คลังเก็บ

รีวิว Xiaomi 11T “Cinemagic” สมาร์ตโฟนแฟลกชิปสำหรับเหล่านักสร้างคอนเทนต์ทุกระดับ

Cinemagic Videograph เนรมิตคอนเทนต์วิดีโอ ง่ายดายเพียงปลายนิ้ว

Xiaomi 11T ได้ยกระดับเทคโนโลยีการถ่ายภาพของเสียวหมี่อย่างยิ่งใหญ่ โดยมาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Cinemagic” เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงสำหรับการสร้างสรรค์ภาพเคลื่อนไหวที่พร้อมให้ทุกคนเข้าถึงประสบการณ์แบบ Cinemagic ได้อย่างง่ายดาย มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช Dual-LED dual-tone ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล Wide Angle รูรับแสง f/1.75, 0.7μm pixel size, 2.1μm 9-in-1 Super Pixel, 7P lens, Dual Native ISO และระบบ PDAF
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 ถ่ายมุมกว้างได้ 120 องศา
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ถ่ายระยะใกล้สุด 3-7 ซม.

โดยหน้าตา UI ของกล้องใช้งานง่าย ด้านบนมีแถบเมนูเปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมด HDR, เปิดปิดโหมด AI, เลือกปรับโหมดบิวตี้/ฟิลเตอร์, เปิดใข้งาน Google Lens และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ

สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมดโปร, โหมดซุปเปอร์มาโคร, โหมดกลางคืน, โหมด 108MP, โหมดวิดีโอสั้น, โหมด Panorama, โหมดเอกสาร, โหมด VLOG, โหมดสโลโมชั่น, โหมดวิดีโอเคลื่อนไหวเร็ว, โหมดเอฟเฟกต์ภาพยนตร์, โหมดการเปิดรับแสงนาน, โหมดวิดีโอคู่ และโหมดโคลน

Xiaomi 11T สามารถใช้เป็นกล้องถ่ายทำภาพยนตร์ได้ด้วยฟีเจอร์ One-Click AI Cinema มาพร้อม Movie effects ที่ช่วยสร้างสรรค์คลิปสั้นๆ ไปจนถึงภาพยนตร์ได้ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง โดยมีให้เลือกใช้ 4 แบบ

  • Magic Zoom ซูมเฉพาะฉากหลัง ทำให้ดูเหมือนฉากหลังกำลังเคลื่อนที่เข้ามา ซึ่งเป็นเทคนิคการถ่ายทำที่พบได้บ่อยๆ ในภาพยนตร์ 
  • Slow Shutter เหมาะสำหรับบันทึกภาพเคลื่อนไหวในเวลากลางคืน ที่มีฉากหลังเต็มไปด้วยแสงไฟจากตึก ป้าย และยานพาหนะ ทำให้ภาพถูกโฟกัสไปที่ตัวบุคคล
  • Time Freeze สามารถหยุดบุคคลหรือวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวให้นิ่งได้ แต่ก็สามารถเลือกบุคคลอื่นที่ยังเคลื่อนไหวตามปกติ
  • Parallel World จำลองและกลับฉากหลังให้ราวกับว่าบันทึกภาพเคลื่อนไหวอยู่ในโลกที่มีแต่กระจก

ตัวอย่างคลิปวิดิโอที่ถ่ายด้วยโหมด Magic Zoom

ตัวอย่างคลิปวิดิโอที่ถ่ายด้วยโหมด Time Freeze

ตัวอย่างคลิปวิดีโอที่ถ่ายด้วยโหมด Parallel World

กล้องหลังของ Xiaomi 11T ยังรองรับการถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที รวมทั้งรองรับโหมด Audio Zoom สำหรับการถ่ายวิดีโอจากระยะไกลก็สามารถทำให้เสียงดัง และชัดเจนขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีโหมด VLOG, Video Slomotion, วิดีโอเคลื่อนไหวเร็ว และ Dual video ถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังเพื่อให้ไ่ด้ภาพในเฟรมเดียวกัน

ตัวอย่างคลิปวิดิโอความละเอียด 4K 30 เฟรมต่อวินาที

ตัวอย่างคลิปวิดีโอที่ถ่ายด้วยโหมด Dual video

ในการถ่ายวิดีโอยังมีโหมด Steady video ที่ช่วยลดการสั่นไหวของภาพ เหมาะกับการถ่ายวิดีโอที่ถือด้วยมือ ซึ่งจะช่วยให้ภาพที่ออกมาดูไม่สั่นไหว แต่ความละเอียดจะถูกปรับลดลงเหลือในระดับ Full HD 1080p 30 เฟรมต่อวินาที ซึ่งก็ถือว่าเพียงสำหรับการอัพลงโซเชียลอย่าง YouTube หรือ Facebook แล้ว นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกมากถึง 13 แบบ ทำให้ภาพดูสีสันแปลกตาไม่เหมือนใคร

นอกจากนี้ การถ่ายวิดีโอของกล้องหลัง Xiaomi 11T ยังมีโหมด Beautify ที่จะช่วยปรับให้ใบหน้าเนียนใสโดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีโหมด Bokeh ช่วยละลายฉากหลังแบบ Real time ทำให้ภาพบุคคลดูโดดเด่น พร้อมทั้งละลายฉากหลังที่ไม่ต้องการได้อีกด้วย แต่ในโหมดนี้จะปรับความละเอียดได้สูงสุดที่ HD 720p 30 เฟรมต่อวินาทีเท่านั้น 

และมีโหมด Clone ซึ่งเป็นโหมดที่จะทำให้เราสามารถแยกร่างแบบให้กลายเป็นหลายบุคคลได้ ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ

ด้านการถ่ายภาพนิ่งกล้องหลังของ Xiaomi 11T  มีโหมดให้เลือกใช้งานมากมายครอบคลุมทุกการใช้งาน และยังสามารถถ่ายภาพแบบ RAW ได้ด้วย โดยถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 12000 x 9000 พิกเซล (108MP)

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 50%

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 100%

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่างๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 19 แบบ

ทดสอบกล้องหลังโหมด Portrait

ทดสอบกล้องหลังโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 50%

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 100%

ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่างๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 16 แบบ

และในโหมด Portrait ยังมีเอกเฟกต์ภาพยนตร์ให้เลือกอีก 9 แบบเพิ่มสีสันให้กับภาพถ่ายได้เป็นอย่างดี

กล้องหลังของ Xiaomi 11T มาพร้อมเลนส์ Ultra Wide ที่สามารถถ่ายภาพมุมกว้างได้ 120 องศา เก็บภาพฉากหลังได้ละเอียดมากขึ้น

โหมดปกติ

ซูม 5 เท่า

ซูม 10 เท่า

กล้องหลังของ Xiaomi 11T สามารถซูมได้สูงสุด 10 เท่า

รองรับการโหมดถ่ายภาพระยะใกล้แบบ Macro โดยสามารถถ่ายในระยะ 3-7 เซนติเมตร

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง

กล้องหน้าแบบ In-Display Selfie 8MP

Xiaomi 11T ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่แบบฝังใต้หน้าจอ In-Display Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงขนาด f/2.45 มาพร้อมหน้าตา User Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR, กล้อง AI, สัดส่วนภาพ, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และการตั้งค่าอื่นๆ

โดยรองรับการถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงสุด 3456 x 4608 พิกเซล พร้อม Selfie night mode สำหรับถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อย หรือในเวลากลางคืน และรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดระดับ FHD 1080P ที่ความเร็ว 60fps

ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto โดยยังไม่เปิดใช้งาน AI Beauty 

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 50%

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 100%

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกถึง 16 แบบ

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 50%

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งาน AI Beauty 100%

สำหรับโหมด AI Portrait หรือหน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับระดับความเบลอได้ที่ 0-100% (ค่าเริ่มต้นอยู่ที่ 30%) โดยละลายฉากหลังได้สวยละมุนมีความเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเก็บดีเทลของตัวขอบอย่างเช่นเส้นผม หรือขอบเสื้อผ้าไว้ได้ค่อนข้างดีอีกด้วย

ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมปรับเลือกฟิลเตอร์ต่างๆ ที่มีให้เลือกมากถึง 16 แบบ

และในโหมด Portrait ยังมีเอกเฟกต์ภาพยนตร์ให้เลือก 9 แบบเหมือนกล้องหลัง

อ่านต่อหน้า 3