microSD Card อีก 1
ด้านล่างไม่มีอะไรครับ ยกเว้นจุดเชื่อมต่อกับเคสคีย์บอร์ดเท่านั้น
ที่ด้านขวามีลำโพงอีก 1 คู่ รวมทั้งหมดเป็น 4 ตัว และมีพอร์ตชาร์จ USB-C
ส่วนด้านหน้าเป็นหน้าจอแบบ OLED ขนาด 11.5 นิ้ว ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซลที่ 263 ppi รองรับ HDR10, Dolby Vision, ความสว่าง 500nits สัดส่วน 16:10 ซึ่งถือว่าจอสวยมาก การแสดงผลในที่แสงสว่างมาก ถือว่าสู้แสงได้ดีในระดับนึง การรับชมความบันเทิง ดูหนังฟังเพลง เล่นเกมถือว่าเนียนตา น่าประทับใจ ใครชอบแท็บเล็ตจอใหญ่เอาไว้ดูหนัง ดูซีรีย์ด้วย รับรองไม่ผิดหวัง
ที่ด้านหลังมีโลโก้ Lenovo ที่บริเวณด้านซ้าย และกล้องคู่พร้อมไฟแฟลชที่ด้านขวา ส่วนถัดลงมาจะมีโลโก้ JBL ที่ปรับปรุงระบบเสียงให้แท็บรุ่นนี้ และโลโก้ Dolby Vision การันตีคุณภาพของหน้าจออีกด้วย
ดีไซน์โดยรวมของแท็บเล็ต Lenovo Tab P11 Pro ถือว่าน่าประทับใจมากครับ ไร้ข้อตำหนิแต่อย่างใด ขอบแท็บเล็ตมีความโค้งมนเล็กน้อยทำให้จับถือได้อย่างสะดวก และบริเวณขอบมีการตัดขอบด้วยเส้นสายสะท้อนแสง ยิ่งเพิ่มความรู้สึก Premium ได้เป็นอย่างดี โดยรวมถือว่าผู้รีวิวชอบมากในจุดนี้
Performance ประสิทธิภาพ
Lenovo Tab P11 Pro แม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นแท็บเล็ตระดับ โปร แต่ก็มาพร้อมกับชิปประมวลผลระดับกลางสูงอย่าง Qualcomm Snapdragon 730G ครับ ซึ่งตัว G ที่ลงท้ายนั้นบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการเล่นเกมโดยเฉพาะ ดังนั้นแม้ว่าจะเป็น CPU ตัวนี้ แต่ความสามารถในการประมวลผลจัดว่าเด็ดไม่แพ้ใครในระดับเดียวกันแน่นอน โดยมาพร้อมกับ RAM 6GB หน่วยความจำภายใน 128GB ที่รองรับการเล่นเกมได้ทุกเกมใน Play Store เช่นกัน (และหากความจำภายในขนาดนี้ยังไม่เยอะจุใจ ก็สามารถเพิ่มได้ด้วย microSD Card ได้อีก)
มาถึงเรื่องเกม การได้เล่นเกมบนแท็บเล็ตหน้าจอสวยๆ ความละเอียดสูงๆ แบบนี้ ถือว่าเนียนตาดีมากครับ โดยเกมที่เราทดสอบมีทั้งหมด 3 เกม เลือกมาแบบเกมกราฟฟิกแรงๆ ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น RoV เกม MOBA 5v5 แห่งชาติ, PUBG Mobile เกมเอาตัวรอดให้ได้นานที่สุด หรือจะเป็น Need For Speed No Limits เกมแข่งรถกราฟฟิกสวย เป็นต้น
ไปดูกันที่การทดสอบ RoV ก่อนครับ เกมนี้ผู้รีวิวเปิดกราฟฟิกสูงสุด Frame Rate สูงสุด ก็สามารถทำได้คงที่ที่ 60fps ถือว่าดียอดเยี่ยมมาก ตอนบวกกันเยอะๆ เฟรมเรทก็ไม่มีตก ตรงนี้ถือว่าดีสมกับใช้ชิปตระกูล G จริงๆ ครับ
ถัดไปคือ PUBG Mobile ซึ่งเหมาะมากกับการเล่นบนหน้าจอขนาดใหญ่ เพราะช่วยให้เราได้เปรียบคู่แข่งในการมอง ซึ่งแท็บเล็ตรุ่นนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง การเล่นเกมไม่มีกระตุกให้เห็นสักครั้งเลยครับ ลื่นไหลไม่มีสะดุดแต่อย่างใด ไม่แปลกที่จะชนะ และได้กินไก่ในเกมนี้เช่นกัน
และสุดท้ายเกมแข่งรถกราฟฟิกสวยๆ อย่าง Need For Speed No Limits เกมนี้ก็สามารถแสดงผลได้อย่างสวยงาม ไม่มีข้อให้ติเช่นกัน การประมวลผลรวดเร็ว การควบคุมบนหน้าจอขนาดใหญ่ ก็เข้าไม้เข้ามือดีมาก
ส่วนด้านการทำงาน ด้วยขนาดหน้าจอ 11 นิ้วเบิ้มๆ แบบนี้ สามารถตอบโจทย์การพิมพ์งานได้เป็นอย่างดี แต่แน่นอนว่าด้วยการมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android OS ซึ่งด้านการทำงานอาจสู้พวก Windows OS ไม่ได้แน่นอน แต่ก็ยังถือว่าพอให้ได้พิมพ์งาน คุยแชตลูกค้า ประชุมออนไลน์ เรียนออนไลน์ หรือการวาดเขียนต่างๆ แท็บเล็ตตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ไม่มีปัญหาเลยครับ
นอกจากนี้ Lenovo Tab P11 Pro ยังมีฟีเจอร์เบลอพื้นหลังขณะคุยผ่านวีดีโอคอล โดยในขณะที่กำลังทำการวิดีโอคอล Lenovo Tab P11 Pro จะช่วยเบลอพื้นหลังให้ขณะคุยผ่านวีดีโอคอล เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เหมาะสมกับยุคสมัยที่ทุกคนมีการระวัง และหวงแหนความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และยังมีระบบตัดเสียงรอบข้างขณะที่ใช้งานวิดีโอคอลจากประสิทธิภาพของการมีไมค์สองตัวอีกด้วย
โดยรวมด้านประสิทธิภาพความเร็วแรง มี 10 ก็ต้องให้ 10 คะแนนครับสำหรับแท็บเล็ตราคาระดับนี้ ใครหาแท็บเล็ตไว้เน้นความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม และทำงานด้วยพอๆ กัน ต้องบอกว่าตัวนี้น่าใช้มาก แต่ถ้าเน้นทำงานเพียวๆ แนะนำมองหาโน้ตบุ๊คดีกว่าครับ แต่งบนี้บอกเลยว่าจะได้แค่โน้ตบุ๊คระดับพื้นๆ นะครับ เล่นเกมไม่พริ้วเหมือน Lenovo Tab P11 Pro รุ่นนี้แน่นอน
Camera ด้านการถ่ายภาพ
ขึ้นชื่อว่า่เป็นแท็บเล็ต ส่วนใหญ่ด้านการถ่ายภาพจะไม่ค่อยเน้นเท่าไหร่ครับ ซึ่งก็เช่นเดียวกันกับ Lenovo Tab P11 Pro รุ่นนี้ ที่มาพร้อมกล้องหลัง 13 + 5 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ซึ่งคุณภาพบอกตรงๆ ก็ต้องบอกว่าถือว่ายังอยู่ในระดับตามมาตราฐานทั่วไป คือ สามารถถ่ายภาพได้สนุกๆ ขำๆ ครับ แต่ก็พอให้ได้แชร์ลงโซเชียลให้เพื่อนกดไลค์ กดแชร์ได้ ส่วนกล้องหน้าก็เช่นกัน ถ่ายภาพสนุกๆ ได้ อาจไม่สวยโดนใจเหมือนกล้องบนสมาร์ทโฟนราคาหลายหมื่น แต่ถ้าใช้กล้องสำหรับ video call ประชุมออนไลน์ หรือเรียนออนไลน์ ก็ต้องบอกว่า ”เหลือๆ” ครับ คมชัดเพียงพอต่อการทำงานแน่นอน
ลองไปชมภาพตัวอย่างกัน
Battery การใช้พลังงาน
ด้านการใช้พลังงานของ Lenovo Tab P11 Pro ก็ต้องย้ำก่อนว่าแท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมแบตเตอรี่ 8600mAh และรองรับการชาร์จไฟกลับที่ 18W การใช้งานจริงของทีมงาน โดยเป็นการใช้งานทั่วไปครับ มีดูหนังฟังเพลงบ้างระหว่างวัน ตอบเมล เช็คโซเชียลต่างๆ การใช้งานสามารถทำได้ที่เกือบๆ 15 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าน่าประทับใจมาก
ใครที่มองหาแท็บเล็ตไว้ทำงานนอกบ้าน หรือเอาไว้ใช้งานด้านความบันเทิง บอกเลยว่าสบายครับ นอกจากแบตจะอึดแล้ว ยังรองรับ 4G LTE ใส่ซิมได้ด้วย แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มี WiFi ก็สามารถทำงานได้สะดวกทีเดียว ไม่ต้องปล่อย Hotspot จากมือถือให้เปลืองแบตมือถือด้วยล่ะ
Price ราคา
Lenovo Tab P11 Pro ราคา 20,900 บาท ก็ถือว่าสมน้ำสนเนื้อครับ สำหรับแท็บเล็ตใส่ซิมได้ มีคีย์บอร์ดแถม และมีปากกาสไตลัสมาให้ด้วย จัดว่าจบได้คุ้มมากตามงบเลยครับ ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มแล้ว
Conclusion สรุป
สรุปด้านการใช้งานนะครับ Lenovo Tab P11 Pro รุ่นนี้ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความบันเทิง และการทำงาน หรือเรียนออนไลน์ได้อย่างลงตัวมาก ด้านงานประกอบถือว่าทำได้เนี๊ยบ เรียบหรูสวยงาม อุปกรณ์ที่แถมให้จบแบบไม่ต้องหาอะไรเพิ่มอีก ชิปประมวลผลรองรับการเล่นเกมกราฟฟิกสูงได้แบบไม่มีกระตุก
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ช่วยเสริมให้แท็บเล็ตรุ่นนี้เป็นแท็บที่รองรับความบันเทิงขั้นสุด คือลำโพง 4 ตัวแบบ Stereo บนตัวเครื่องที่ปรับจูนโดย JBL ช่วยทำให้ระบบเสียงของแท็บเล็ตอลังการมาก เสียงมีความดังมากรอบทิศทาง แถมมีน้ำหนัก เสียงไม่บาง ทำให้ฟังเพลงดีมาก พร้อมกับมีหน้าจอขนาดใหญ่ และความละเอียดสูง รองรับ Dolby Vision อีกด้วย ทำให้ในงบนี้หน้าจอของแท็บเล็ตรุ่นนี้น่าจะอยู่อันดับบนๆ ของตลาดได้เลย
ส่วนข้อสังเกตคงหนีไม่พ้นด้านกล้องถ่ายภาพครับ ที่คุณภาพยังถือว่าอยู่ในระดับธรรมดาๆ แต่ยังดีที่ให้กล้อง Ultrawide มาไว้ให้ถ่ายสนุกๆ เพิ่มลูกเล่นสำหรับคนอยากใช้แท็บเล็ตถ่ายภาพ โดยรวมก็ถือว่าพอใช้ได้ครับ
โดยสรุปแล้ว Lenovo Tab P11 Pro น่าจะเหมาะกับคนที่หาแท็บเล็ตไว้ทำงาน WFH หรือเรียนออนไลน์ช่วงนี้ครับ เพราะนอกจากด้านการทำงานแล้ว ด้านความบันเทิงแก้เครียด แท็บเล็ตตัวนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างไร้ที่ติ ก็ประมาณนี้ครับสำหรับการรีวิว ใครชอบบทความรีวิวนี้ยังไงก็ฝากกดไลค์ กดแชร์ให้ด้วยครับ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ 🙂