ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Xiaomi ได้เปิดตัว Mi 9 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกของปี 2019 พร้อมกับ Mi 9 SE รุ่นสเปกระดับกลาง และ Mi 9 Explorer Edition เรือธงรุ่นพิเศษ
ล่าสุดได้เปิดตัว Mi 9T รุ่นสเปกระดับกลางที่ดีกว่า Mi 9 SE และใกล้เคียงกับรุ่นเรือธงอย่าง Mi 9 ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปดูรีวิวของ Xiaomi Mi 9T รุ่นนี้กันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ในกล่อง
กล่องแพ็คเกจจิ้งของ Xiaomi Mi 9T เป็นกล่องกระดาษแข็งสีดำ ด้านหน้ามีรูปตัวเครื่องที่เผยให้เห็นจอไร้ขอบ ไร้รอยบาก และติดตั้งกล้องเซลฟี่แบบ POP Up พร้อมชื่อรุ่น และมีโลโก้ Mi อยู่มุมขวาด้านบน
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะเห็นตัวเครื่อง Xiaomi Mi 9T, สายเชื่อมต่อ USB Type-C, อแดปเตอร์ชาร์จไฟ (รองรับการชาร์จเร็ว 18W), เข็มจิ้มซิมการ์ด, เคสพลาสติก, คู่มือใช้งาน และใบรับประกัน
รูปลักษณ์ดีไซน์
ตัวเครื่อง Xiaomi Mi 9T ใช้วัสดุไล่เฉดสีที่เคลือบด้วยกระจกสวยหรู ด้วยขนาด 156.7×74.3×8.8 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 191 กรัม ครอบด้วยกระจกกันรอยขอบโค้ง 2.5D Gorilla Glass 5 ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเครื่อง และเสริมด้วยกรอบรอบตัวเครื่องที่ใช้วัสดุที่ทำจากอลูมิเนียม
รูปลักษณ์ทั่วไปเริ่มจากด้านหน้าตรงกลางด้านบนมีช่องลำโพงสนทนา ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผลไร้ขอบ ไร้รอยบากแบบ AMOLED Full Screen Display ความละเอียด FHD+ 1080 x 2340 พิกเซล ขนาด 6.39 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 รองรับ HDR 10 และรองรับ
ด้านหลังเครื่องใช้วัสดุที่ครอบด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D พร้อมดีไซน์ไล่เฉดสีสวยหรู ตรงด้านบนติดตั้งกล้อง 3 ตัว Triple Camera โดยกล้องหลักเซ็นเซอร์ Sony IMX582 ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้องรองเลนส์มุมกว้างความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และกล้องตัวที่ 3 เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชคู่ LED และตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ mi่
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีแถบเส้นเสาอากาศรับสัญญาณมือถือ
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่องซึ่งเป็นปุ่มสีแดง
ด้านบนเครื่อง เริ่มจากซ้ายไปขวาเป็นส่วนของกล้องเซลฟี่แบบ POP Up, ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม., ช่องไมโครโฟนตัดเสียง และแถบเส้นเสาอากาศ
ด้านท้ายเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดซึ่งรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม ตรงกลางมีพอร์ต USB Type-C, ช่องไมโครโฟน และช่องลำโพงเสียง
สเปก Xiaomi Mi 9T
ขนาด | 156.7×74.3×8.8 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 191 กรัม |
หน้าจอ | AMOLED Full Screen Display 16 ล้านสี ความละเอียด FHD+ 2340 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.39 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 |
หน่วยประมวลผล | Octa-Core ความเร็ว 2.2GHz, ชิปเซ็ท Snapdragon 730 SoC, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 618 และเทคโนโลยี Game Turbo 2.0 |
RAM | 6GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 64GB/128GB |
microSD Card | – |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera โดยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX586 1/2 นิ้ว พิกเซลขนาด 1.6 ไมครอน (เทคโนโลยี 4-in-1 Pixel) รูรับแสง f/1.75, กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้าง Super-Wide Angle ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/3 นิ้ว พิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน รูรับแสง f/2.4 สามารถเก็บภาพมุมกว้างสุด 124.8 องศา และกล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/4 นิ้ว พิกเซลขนาด 1.12 ไมครอน รูรับแสง f/2.4 ส่วนกล้องหน้าแบบ Pop-Up ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Wide Angle และรูรับแสง f/2.2 |
ระบบปฏิบัติการ | Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย MIUI 10 |
การเชื่อมต่อ | รองรับ Wi-Fi 2×2 MIMO, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, NFC และพอร์ต USB Type-C |
รองรับระบบ | 4G LTE Band 1/2/3/4/5/7/8/20/28/38/40 และ 3G 850/900/1900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย) |
แบตเตอรี่ | 4000mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W |
ราคา | RAM 6GB/64GB ราคา บาท
RAM 6GB/128GB ราคา บาท |
ประสิทธิภาพ
Xiaomi Mi 9T ใข้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 730 SoC ที่สถาปัตยกรรม 8nm, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 618, RAM 6GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 64GB/128GB
ขับเคลื่อนด้วยระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย MIUI 10 ที่ผนวกเข้ากับเทคโนโลยี AI ทำให้มีประสิทธิที่ดีขึ้นไปอีก
หลังจากที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV โดยเลือกปรับเฟรมเรทสูง 60 FPS ได้ โดยเฟรมเรทขณะเล่นจะอยู่ที่ระหว่าง 52-60 FPS และเกม PUBG Mobile ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และถ้าเล่นนานๆ เครื่องจะร้อน และกินเแบตเตอรี่พอสมควร แต่โดยรวมถือว่าสอบผ่าน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Xiaomi Mi 9T ผ่านแอป Antutu
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Xiaomi Mi 9T ผ่านแอป Geekbench 4
ด้านการถ่ายภาพ
Xiaomi Mi 9T มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 1/2 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.6μm (เทคโนโลยี 4-in-1 Pixel) และรูรับแสง f/1.75
- กล้องตัวที่สองเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide-Angle ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/3 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.12μm รูรับแสง f/2.4 สามารถเก็บภาพมุมกว้างสุด 124.8 องศา
- กล้องตัวที่สามเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด 1/4 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.12μm รูรับแสง f/2.4 โดยรองรับการซูมแบบ 2x Optical Zoom และ 10x Digital Zoom, โหมดหน้าชัดหลังเบลอ Portrait, AI Beauty และ AI Scene Recognition
สามารถเลือกโหมดการถ่ายได้ที่แบบปกติ, ความละเอียดสูง 48MP, โหมด Portrait, โหมดกลางคืน, โหมด Panorama, โหมดโปร, โหมดวิดีโอ, โหมดเคลื่อนไหวช้า และโหมดวิดีโอสั้น
รวมทั้งตั้งค่าเปิด/ปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิด/ปิดโหมด HDR, เปิด/ปิดโหมด AI, เลือกโหมดฉาก และตั้งค่าอื่นๆ เช่น นับเวลาถอยหลัง, โหมดสี่เหลี่ยม, ปรับเบลอ และปรับให้ตรง
โหมด Google lens
ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่แบบ POP Up ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Wide Angle มีขนาดรูรับแสงที่ F/2.2
โดยรองรับโหมดหน้าชัดหลังเบลอ Portrait, AI Beauty และ AI Scene Recognition
นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าเลือกโหมด HDR, โหมด Manual, โหมด Panorama, โหมด Square, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ และโหมดวิดีโอสั้น สำหรับภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 5184 x 3880 พิกเซล และวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด FHD 1080p ที่ 30fps
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
โหมดปกติ
โหมด Portrait
โหมดมุมกว้าง
โหมด 48MP
โหมดเซลฟี่
โหมดกลางคืน
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ Xiaomi Mi 9T เป็นแบบ Li-Polymer ขนาดความจุ 4,000 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18W
ทดสอบโดยลองใช้งานทั่วไป ใช้งานอินเทอร์เน็ต และเล่นเกม ปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ 1 วันสบายๆ ถือว่าการจัดการพลังงานทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
แต่ถ้าใช้งานหนักๆ เล่นเกมหรือดูหนังแบตก็จะอยู่ได้ประมาณ 5-6 ชั่วโมง และมีโหมดประหยัดพลังงาน Battery Saver ที่ยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้นเมื่อแบตใกล้หมด แถมยังใช้เวลาในการชาร์จจนเต็มไม่นานอีกด้วย
บทสรุป
Xiaomi Mi 9T หรือ Redmi K20 เวอร์ชั่น Global ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางบนรุ่นแรกของค่ายที่ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 730 ที่ผลิตบนเทคโนโลยีระดับ 8nm โดยทำงานด้าน AI ได้เร็วกว่า Snapdragon 710 ถึง 2 เท่า และกินไฟน้อยกว่าถึง 4 เท่าด้วยกัน
นอกจากนี้ยังมาพร้อมตัวเครื่องไล่เฉดสีใหม่ บนดีไซน์โค้งมนรับกับฝ่ามือแบบ 3D Gredient ที่สวยพรีเมียมมากขึ้น หน้าจอแสดงผลก็เป็นจอไร้ขอบ ไร้รอยบาก ขนาดใหญ่ 6.39 นิ้ว และเป็นจอแบบ AMOLED ที่มีความคมชัด รองรับคอนเทนต์ต่างๆ ไม่ว่าวิดีโอ หรือเกมที่แสดงผลได้อย่างเต็มตาเต็มอารมณ์ และถ้าใครเป็นสมาชิก Netflix ก็สามารถชมภาพยนตร์ที่รองรับ HD และ HDR ได้
รวมทั้งติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 48+8+13 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี AI ที่เข้ามาช่วยปรับแต่งภาพที่ถ่ายออกมาให้มีความใกล้เคียงกับสิ่งที่ตาเราเห็นมากที่สุดอีกด้วย ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดใหม่อย่าง panoramic selfies ที่ถ่ายเซลฟี่มุมกว้างได้โดยไม่ต้องใช้ไม้เซลฟี่
และในส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ของ Mi 9T ก็มีมาให้ครบครัน ทั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วแบบฝังบนหน้าจอ ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม และใช้แบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W
ทั้งนี้ตัวเครื่อง Xiaomi Mi 9T มีให้เลือก 3 สีคือ A Flame Red, Glacier Blue และ Carbon Black โดยมีราคาดังนี้
- รุ่น RAM 6GB+64GB ราคา 11,990 บาท
- รุ่น RAM 6GB+128GB ราคา 12,990 บาท
คลิกช้อปสมาร์ทโฟน Xiaomi ได้ที่นี่ >>>