ZTE ประเทศไทย เปิดตัว ZTE Blade A35e เจาะตลาดกลุ่มผู้ใช้เริ่มต้น หรือเปลี่ยนผ่านฟีเจอร์โฟนสู่สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้นที่สเปกสูง กล้องสวย จอแสดงผลขนาดใหญ่ ในราคาประหยัดเพียง 1,999 บาท
วางจำหน่ายแล้วผ่านตัวแทนจำหน่าย วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) ทั่วประเทศ พร้อมการรับประกันตัวเครื่องนาน 18 เดือน มั่นใจในความปลอดภัย ไม่มีแอปพลิเคชันที่ผิดกฎหมายมากับเครื่องอย่างแน่นอน
โดยทาง MobileOcta ก็ได้ ZTE Blade A35e มารีวิวเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปดูกันว่าสมาร์ตโฟนราคาประหยัดรุ่นนี้จะมีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้างกันได้เลยครับ
สเปคเบื้องต้น ZTE Blade A35e
| ขนาด | 164 x 75.7 x 8.5 มิลลิเมตร |
| น้ำหนัก | 187 กรัม |
| หน้าจอ | LCD ขนาด 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+ 1280×576 พิกเซล |
| หน่วยประมวลผล | Octa Core ความเร็ว 1.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Unisoc SC9863A (28nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก IMG8322 |
| RAM | 2GB (UP TO 6GB EXTENDED RAM) |
| หน่วยความจำภายในเครื่อง | 64GB |
| microSD Card | สูงสุด 1TB |
| กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED กล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล |
| ระบบปฏิบัติการ | Android 14 Go Edition |
| เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot, Bluetooth 5.2, GPS with A-GPS, microUSB |
| รองรับระบบ | 4G LTE และ 3G 850/900/1900 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย) |
| แบตเตอรี่ | 5,000 mAh |
| ราคา | ราคา 1,999 บาท |
อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องแพ็คเกจจิ้งของ ZTE Blade A35e เป็นกล่องกระดาษแข็งสีขาวตัดกับสีส้มสวยงาม ด้านหน้ากล่องมีรูปตัวเครื่องใน 2 สีได้แก่ Ice Green และ Silver Gray ด้านบนมีชื่อรุ่น ถัดลงมาด้านซ้ายระบุหน่วยความจำ RAM 6GB (2+4GB) กับหน่วยความจำภายใน 64GB และด้านล่างระบุแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh, หน้าจอขนาดใหญ่ 6.52 นิ้ว และกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย
- ตัวเครื่อง ZTE Blade Z35e
- เคสใส
- เข็มจิ้มถาดซิม
- สายชาร์จ microUSB
- อะแดปเตอร์
- คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน
รูปลักษณ์ดีไซน์
ตัวเครื่อง ZTE Blade A35e มีรูปลักษณ์ดีไซน์ทันสมัย ตัวเครื่องขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา สามารถใช้งานสะดวกทั้งผู้ชายและผู้หญิง ออกแบบให้ถือจับใช้งานได้ถนัดมือ พื้นผิวด้านหลังตัวเครื่องแบบด้าน ช่วยลดการเกิดรอยนิ้วมือ ทำความสะอาดได้ง่าย และมี 2 สีให้เลือก คือ สีเขียว Ice Green และสีเทา Silver Gray ซึ่งสีที่ทาง MobileOcta ได้มารีวิวคือ สีเทา Silver Gray
หน้าจอแสดงผลทรงหยดน้ำ Dot Dorp Design แบบ LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1612 พิกเซล (267 ppi) ขนาด 6.52 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9 แสดงผลได้สดใสคมชัด และรองรับการทัชสกรีนหน้าจอพร้อมกันสูงสุด 5 จุด
ตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้องเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รองรับระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคหน้าจอ รวมทั้งมีช่องลำโพงสนทนา และเซนเซอร์ต่าง ๆ อาทิ LIGHT SENSOR และ PROXIMITY SENSOR เป็นต้น
พลิกมาด้านหลังตรงกลางด้านบนติดตั้งกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และด้านซ้ายล่างมีโลโก้ ZTE
โดยกล้องหลัง AI ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับระบบออโต้โฟกัส
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ SIM Card แบบ Triple Slot Tray แบ่งเป็นช่องใส่ SIM Card แบบ nanoSIM Card 2 ช่อง และช่องใส่การ์ดหน่วยความจำภายนอก 1 ช่อง
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง
ด้านบนเครื่องออกแบบเรียบๆ ไม่มีช่อง หรือปุ่มกดใดๆ
ด้านท้ายเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. ช่องไมโครโฟน, พอร์ต microUSB และช่องลำโพงเสียง
คุณสมบัติการใช้งาน
ZTE Blade A35e รันบนระบบปฏิบัติการ Android 14 Go Edition บนพื้นฐานของ Android 12 ครอบทับด้วย itel OS 8.6 โดย Android Go คือระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ตโฟนราคาประหยัดที่มี RAM 2GB หรือน้อยกว่า เน้นประสิทธิภาพการทำงานที่ลื่นไหล แม้จะใช้ทรัพยากรระบบจำกัด
โดยมีหน้าตาอินเทอร์เฟซที่ดูเรียบง่าย สามารถเลือกเปลี่ยนภาพพื้นหลังได้ตามใจชอบ และเมนูที่ใช้งานสะดวก
รองรับ 2 SIM แบบ dual sim dual standby สามารถใช้งาน 4G ได้พร้อมกันทั้งซิมหนึ่ง และซิมสอง
รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยการสแกนใบหน้า
และมีฟีเจอร์ Phone Master สำหรับการจัดการระบบเครื่อง และเคลียไฟล์ขยะ รวมเอาไว้ให้ในแอปเดียว
ประสิทธิภาพ
ZTE Blade A35e ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 1.6GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Unisoc SC9863A (28nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก IMG8322, RAM 2GB + 4GB RAM Extension และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 64GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1TB
โดย Unisoc SC9863A เป็นชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นที่มีความแรงเทียบเท่ากับชิปเซ็ท Snapdragon 4XX แต่ราคาประหยัดกว่า
เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปเช่น เล่นโซเชี่ยล หรือดูคลิป YouTube, TikTok เป็นต้น ปรากฏว่า สามารถใช้งานได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ASPHALT 8 ปรากฎว่าสามารถเล่นได้ลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น แถมเล่นนานๆ เครื่องก็ไม่มีอาการร้อนอีกด้วย
แบตเตอรี่
ZTE Blade A35e ใช้แบตเตอรี่ขนาดความจุ 5,000mAh ด้วยแพลตฟอร์มมือถือขับเคลื่อนด้วย Android 14 Go Edition จึงไม่มีแอปพลิเคชันที่ถูกติดตั้งมาแบบไม่จำเป็น ที่จะส่งผลต่อการสิ้นเปลืองของแบตเตอรี่
หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานแบบทั่วไปปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ข้ามวันได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะเล่นเกม ท่องอินเทอร์เน็ต ดูคลิปวิดีโอ หรือใช้งานทั่วไป
ด้านการถ่ายภาพ
ZTE Blade A35e ติดตั้งกล้องหลัง AI ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED
สามารถเลือกโหมดการถ่ายทั้งแบบปกติ, รูปบุคคล, วิดีโอ, แสงน้อย, มืออาชีพ, พาโนรามา และ HDR รวมทั้งตั้งค่าตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ, เปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมด AI, เลือกฟิลเตอร์ และตั้งค่าอื่นๆ โดยภาพนิ่งสามารถถ่ายที่ได้ความละเอียดสูงสุด 4160×3120 พิกเซล ส่วนวิดีโอสามารถบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด FHD 1080P
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมโหมดตกแต่งด้วย AI, โหมดบิวตี้ ที่เลือกการปรับความสวยได้ถึง 5 ระดับ รวมถึงมีโหมด Portrait ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ, วิดีโอ, แสงน้อย, ถ่ายกว้าง และโหมด HDR
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
บทสรุป
ZTE Blade A35e เป็นสมาร์ตโฟนราคาประหยัดสเปกพรีเมียมในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้สมาร์ทโฟน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ 6.52 นิ้ว มอบประสบการณ์การรับชมที่ชัดเจนและสมจริง พร้อมออกแบบให้มีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ พร้อมด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่ และอินเตอร์เฟสที่เข้าใจง่าย
นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์แบบ Octa-Core ความเร็ว 1.6 GHz และ RAM ที่เพิ่มได้สูงสุด 6GB (4+2GB) มอบประสิทธิภาพการใช้งานที่รวดเร็วและตอบสนองไว และมาพร้อมหน่วยความจำภายในขนาด 64GB ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันพื้นฐาน รูปภาพ วิดีโอ และไฟล์อื่นๆ
รวมทั้งติดตั้งกล้องหลังความละเอียด 8MP ระบบออโต้โฟกัส และกล้องหน้าความละเอียด 5 MP รองรับโหมด AI ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพและเซลฟี่ ปรับแต่งภาพ ได้อย่างง่ายดาย และใช้แบตเตอรี่ขนาด 5000mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานโดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนที่ใช้งานได้ทั้งวัน
ทั้งนี้ ZTE Blade A35e มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Ice Green และ Silver Gray วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ร้านตัวแทนจำหน่าย ร้านค้าพันธมิตร ของ วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) กว่า 5,500 ร้านค้า ทั่วประเทศ และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้าร่วมรายการ ในราคา 1,999 บาท
พร้อมการรับประกันยาวนานถึง 18 เดือน และบริการหลังการขายที่อำนวยความสะดวกพร้อมดูแลผู้บริโภคถึงหน้าประตูบ้าน (Door-to-Door Service) ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล