หลังจากที่ Xiaomi เปืดตัวคู่พี่น้อง Redmi 5 และ Redmi 5 Plus ในจีนไปเมื่อช่วงปลายปี 2017 และเพิ่งจะนำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
โดยเป็นสมาร์ทโฟนในตระกูล Redmi Series รุ่นแรกที่มาพร้อมหน้าจอแบบ Full Screen อัตราส่วน 18:9 พร้อมสเปกครบครัน ในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ โดยเครื่องที่นำมารีวิวเป็นรุ่น Redmi 5 Plus ที่มีหน่าจอขนาด 5.99 นิ้วใหญ่กว่า Redmi 5 ที่มีขนาด 5.7 นิ้ว ว่าแล้วเราไปดูรีวิวกันเลยดีกว่า
รูปลักษณ์ดีไซน์
Redmi 5 Plus มาพร้อมดีไซน์โค้งมนสวยหรู ตัวเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากโลหะแบบ Full Metallic ขึ้นรูปชิ้นเดียวแบบ Unibody และด้านหลังออกแบบขอบด้านข้างทั้ง 2 ด้านโค้งมน ช่วยให้ถือจับใช้งานได้ง่ายขึ้น
ด้วยขนาด 158.5 × 75.45 × 8.05 มม. และน้ำหนัก 180 กรัม ถือว่าบางและเบาพอสมควร แม้ว่าข้างในจะใส่แบตความจุ 4,000 mAh มาให้ก็ตาม
รูปลักษณ์ทั่วไปเริ่มจากด้านหน้าไล่ตั้งแต่ด้านบนด้านซ้ายมีไฟแฟลช LED ตรงกลางมีช่องลำโพงสนทนา ด้านขวามีเลนส์กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และไฟ LED แจ้งเตือนสถานะต่างๆ
ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2160 พิกเซล ขนาด 5.99 นิ้ว และใต้หน้าจอไม่มีปุ่มกดใด โดยปุ่มควบคุมการใช้งานนั้นจะอยู่บหน้าจอซึ่งจะแสดงขึ้นมาเมื่อเปิดเครื่องใช้งาน
พลิกมาด้านหลังเครื่อง ตรงกลางด้านบนมีเลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชคู่ LED ถัดลงมามีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ Mi โดยมีแถบเส้นเสาอากาศอยู่ด้านบนและด้านล่าง
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดโดยรองรับ 2 SIM แบบไฮบริด โดยช่อง SIM 2 ต้องเลือกระหว่างซิมการ์ดหรือ microSD Card
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง
ด้านบนมีช่องหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร, IR Blaster และช่องไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน
ด้านล่าง ตรงกลางมีพอร์ต microUSB และด้านซ้ายมีช่องไมโครโฟน
สเปก Redmi 5 Plus
ขนาด | 158.5 × 75.45 × 8.05 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 180 กรัม |
หน้าจอ | IPS LCD 16 ล้านสี ความละเอียด FHD+ 1080 x 2160 พิกเซล ขนาด 5.99 นิ้ว |
หน่วยประมวลผล | Quad-Core ความเร็ว 1.8GHz, ชิปเซ็ท Snapdragon 625, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506 |
RAM | 3GB/4GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 32GB/64GB |
microSD Card | สูงสุด 128GB |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง ความละเอียด 12 ล้าน พร้อมไฟแฟลชคู่ LED, รูรับแสง f/2.2, 5 ชิ้นเลนส์, โหมด HDR และระบบ PDAF ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Beauty 3.0 |
ระบบปฏิบัติการ | Android 7.1.2 Nougat ครอบทับด้วย MIUI 9.1 |
เชื่อมต่อ | รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, Dual Band, WiFi Direct, hotspot, Bluetooth 4.1, microUSB 2.0, พอร์ต IR Blaster |
รองรับระบบ | 4G LTE Band 1/3/5/40/41 และ 3G 850/900/1900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย) |
แบตเตอรี่ | 4,000 mAh |
ราคา | 5,790 บาท |
คุณสมบัติการใช้งาน
Xiaomi Redmi 5 Plus รันบนระบบปฏิบัติการ Andoid 7.1,2 Nougat ครอบทับด้วย MIUI 9.5 หน้าโฮมสกรีนออกแบบเรียบง่าย สามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และเพิ่ม Widget ได้ตามใจชอบ ส่วนหน้า App drawer รุ่นนี้ไม่มีมาให้ โดยแสดงไอคอนแอปต่างๆ บนหน้าจอโฮมสกรีนเลยในส่วนด้านบนเมื่อปัดเลื่อนลงมาจะพบกับหน้าต่างการแจ้งเตือน รวมทั้งการตั้งค่าปรับความสว่าง ปรับระดับเสียง และตั้งค่าการเชื่อมต่อต่างๆ
สามารถเลือกใช้งานได้ 2 แบบ คือโหมดปกติ กับโหมด Full screen โดยโหมดปกติจะมีปุ่มพื้นฐานทั้ง 3 ปุ่มคือ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App แสดงบนหน้าจอ ส่วนโหมด Full Screen จะไม่มีปุ่มพื้นฐาน แต่จะใช้การควบคุมด้วยระบบ Gesture ต่างๆ แทน
แอป Theme สามารถเลือกดาวน์โหลดธีมและภาพพื้นหลังมาเปลี่ยนได้เองตามใจชอบ ซึ่งมีให้เลือกมากมาย
รองรับการใช้งาน 2 SIM สามารถตั้งค่าเลือกใช้งานเครือข่าย 3G/4G ได้ทั้ง 2 SIM (แต่ไม่ใช่ Full Netcom 3.0)
ฟีเจอร์ Second Space หรือพื้นที่ทับซ้อน เป็นการสร้างพื้นที่จำลอง เหมือนเป็นมือถืออีกเครื่องขึ้นมา โดยจะมีการใช้งานแยกกันกับพื้นที่ปกติ ทั้งข้อมูลบัญชี หรือแอพพลิเคชันต่างๆ และสามารถตั้งรหัสในการเข้าใช้งานแยกกับพื้นที่หลักได้ แต่จะยังใช้งานพื้นที่หน่วยความจำร่วมกันอยู่
ด้านการถ่ายภาพ
Redmi 5 Plus มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชคู่ LED, เลนส์ 5 ชิ้น, รูรับแสง f/2.2 , ขนาดพิกเซล 1.25μm โดยมาพร้อมเทคโนโลยีโฟกัสภาพแบบ PDAF, โหมด Panorama, Beauty, HDR, ถ่ายต่อเนื่อง, เบลอหลัง, โฟกัสใบหน้า, ฟิลเตอร์แบบเรียลไทม์ และวิดีโอ สำหรับภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4000 x 3000 พิกเซล และวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD ที่ 30fps
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Beautify 3.0 รวมถึงตั้งค่าชัตเตอร์กล้องด้วยเสียง และนับถอยหลังได้
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
ประสิทธิภาพ
Redmi 5 Plus ใข้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 625, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506, RAM 3GB/4GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 32GB/64GB
หลังจากที่ได้ลองทดสอบงานทั่วไปผลปรากฏว่า สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV และเกม Free Fire ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ สามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล ไม่มีสะดุด แถมยังเล่นในโหมด High FPS ในระดับความคมชัดปานกลาง-สูงได้อีกด้วย โดยรวมถือว่าสอบผ่าน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Redmi 5 Plus ผ่านแอป Antutu
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Redmi 5 Plus ผ่านแอป Geekbench 4
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่มีขนาดความจุ 4,000 mAh ทดสอบโดยลองใช้งานทั่วไป ใช้งานอินเทอร์เน็ต และเล่นเกม ปรากฏว่าสามารถใช้งานได้เกิน 1 วันสบายๆ ถือว่าการจัดการพลังงานทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ถ้าใช้งานหนักๆ เล่นเกมหรือดูหนังแบตก็จะอยู่ได้ประมาณ 6-7 ชั่วโมง และมีโหมดประหยัดพลังงาน Battery Saver ที่ยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้นเมื่อแบตใกล้หมด แถมยังใช้เวลาในการชาร์จจนเต็มไม่นานอีกด้วย
บทสรุป่
Redmi 5 Plus ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ ของ Xiaomi ที่มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์โฉมใหม่ด้วยหน้าจอแสดงผลที่กว้าง และยาวกว่าเดิมในอัตราส่วน 18:9 แบบ Full Screen รวมถึงพกพาฟีเจอร์มาอย่างครบครัน ในราคาเริ่มต้นเพียง 5,790 บาท สำหรับรุ่น RAM 3GB, ROM 32GB และ 6,990 บาทสำหรับรุ่น RAM 4GB, ROM 64GB เทียบกับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นในสเปกระดับเดียวกันก็เริ่มที่ราคาเกือบหมื่น เรียกว่าคุ้มเกินราคาจริงๆ
ทั้งนี้ ตัวเครื่อง Redmi 5 Plus มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ สีดำ, สีทอง และสีฟ้า สามารถคลิกซื้อรุ่น RAM 4GB, ROM 64GB ได้ที่นี่ >>>
คลิกช้อปสมาร์ทโฟน Xiaomi ได้ที่นี่ >>>