ประสิทธิภาพ
vivo Y30 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่ Dimensity 700 บนสถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตร ประมวลผล Octa-core (2×2.0 GHz Cortex-A77 & 6×1.8 GHz Cortex-A76) หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G76
ส่วนในแง่การใช้งานจริงถือว่าเป็นสมาร์ตโฟน Mid-Range ระดับกลางค่อนไปทางสูงที่มาพร้อมความลื่นไหล และความแรงในระดับที่นำไปใช้งานทั่วไปและเล่นเกมที่มีกราฟิกหนัก ๆ ได้แบบสบาย ๆ สำหรับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ก็ให้มาอย่างครบถ้วน อาทิ Gyroscope, Magnetic, Accelerometer ในส่วนของภาครับสัญญาณ GPS พบว่ามีความเร็วและความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ
มัลติมีเดียและความบันเทิง
Music Player บน vivo Y30 5G มาพร้อมจุดเด่นด้าน Software ด้วยฟีเจอร์ DeepField เอฟเฟ็กต์เสียงที่พัฒนาโดย vivo ทำให้การถ่ายทอดเสียงที่ได้มีความนุ่มลึก คมชัดใสเคลียร์ รองรับการจำลองระบบเสียงรอบทิศทาง 360 องศา อีกทั้งยังปรับแต่งเสียงผ่าน EQ ได้ยืดหยุ่นและตรงใจผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น สำหรับคนที่ชื่นชอบการฟังเพลงไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ในปัจจุบันเราอาจจะไม่ค่อยเห็นสมาร์ทโฟนใส่ FM มาให้ใช้งานเหมือนเมื่อก่อน แต่ทางค่าย vivo ยังเล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มผู้ใช้งานที่ยังชื่นชอบการรับฟังวิทยุ FM จึงไม่แปลกใจที่หลาย ๆ รุ่นยังคงมาพร้อมกับ FM ซึ่งบน vivo Y30 5G เป็น FM แบบทศนิยมหนึ่งจุด ทีมีภาครับสัญญาณถือว่าคมชัดใช้ได้เลยครับ ส่วนฟีเจอร์ก็ให้มาอย่างครบถ้วน เช่นการบันทึกไว้ฟังในแบบออฟไลน์ภายหลังเป็นต้น
สำหรับ Video Player บน vivo Y30 5G รองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียด 4K ได้อย่างไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น
ทดสอบการเล่นเกม
เริ่มต้นกันด้วยเกม Call of Duty ที่สามารถปรับตั้งค่า คุณภาพกราฟิก MEDIUM และ เฟรมเรท HIGH ในการทดสอบใช้งานจริง พบว่าการเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง ไม่พบอาการแลคหรือหน่วงให้หงุดหงิดใจ สามารถเล่นได้ไหลลื่น และมีความเสถียรในระดับที่น่าพึงพอใจมาก ๆ
ต่อกันด้วย PUBG Mobile เกม Tactical-FPS สามมิติเต็มรูปแบบ เบื้องต้นสามารถตั้งค่ากราฟิกที่ระดับ HD และเฟรมเรทระดับสูง ซึ่งในการทดสอบจริง ทั้งการเคลื่อนไหว รวมถึงแอคชั่นต่าง ๆ ภายในเกมนั้นให้ความลื่นไหลที่ดีมาก ๆ เรียกว่าเล่นได้ไหลลื่น ไม่พบอาการหน่วงให้หัวร้อนอย่างแน่นอน
ปิดท้ายกันไปด้วย ROV อีกหนึ่งเกมฮิตของบ้านเรา โดยค่าเริ่มต้น ตั้งค่า FPS ระดับสูง ซึ่งพบว่าสามารถเล่นได้แบบไหลลื่นสมูทสุด ๆ ซึ่งไม่พบอาการแลคหรือหน่วงให้เห็น ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับ ชิปเซ็ตและ Firmware ที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดี รวมถึงฟีเจอร์ Ultra-Game Mode ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เหมาะสมกับการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ vivo Y30 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยมในราคาที่จับต้องได้
ด้านการถ่ายภาพ
กล้องหน้า 8MP
vivo Y30 5G มาพร้อมกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมค่ารูรับแสง f/2.0 ที่ให้ความคมชัดและขับเคลื่อนด้วย AI หรือปัญญาประดิษฐ์อันชาญฉลาด โดยจุดขายยังคงเป็น AI Face Beauty ที่สามารถวิเคราะห์เพศและใบหน้า พร้อมปรับแต่งให้ภาพถ่ายเซลฟี่ออกมาสวยงามตรงใจผู้ใช้งานโดยไม่ต้องเสียเวลามาปรับแต่งในภายหลัง
รวมทั้งมีโหมด 3D Face Shaping ที่สามารถปรับแต่งการเซลฟี่ให้ยืดหยุ่นและตรงกับความต้องการของเราได้มากที่สุด เช่นปรับผิวนวลกระจ่างใส, ปรับโครงสร้างใบหน้า, ปรับให้ดวงตากลมโต, ริมฝีปากอิ่ม, จมูกเรียวโด่ง, คางเรียว เป็นต้น
ทดสอบกล้องหน้า
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto ซึ่งยังคงรักษามาตรฐานที่ดีของค่าย vivo ได้อย่างครบถ้วน ทั้งเรื่องของความคมชัด ไวท์บาลานซ์ที่แม่นยำ และถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติของภาพออกมาได้อย่างลงตัวอีกด้วย
AI Face Beauty
สำหรับโหมด AI Face Beauty ใน Portrait Mode ตัวระบบ AI จะคำนวนความเหมาะสมให้เข้ากับใบหน้าของเราโดยอัตโนมัติ โดยภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AI จะให้โทนภาพที่ดูลงตัวเป็นธรรมชาติและใช้งานง่าย เพราะจะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันในทุกสถานการณ์
ทั้งนี้โหมด Beauty สามารถตั้งค่าระดับความสวยงามได้แบบอัตโนมัติ และตั้งค่าแบบกำหนดเองได้ตั้งแต่ 0-100 ระดับ
Super Quadruple Beauty Mode ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง
สำหรับรูปนี้ได้ทำการปรับให้ดวงตานางแบบดูกลมโตขึ้น เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างจากภาพทางด้านบนนั่นเอง
สำหรับ โหมด Portrait จะมีสไตล์มาให้ใช้งาน 3 รูปแบบ ประกอบไปด้วย “ค่าเริ่มต้น สดชื่น และภาพยนตร์”
มีฟิลเตอร์ให้ใช้งานอย่างหลากหลาย ซึ่งช่วยให้การถ่ายเซลฟี่มีความน่าตื่นตาตื่นใจ และยังสามารถแชร์ไปยังโซเชี่ยลต่าง ๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องเสียเวลามาตกแต่งผ่านแอปในภายหลังอีกด้วย
ฟีเจอร์ Portrait light effect จะช่วยเสริมให้การถ่ายภาพบุคคลมีความน่าตื่นตาตื่นใจ โดยจะให้ฟิลลิ่งที่แปลกใหม่โดยไม่ต้องพึงพาอุปกรณ์เสริม ตัวอัลกอริทึม AI ของ vivo Y30 5G จะปรับภาพใบหน้าสองมิติให้กลายเป็นสามมิติ และปรับแสงที่ใบหน้า ให้ภาพออกมามีความโดดเด่น ซึ่งเราสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ได้ทั้งแบบ 5 รูปแบบประกอบด้วย Natural light, Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, และ Monochrome background
AR Stickers การใส่อีโมจิหรือสติ๊กเกอร์ 3D น่ารัก ๆ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งลงไปในรูปถ่ายของเรา โดยรองรับการทำงานทั้งกล้องหน้าและหลัง สามารถบันทึกเป็นไฟล์ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้โหมด AR Selfie สามารถที่จะดีเทคตรวจจับภาพใบหน้าได้มากกว่า 1 ใบหน้าพร้อมกัน ทำให้เมื่อเราถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ตัวกล้องก็จะใส่ AR Stickers ให้เพื่อนที่อยู่ในเฟรมของเราด้วย
เซลฟี่ Night Mode