คุณสมบัติการใช้งาน
Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro รันบนระบบปฎิบัติการ MIUI 13 บนพื้นฐาน Android 12 เวอร์ชันล่าสุด ที่มี User Interface รูปแบบใหม่ เน้นความมินิมอล เรียบหรู สบายตา และใช้งานง่าย
Xiaomi 12T ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตชั้นนำอย่าง MediaTek Dimensity 8100-Ultra ที่มีกระบวนการผลิต 5nm TSMC ซึ่งชิปเซ็ตนี้ได้รับการอัปเกรดด้วยโครงสร้าง GPU ใหม่ทั้งหมด โดยสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานได้ดีขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
นอกจากนี้ผู้ใช้ยังได้รับประสบการณ์การใช้งานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บข้อมูล, การถ่ายภาพหรือวิดีโอ, รวมไปถึงการดูหนังและการเลื่อนดูโซเชียลมีเดียต่างๆ
ส่วน Xiaomi 12T Pro ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon® 8+ Gen 1 ชิปเซ็ตชั้นเยี่ยมจาก Qualcomm ที่มีกระบวนการผลิต 4nm TSMC ขั้นสูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างมากและลดการใช้พลังงานของทั้ง CPU และ GPU
พร้อมมีระบบระบายความร้อนซึ่งประกอบด้วยส่วนระบายความร้อน (Vapor Chamber) ที่ใหญ่ขึ้น 65% และใช้วัสดุกันความร้อนที่ครอบคลุมมากกว่ารุ่นก่อนหน้า ถึง 125% ซึ่ง Xiaomi 12T Pro สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่นและประสิทธิภาพพลังงานที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ส่งผลต่อการกระจายความร้อนอีกด้วย
Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro มาพร้อมหน้าจอแสดงผลแบบ CrystalRes AMOLED ความละเอียด 2712 x 1220 พิกเซล ขนาด 6.67 นิ้ว (446 ppi) อัตราส่วนภาพ 20:9 อัตราความคมชัด 50,000,000:1 ความสว่าง HBM 900nits รองรับอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ AdaptiveSync (30Hz/60Hz/90Hz/120Hz) และอัตราสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 480Hz รวมทั้งให้สีสันที่คมชัดสมจริงด้วยความลึกสีมากถึง 6.8 หมื่นล้านสี และรองรับ HDR10+
หน้าจอแสดงผลของ Xiaomi 12T Pro ยังสนับสนุน Dolby Vision รวมถึงให้สีสันสดใสและคอนทราสต์มากขึ้นผ่าน Adaptive True Display และ Adaptive HDR ที่ได้รับมาตรฐาน SGS Low Visual Fatigue Certification และมี Adaptive Reading Mode ช่วยลดปริมาณแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมา เพื่อความสบายตาระหว่างการใช้งานเป็นเวลานาน
นอกจากจะให้ภาพที่สมบูรณ์แบบแล้ว Xiaomi 12T Pro ยังมีระบบเสียงที่น่าประทับใจ ด้วยลำโพงคู่ ที่ได้รับการปรับเสียงจาก Harman Kardon พร้อมรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ขณะที่ Xiaomi 12T มาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอ และรองรับระบบเสียง Dolby Atmos เช่นกัน
รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual nanoSIM) พร้อมรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G ในประเทศไทย (รองรับ NSA + SA) โดยรองรับคลื่นความถี่ n1/n3/n5/n7/n8/n20/n28/n38/n40/n41/n66/n77/n78/n75 และสามารถสแตนด์บายได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual 5G SIM)
ด้านความปลอดภัย Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังไว้ใต้หน้าจอ (In-Display Fingerprint Sensor) ซึ่งสามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับปลุกการทำงานของเครื่อง หรือปลดล็อกหน้าจอได้ พร้อมทั้งสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ
รวมทั้งรองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock โดยสามารถลงทะเบียนได้ทั้งหมด 2 ใบหน้า จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้
Xiaomi 12T และ Xiaomi 12T Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับการใช้งานหน้าจอสูงสุด 13.5 ชั่วโมง จึงให้อายุการใช้งานยาวนานตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำ โดยที่ยังเหลือพลังงานเพียงพอสำหรับการใช้งานก่อนนอน พร้อมโหมดประหยัดพลังงานขั้นสุดแบบ Ultra Battery Saver ที่เมื่อเปิดใช้งานสัญลักษณ์แบตเตอรี่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง พร้อมปรับการแสดงผลให้เป็น Dark theme และใช้งานอินเทอร์เน็ต 4G+
นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 120W HyperCharge สามารถชาร์จเต็มได้ 100% ในเวลาเพียง 19 นาที เท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องชาร์จทิ้งไว้ก่อนนอน สามารถชาร์จตอนเช้า ซึ่งชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มก่อนที่ผู้ใช้งานจะทำกิจวัตรส่วนตัวในช่วงเช้าเสร็จด้วยซ้ำ โดยอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 120W แถมมาให้ในกล่องแล้ว ไม่ต้องซื้อแยกต่างหาก
ประสิทธิภาพ
ทดสอบการเล่นเกม
Xiaomi 12T ใช้ชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 8100-Ultra ที่เพิ่มประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานได้ดีขึ้น 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ทำให้การเล่นเกมลื่นไหลไม่มีสะดุด สามารถเล่นต่อเนื่องติดต่อกันหลายชั่วโมงได้
ส่วน Xiaomi 12T Pro ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 8+ Gen 1 ที่มีประสิทธิภาพการทำงาน และลดการใช้พลังงานของทั้ง CPU และ GPU พร้อมมีระบบระบายความร้อน ทำใ้ห้มอบประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่น และประสิทธิภาพพลังงานที่ยอดเยี่ยมไม่ส่งผลต่อการกระจายความร้อนโดยเฉพาะการเล่นเกม
เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ทดสอบการเล่นเกมได้ลองกับ ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา
โดย Xiaomi 12T ตั้งค่า FPS ที่ระดับสูง ด้วยชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 8100-Ultra สามารถเล่นบนเฟรมเรทสูงได้สบายๆ และถ้าเลือกตั้งค่าเกมให้เป็นค่าเริ่มต้น ก็จะสามารถตีป้อมได้ค่อนข้างลื่นเลยทีเดียว
ส่วน Xiaomi 12T Pro ตั้งค่า FPS ที่ระดับสูง ด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 8+ Gen 1 ทำให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก
ต่อด้วยเกม PUBG Mobile เกมแบทเทิลรอยัล
โดย Xiaomi 12T สามารถปรับตั้งค่ากราฟิกที่ “HDR HD” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับสูงสุด ซึ่งในภาพรวมถือว่าทำผลงานได้น่าประทับใจ เพราะแทบไม่พบอาการแลคให้หงุดหงิดใจ และเครื่องไม่ร้อนอีกด้วย
ส่วน Xiaomi 12T Pro สามารถปรับตั้งค่ากราฟิกที่ “HDR HD” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับสูงสุด ด้วยชิปเซ็ท Sanpdragon 8+ Gen 1 บวกกับ RAM 12GB และจอรีเฟรชเรท 120Hz ทำให้สามารถเล่นได้ไม่หน่วง และไหลลื่น
ทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป AnTuTu
ทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป GeekBench 5