คลังเก็บ

รีวิว vivo Y33T ดีไซน์พรีเมี่ยม ขุมพลัง Snapdragon 680 กล้อง 50MP จอ 90Hz แบตอึด 5,000mAh รองรับชาร์จเร็ว 18W !!!

vivo Y33T ถือว่าเป็นรุ่นอัปเกรดจาก vivo Y33s ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายในบ้านเราไปเมื่อช่วงเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา โดยรอบนี้ในด้านดีไซน์อาจจะยังไม่เห็นความแตกต่างมากนัก แต่มีความน่าสนใจด้วยตัวเลือกสีใหม่ได้แก่สีทอง (Starry Gold) ที่ให้ฟิลลิ่งหรูหราพรีเมี่ยมเหมือนรุ่นพี่ V23 เลยที่เดียว

นอกจากนี้ยังเปลี่ยนมาใช้ขุมพลังตัวแรงจากชิปเซ็ต Snapdragon 680 พร้อมจอแสดงผลที่สมูทไหลลื่นขึ้นด้วยการรองรับรีเฟรชเรท 90Hz และยังจัดเต็มด้วยกล้องหลัง 3 เลนส์ ความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W และแน่นอน จุดขายหลักคือความครบครันคุ้มค่าในราคาเข้าถึงง่ายก็ยังคงคอนเซ็ปต์ไว้ได้เหมือนเช่นเคย 

vivo Y33T

สเปคเบื้องต้น vivo Y33T

ขนาด164.26 × 76.08 × 8.00 มม.  
น้ำหนัก182 กรัม 
หน้าจอแสดงผลหน้าจอ Halo FullView™ Display ชนิด IPS LCD ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2408×1080 (FHD+) อัตราส่วนภาพ : 20:9  อัตราการรีเฟรช 90Hz อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง : 90.6% ขอบเขตสี : 96% NTSC
หน่วยประมวลผลชิปเซ็ต Qualcomm SM6225 Snapdragon 680 4G (6 nm) Octa-core (4×2.4 GHz Kryo 265 Gold & 4×1.9 GHz Kryo 265 Silver) หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 610
RAM8+4GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง128GB
microSD Cardรองรับ
ระบบปฏิบัติการ Funtouch 12 บนพื้นฐานของ Android 11
เชื่อมต่อWi-Fi 2.4GHz, 5GHz บลูทูธ 5.0  support A2DP, LE, , OTG, GPS, BEIDOU, GLONASS, GALILEO,QZSS
กล้องถ่ายภาพกล้องหลัง: 3 เลนส์ AI Triple Camera   เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8  เลนส์ Bokeh camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 ——————————————————-

กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง f/2.0
——————————————————-

โหมดการถ่าย Night (front and rear), Portrait, Photo, Video, Pano, Live Photo, Slow Motion, Time-Lapse, Pro, Documents, 50MP
รองรับระบบรองรับการทำงาน Dual-SIM  2 ซิมการ์ด Dual SIM and Dual Standby 2G GSM : 850/900/1800MHz 3G WCDMA : B1/B5/B8 4G FDD-LTE : B1/B3/B5/B7/B8/B20/B28 4G TDD-LTE : B38/B39/B40/B41
แบตเตอรี่5000mAh รองรับชาร์จไว Fast charging  18W
สีสีที่วางจำหน่ายในไทย Mirror Black / Starry Gold
ราคาราคาเปิดตัว  7,999 บาท 

บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง

กล่องแพคเกจจิ้งของ vivo Y33T ยังคงมาในโทนสีขาวสะอาดตา  ตามสไตล์ของซีรีส์ Y รุ่นใหม่ สำหรับด้านหน้ากล่องจะมีชื่อรุ่นและแบรนด์ขนาดใหญ่พร้อมกำกับขนาดความจุ ROM/RAM ไว้ที่มุมขวาบนของตัวกล่อง 

ส่วนด้านหลังจะขับเน้นด้วยไฮไลท์ที่เป็นจุดเด่นของ vivo Y33T ซึ่งประกอบไปด้วย ชิปเซ็ต Snapdragon 680, กล้องหลังความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล, หน้าจอแสดงผล 1080P Clear Display แบตเตอรี่ความจุสูงพร้อมรองรับชาร์จไว Fast charging 18W 

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง vivo Y33T ในสี Starry Gold ซึ่งติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อยตั้งแต่โรงงาน สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องจะมีดังนี้

  • อแดปเตอร์ชาร์จไฟ OUTPUT 5V– 2A / 9V –  2A  รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว vivo  Fast charging 18W
  • สายดาต้าลิงค์แบบ Type-C
  • Soft Case TPU แบบใส
  • อุปกรณ์เปิดถาด SIM Card
  • ใบรับประกัน, และคู่มือการใช้งานฉบับย่อ

รูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบ

vivo Y33T มาพร้อมดีไซน์ที่บางเบาล้ำสมัยสวยงามในทุกมุมมอง โดยมีความบางเพียง 8.0mm พร้อมขอบจอโค้ง 2.5D  อีกทั้งยังออกแบบตามหลัก Ergonomics จึงสอดรับเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้ดีเยี่ยม ช่วยให้การจับถือพกพาได้อย่างสะดวกคล่องตัว ในส่วนของกล้องหลังได้รับการจัดเรียงอย่างสวยงาม ด้วย Dual -Tone Step อันเป็นเอกลักษณ์ของ vivo มอบประสบการณ์เทคโนโลยีการถ่ายภาพอันทรงพลังได้อย่างยอดเยี่ยม

vivo Y33T มาด้วยกัน 2 สี ได้แก่ 

Mirror Black : กระบวนการเคลือบสีสองชั้นที่พัฒนาใหม่ผสมผสานเฉดสีดำอันหรูหราเหมือนกระจกสีดำที่มีแสงและเงามีความมันวาวของพื้นผิว

Starry Gold : พื้นผิวกลิตเตอร์ฟลูออไรท์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ร่วมกับเทคโนโลยีการเคลือบสีแบบไล่ระดับแบบนาโน ทำให้เกิดพื้นผิวเป็นประกายสีทองที่มีเส้นแวววาว ราวกลับฝนดาวตกสีทองที่น่าดึงดูดใจ ดึงดูดสายตาในทุก ๆ ทาง มอบสัมผัสอันละเอียดอ่อนโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรอยนิ้วมือ 

หน้าจอแสดงผล IPS LCD บนเทคโนโลยี incell ในขนาดใหญ่เต็มตา 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2408×1080 (FHD+)  อัตราส่วนภาพ : 20:9 อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 90.6%  พร้อมฟีเจอร์ Eye Protection Mode ในการกรองแสงสีฟ้าเพื่อปกป้องดวงตาของผู้ใช้งาน 

กล้องหน้าเซลฟีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 ถ่ายสวยในทุกสภาพแสง ตัวกล้องหน้าถูกจัดวางอยู่ภายใต้เลย์เอาท์ของ Notch รูปทรงหยดน้ำที่มีขนาดเล็ก ส่วนเซนเซอร์วัดแสงและลำโพงสนทนาจะวางตำแหน่งไว้ที่ขอบจอของตัวเครื่องซึ่งช่วยให้จอแสดงผลได้เต็มพื้นที่อีกทางหนึ่งด้วย

กล้องหลัง: 3 เลนส์ AI Triple Camera  

กล้องหลังจัดวางในโมดูลรูปทรงสี่เหลี่ยม  โดยมาพร้อมการออกแบบอันโดดเด่นด้วยดีไซน์ Dual Tone Step ที่จัดวางตัวกล้องได้อย่างมีมิติ และดูสง่างาม โดยสเต็ปขั้นแรก พื้นสีดำซึ่งเป็นตำแหน่งวางตัวกล้อง ขั้นที่สองพื้นเป็นสีเดียวกับฝาหลัง มีกรอบล้อมรอบทำให้ดูมีมิติ ขั้นที่สามคือฝาหลังที่ใช้ครอบแบตเตอรี่

สำหรับคุณสมบัติของกล้องหลังสามเลนส์บน vivo Y33T มีรายละเอียดดังนี้

  • เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8 
  • เลนส์ Bokeh camera ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
  • เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4

ฝั่งซ้ายจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ สำหรับฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ โดยตัวปุ่มพาวเวอร์จะมีการฝั่งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ  Side-Mounted Fingerprint Scanner ที่สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว

ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องถาดซิมการ์ด และไมค์ตัดเสียงรบกวนพร้อมทำหน้าที่ในการบันทึกเสียง ส่วนด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ตามด้วยไมค์สนทนา / พอร์ต USB Type – C  / และลำโพงหลักของตัวเครื่อง

ตัวถาดซิมการ์ดจะเป็นแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบนาโนซิม พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกชนิด MicroSD Card ที่รองรับได้สูงสุดถึง 1TB

ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่น 

vivo Y33T มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 680 octa-core ความถี่คอร์ขนาดใหญ่กับความไว CPU สูงถึง 2.4GHz ผสานด้วย GPU Adreno 610 ที่มีความถี่สูงถึง 1.1GHz ให้การแสดงภาพที่เร็วและเสถียร รวมถึงประสิทธิภาพที่ทรงพลังยิ่งขึ้น

ชิปเซ็ต Snapdragon 680 ผลิตบนสถาปัตยกรรม 6 นาโนเมตร  ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมากเมื่อเทียบกับชิปเซ็ตขนาด 11 นาโนเมตรของรุ่นก่อน เมื่อรวมกับแรม LPDDR4x และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลชนิด UFS2.1 จึงช่วยดึงข้อมูลและความเร็วแคชให้เร็วขึ้น  เพิ่มความเร็วในการอ่านและเขียน การจัดเรียงข้อมูลในเชิงลึกพร้อมมอบประสบการณ์ความบันเทิงในแบบขั้นสุด 

ด้วยเทคโนโลยี Extended RAM ทำให้สามารถอัปเกรดหน่วยความจำเป็น 8GB+4GB ซึ่งเป็นการนำพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) ส่วนหนึ่งมาจัดสรรเพื่อใช้ร่วมกับ RAM หลัก หรือที่เรารู้จักในชื่อ Virtual Memory จึงสามารถใช้แอปพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ปุ่มสแกนนิ้วด้านข้างและปุ่มเปิดปิดเครื่องจะเป็นแบบ 2 in 1 โดยมาพร้อมระบบสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง Side-Mounted Fingerprint Scanner ที่มีความเร็วในการปลดล็อกเพียง 0.3 วินาที  นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Face Wake สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย โดยทั้ง 2 ระบบ ตอบสนองการทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจมาก ในส่วนของระบบปลดล็อกด้วยใบหน้ามีเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวให้เลือกใช้งาน 5 รูปแบบ และนอกจากจะใช้ในการปลดล็อกหน้าจอแสดงผลแล้ว ยังสามารถใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและการเข้าถึงแอปพลิเคชั่นได้อีกทางหนึ่งด้วย

โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผล Halo FullView Display ชนิด IPS LCD ให้สีสันสว่างสดใส มีความคมชัด สามารถแสดงขอบเขตสีได้สมจริงแม่นยำ รองรับอัตราการรีเฟรช 90Hz  มอบประสบการณ์การรับชมภาพที่ราบรื่น และมี Software ที่ช่วยปรับแต่งการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่น

อีกทั้งยังมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่เต็มตาถึง 6.58 นิ้ว บนความละเอียด 2408×1080 (FHD+) ในอัตราส่วน 20:9 พร้อมเทคโนโลยี In-cell ทำให้จอแสดงผลมีสีสัน ความคมชัด และรายละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้น

vivo Y33T ยังมาพร้อมเทคโนโลยีกรองแสงสีฟ้า เพื่อปกป้องดวงตาของผู้ใช้งานอีกด้วย นอกจากนี้ vivo Y33T ยังออกแบบ Notch หรือรอยบากในรูปทรงหยดน้ำให้มีขนาดเล็ก เมื่อผสานกับขอบจอที่บางเฉียบ จึงส่งผลให้การรับชมคอนเทนต์อย่าง YouTube, Netflix รวมไปถึงการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น

มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5,000mAh (TYP) รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว FlashCharge 18W  และเทคโนโลยี VEG ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานครบวัน  อีกทั้งยังมาพร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยถึง 9 ชั้น ซึ่งถือว่าชาร์จได้ไวและมีความปลอดภัยที่น่าประทับใจมาก ๆ

ทั้งนี้ควรใช้สาย ชาร์จ และอแดปเตอร์ชาร์จที่ให้มาในกล่อง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพสูงสุด

Reverse Charging

นอกจากจะมีแบตใหญ่สุดอึดถึง 5,000mAh แล้วยังมาพร้อมฟีเจอร์ Reverse Charging ที่แปลงร่างให้  vivo Y33T กลายเป็นพาวเวอร์แบงค์เพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือสมาร์ตวอทช์ผ่านทางสาย OTG (อุปกรณ์เสริมไม่มีแถมมาให้ในกล่อง) เรียกว่านอกจากแบตอึดแล้วยังทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำรองที่พกพาติดตัวไปตลอดเวลาอีกด้วย

อ่านต่อหน้า 2