คลังเก็บ

รีวิว : Vivo Y85 สมาร์ทโฟนจอ FullView 19:9 พร้อมกล้องหลังคู่ ในราคาไม่ถึงหมื่น

หลังจากเปิดตัว Vivo V9 สมาร์ทโฟนจอ FullView ในอัตราส่วน 19:9 ที่มาพร้อมรอยบากและกลายเป็นเทรนด์ของสมาร์ทโฟนในยุคนี้ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด Vivo ก็ได้ส่ง Vivo Y85 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูล Y Series ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์จอ FullView ในอัตราส่วน 19:9 พร้อมรอยบากเหมือนรุ่น V9 และกล้องหลังคู่ Dual Camera บนตัวเครื่องเงางามที่มีความพรีเมียม

อุปกรณ์ในกล่อง

กล่องบรรจุภัณฑ์ของ Vivo Y85 มีขนาดพอดีเครื่อง ด้านหน้ากล่องมีภาพตัวเครื่อง พร้อมชื่อรุ่น สโลแกน AI Shots. Beauty Just For You และโลโก้ Vivo FIFA World Cup ที่ Vivo ผู้สนับสนุนสมาร์ทโฟนในมหกรรม FIFA World Cup ปี 2018 อย่างเป็นทางการ และด้านหลังจะมีไอคอนสเปกเด่นๆ

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับตัวเครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ อแดปเตอร์ชาร์จไฟ, สายดาต้าลิงค์แบบ microUSB , ชุดหูฟังรุ่น XE100 แบบ in-ear ขนาดมาตรฐาน 3.5 มม., เคสซิลิโคนแบบใส, อุปกรณ์จิ้ม SIM Card, ใบรับประกัน และคู่มือการใช้งาน ส่วนฟิล์มกันรอยนั้นติดมาให้เรียบร้อยแล้ว

รูปลักษณ์ดีไซน์

Vivo Y85 มีรูปลักษณ์ดีไซน์รูปทรงเหลี่ยมขอบโค้งมนดูทันสมัย โดยใช้วัสดุที่ทำจากพลาสติกขึ้นรูปชิ้นเดียวแบบ Unibody ด้วยขนาด 155.21×75.24×7.7 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 152 กรัม ถือว่าเบา และพกพาได้สะดวก

ด้านหน้าเครื่อง เริ่มจากด้านบนตรงรอยบากจากซ้ายไปขวามีซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้งหมุนหน้าจออัตโนมัติ และปิดหน้าจออัตโนมัติ , ช่องลำโพงสนทนา และเลนส์กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล

ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผล FullView Display แบบ IPS LCD  16 ล้านสี ขนาด 6.22 นิ้ว ความละเอียด HD+ 1520 x 720 พิกเซล ในอัตราส่วน 19:9  ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3

ด้านหลังเครื่อง ฝาหลังทำจากพลาสติกพื้นผิวมันเงา โดยมุมซ้ายด้านบนมีเลนส์กล้องคู่ Dual Camera ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ถัดลงมาตรงกลางมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ตามด้วยโลโก้ Vivo และตรงกลางด้านล่างมีตัวอักษร Design by Vivo

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ถาดแบบ Triple Slot สล็อตใส่การ์ดเป็นถาดแบบ 3 ช่องเพื่อความสะดวกสบาย สามารถติดตั้งทั้งซิมการ์ดและ microSD ได้พร้อมกัน ที่แยกถาดใส่ซิมการ์ด 2 SIM ซึ่งรองรับซิมการ์ดแบบ nanoSIM และแยกถาดวาง microSD card มาให้

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิดและปิดเครื่อง

ด้านบนไม่มีปุ่มกดหรือช่องใดๆ

ด้านล่างเครื่อง ตรงกลางมีช่องเสียบชาร์จไฟและสายดาต้าลิงค์แบบ microUSB ส่วนด้านซ้ายมีช่องเสียบชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. กับช่องไมโครโฟน และด้านขวามีช่องลำโพงเสียง

สเปก Vivo Y85

ขนาด 155.21×75.24×7.7 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 152 กรัม
หน้าจอ FullView Display แบบ IPS LCD 16 ล้านสี ความละเอียด HD+ 1520 x 720 พิกเซล ขนาด 6,22 นิ้ว
หน่วยประมวลผล Octa-core ความเร็ว 1.8GHz, ชิปเซ็ท MediaTek Helio P22 (MT6762), หน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVr Rogue GE8320
RAM 4GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 32GB
microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลังแบบคู่ Dual Cameraความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล  รูรับแสง f/2.0+f/2.4 พร้อมไฟแฟลช LED, กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.0
ระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 4.0 รันบน Android 8.1 Oreo
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 b/g/n/ac, hotspot, GPS, Bluetooth 4.2, microUSB 2.0, USB On-The-Go
รองรับระบบ 4G LTE 850/900/1800/2100/2300/2600 MHz และ 3G 850/900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่ 3,260 mAh
ราคา 7,999 บาท

ประสิทธิภาพ

Vivo Y85 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa-core ความเร็ว 1.8 GHz Cortex-A53 โดยใช้ชิปเซ็ท ediaTek Helio P22 (MT6762), หน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVr Rogue GE83206, RAM 4GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 32 GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สุงสุด 256GB

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV และเกม PUBG Mobile ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ สามารถเล่นได้ แต่สำหรับเกม PUBG Mobile อาจจะมีกระตุกบ่างเป็นช่วงๆ และเฟรมเรตยังไม่เสถียร แม้ว่าจะเป็นกราฟฟิกระดับต่ำสุดก็ตาม ส่วนเกม ROV สามารถเล่นได้อย่างปกติ ในการปรับกราฟฟิกพื้นฐาน และได้เฟรมเรตอยู่ประมาณ 27-30fps แต่โดยรวมถือว่าพอใช้

โหมดเกม ซึ่งจะมีการจัดการในส่วนต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่น และยังสามารถเข้าไปตั้งค่าอย่างอื่นได้ที่ การตั้งค่า > โหมดเกม โดยจะสามารถ9ตั้งค่า การรับโทรศัพท์, ปฏิเสธสายโดยอัตโนมัติ หรือเป็นการใช้งาน Picture in picture ขณะเล่นเกม ด้วยการใช้ 3 นิ้วรูดลง และจะมีการแสดงผลเหมือนภาพทางด้านล่าง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Vivo Y85 ผ่านแอป Antutu

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Vivo Y85 ผ่านแอป Geekbench 4

ด้านการถ่ายภาพ

Vivo Y85 มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.2 โดยมีโหมดใบหน้าสวยที่จะมีการทำงานร่วมกับ AI เพื่อปรับความสวยของใบหน้าแบบอัตโนมัติ เพื่อให้ถ่ายออกมาได้สวยเป็นธรรมชาติมากที่สุด รวมทั้งมีโหมดเซลฟี่กลุ่ม, โหมด HDR  และโหมด Bokeh สำหรับถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้

นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าเปิด/ปิดเสียงชัตเตอร์ แตะเพื่อถ่าย ยกฝ่ามือเพื่อถ่ายภาพอัตโนมัติ ตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ มีระบบตรวจจับแยกเพศชายหญิงเพื่อปรับค่าผิวนวลได้ บันทึกวิดีโอในระดับ Full HD 1080 พิกเซล และใส่ลายน้ำเวลาในภาพได้

ส่วนกล้องหน้าคู่ พร้อมไฟแฟลช LED โดยกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และรูรับแสง F/2.0 ส่วนกล้องรองความละเอียด 2 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.4 รวมทั้งมีโหมดใบหน้าสวยเหมือนกล้องหน้า, โหมดพาโนรามา,  โหมด DOC, โหมดถ่ายภาพมืออาชีพ, โหมด HDR, โหมด Portrait สำหรับถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ และโหมด  Live Photo โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 3120 x 4160 พิกเซล ส่วนวิดีโอ บันทึกได้ที่ความละเอียด Full HD 1080 พิกเซล

ตัวอย่างภาพจากกล้อง

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ที่ใช้กับเครื่องรุ่นนี้มีขนาด 3,260 mAh  พร้อมโหมดสิ้นเปลืองพลังงานต่ำ  และโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานต่อเนื่องใน 1 วันปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 12-13 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้งานอินเทอร์เน็ตในเครือข่าย 4G แบตก็อาจหมดเร็วขึ้น โดยรวมแล้วสามารถใช้งานได้ใน 1 วันสบายๆ

บทสรุป

Vivo Y85 ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางในตระกูล Y Series รุ่นแรกของ Vivo ที่มาพร้อมหน้าจอแบบ FullView Display ที่มีรอยบาก ในอัตราส่วน 19:9 และดีไซน์ด้านหลังเครื่องที่มีตวามเงางามดูพรีเมียม

นอกจากนี้ยังครบเครื่องเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ อาทิ รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า, ติดตั้งกล้องหลังคู่ Dual Camera และกล้องหน้าเซลฟี่ พร้อมเทคโนโลยี AI เป็นต้น โดยมีให้เลือก 2 สีคือสีดำ และสีแดง ในราคาเพียง 7,999 บาทเท่านั้น 

ใครที่สนใจสามารถคลิ๊กสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่นี่ >>>