vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก เปิดตัว vivo Y28 และ vivo Y18 สองสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Y Series อย่างเป็นทางการในประเทศไทยไปในช่วงกลางเดือน พ.ค. 67 ที่ผ่านมา โดย vivo Y28 มาพร้อม 2 สีใหม่ ได้แก่ สีพีช (Gleaming Orange) และ สีเขียว (Agate Green) เติมความสดใสต้อนรับซัมเมอร์
ซึ่งทั้ง 2 รุ่น ต้องบอกเลยว่าเป็นรุ่นเล็ก แต่เปิดตัวด้วยราคาเข้าถึงง่าย ตามสโลแกน “รุ่นเล็ก สเปคใหญ่” ที่พร้อมมอบสัมผัสประสบการณ์แห่งความบันเทิงและการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่าย
มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้กันแล้วว่า vivo Y28 และ Y18 สองสมาร์ตโฟน Y Series รุ่นใหม่ล่าสุดจะมีฟีเจอร์และความน่าสนใจในภาพรวมเป็นอย่างไรกันบ้าง ไปรับชมรีวิวฉบับเต็มพร้อม ๆ กันได้เลยครับ
สเปคเบื้องต้น vivo Y18
ขนาด | 163.63 × 75.58 × 8.39 มม. สี Mocha Brown 163.63 × 75.58 × 8.53 มม. สี Wave Aqua |
น้ำหนัก | 185 กรัม |
หน้าจอแสดงผล | หน้าจอ ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1612 × 720 พิกเซล), รองรับ Refresh Rate 90Hz |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ต Helio G85 |
RAM | 8GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 128GB |
microSD Card | สูงสุด 1TB |
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch 14 บนพื้นฐานของ Android 14 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 2.4GHz, 5GHz บลูทูธ 5.0 support A2DP, LE, OTG, GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 2 เลนส์ AI Dual Camera – กล้องหลัก 50MP รูรับแสงกว้าง f/1.8 – กล้องรองเลนส์ 0.08MP รูรับแสงกว้าง f/3.0แฟลช กล้องหลัง กล้องหน้าความละเอียด 8MP รูรับแสงกว้าง f/2.0 โหมดการถ่าย : กล้องหลัง Night, Portrait, Photo, Video, Pano, Documents, Slo-mo, Time-lapse, Pro, Live Photo, 50 MP กล้องหน้า Night, Portrait, Photo, Video, Live Photo |
รองรับระบบ | รองรับการทำงาน 2 ซิมการ์ด (nano SIMs) Dual SIM Dual Standby (DSDS) 2G GSM : 850/900/1800 MHz 3G WCDMA : B1/B5/B84G FDD-LTE : B1/B3/B5/B7/B8/B20/B284G TDD-LTE : B38/B40/B41 |
แบตเตอรี่ | 5000mAh |
สี | สีที่วางจำหน่ายในไทย : สีน้ำตาล Mocha Brown, สีฟ้า Wave Aqua |
ราคา | 4GB + 128GB ราคา 4,499 บาท 8GB + 128GB ราคา 5,499 บาท |
สเปคเบื้องต้น vivo Y28
ขนาด | 165.70 × 76.00 × 7.99 มม. สี Agate Green 165.70 × 76.00 × 8.09 มม. สี Gleaming Orange |
น้ำหนัก | 199 กรัม |
หน้าจอแสดงผล | หน้าจอ Ultra O Screen Display ขนาด 6.68 นิ้ว (1608 × 720), รองรับ Refresh Rate 90Hz |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ต Helio G85 |
RAM | 8GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 128GB / 256GB |
microSD Card | สูงสุด 1TB |
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch 14 บนพื้นฐานของ Android 14 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 2.4GHz, 5GHz บลูทูธ 5.0 support A2DP, LE, OTG, GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง 2 เลนส์ AI Dual Camera พร้อมไฟแฟลช LED – กล้องหลัก 50MP รูรับแสงกว้าง f/1.8 – กล้องรองเลนส์ 2MP รูรับแสงกว้าง f/2.4 กล้องหน้าความละเอียด 8MP รูรับแสงกว้าง f/2.05 โหมดการถ่าย : กล้องหลัง Night, Portrait, Photo, Video, 50 MP, Pano, Documents, Slo-mo, Time-lapse, Pro, Live Photo กล้องหน้า Night, Portrait, Photo, Video, Live Photo |
รองรับระบบ | รองรับการทำงาน 2 ซิมการ์ด (nano SIMs) Dual SIM Dual Standby (DSDS)2G GSM : 850/900/1800 MHz 3G WCDMA : B1/B5/B84G FDD-LTE : B1/B3/B5/B7/B8/B20/B284G TDD-LTE : B38/B40/B41 |
แบตเตอรี่ | 6000mAh รองรับชาร์จไว vivo FlashCharge 44W |
สี | สีที่วางจำหน่ายในไทย : Gleaming Orange (สีพีช) Agate Green (สีเขียว) |
ราคา | 8GB + 128GB ราคา 6,299 บาท 8GB + 256GB ราคา 6,999 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
กล่องบรรจุภัณฑ์ของ vivo Y18 และ Y28 มาในโทนสีขาวสะอาดตาเหมือนเช่นเคย สำหรับด้านหน้ากล่องจะมีชื่อรุ่นและแบรนด์ขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Y Series
ส่วนด้านหลังจะขับเน้นด้วยไฮไลท์ที่เป็นจุดเด่นของ vivo Y18 และ Y28 ถัดลงมาจะเป็นรายละเอียดทั้งในส่วนของชื่อรุ่น สี หมายเลขอีมี่และรายละเอียดของผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องจะประกอบไปด้วย
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ OUTPUT 5V– 2A / 9V– 2A / 11V – 4A Max รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว vivo FlashCharging 44W ( สำหรับ vivo Y18 จะไม่มีอแดปเตอร์ชาร์จไฟมาให้ในกล่อง )
- สายดาต้าลิงค์แบบ Type-C
- Soft Case TPU แบบใส
- อุปกรณ์เปิดถาด SIM Card
- ใบรับประกัน, และคู่มือการใช้งานฉบับย่อ
รูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบ
ต้อนรับซัมเมอร์ ด้วยนิยามใหม่แห่งความหรูหรา สวยงาม ตามสไตล์ของ Y Series
ดีไซน์ในภาพรวม vivo Y18 ยังคงสืบทอด DNA ความเป็น Series Y ไว้อย่างเหนียวแน่น ด้วยดีไซน์มินิมอลในรูปทรง 2.5D ที่ตัดขอบเรียบตามสมัยนิยม และยังมีมุมโค้งมนแบบสมมาตรทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่งผลให้การจับถือได้ถนัดกระชับมือ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ซึ่งโดดเด่นด้วยการออกแบบที่บางเฉียบ และน้ำหนักเบา และยังโดดเด่นด้วยด้วยโทนสีและลวดลายฝาหลังอันเป็นเอกลักษณ์ของ Series Y นั่นเอง
vivo Y18 มาด้วยกัน 2 สี ประกอบด้วย
สีฟ้า Wave Aqua
สัมผัสพลังความเย็นแห่งชีวิตด้วยลวดลายฝาหลังที่ชวนให้นึกถึงคลื่นน้ำใสริมชายหาด เสริมด้วยนวัตกรรมการประกบคู่เข้ากับผิวสัมผัสแบบด้านที่ให้ความรู้สึกเรียบเนียนในทุกสัมผัส
สีน้ำตาล Mocha Brown
สัมผัสโลกที่เปล่งประกายระยิบระยับ ด้วยโทนสีส้มอมน้ำตาลและสีน้ำตาล ผสมผสานสไตล์ของคุณเข้ากับความอบอุ่นของเครื่องนี้
นอกจากนี้ vivo Y18 ยังรองรับกันน้ำและกันฝุ่นในมาตรฐาน IP54 ซึ่งจะช่วยปกป้องโทรศัพท์จากน้ำกระเซ็นหรือหกใส่ รวมถึงฝุ่นในทุก ๆ วันที่ต้องเผชิญ ในภาพรวมจึงช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน vivo Y18 กับทุก ๆ กิจกรรมได้ดียิ่งขึ้น
การจัดวางเลย์เอาท์ต่าง ๆ รอบตัวเครื่อง
ด้านบนจะมีลำโพงหลักของตัวเครื่อง ส่วนด้านล่างจะประกอบไปด้วยช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ตามด้วยพอร์ต USB Type-C และไมค์สนทนา
ฝั่งซ้ายจะเป็นที่อยู่ของช่องถาดซิมการ์ด สำหรับฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ โดยตัวปุ่มพาวเวอร์จะมีการฝั่งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Side-Mounted Fingerprint Scanner ที่สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว
ตัวถาดซิมการ์ดของ vivo Y18 จะเป็นแบบ Triple Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบนาโนซิม พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกชนิด MicroSD Card ที่รองรับได้สูงสุดถึง 1TB
vivo Y18 โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผล Sunlight สู้แสงแดด ชนิด IPS LCD ที่ใหญ่เต็มตาขนาด 6.56 นิ้ว บนความละเอียด HD+ (1612 × 720 พิกเซล) ใช้งานได้ลื่นไหลด้วย Refresh Rate 90Hz อีกทั้งยังมาพร้อมความสว่างสูงสุดถึง 840 nits
จอแสดงผลของ vivo Y18 มอบความคมชัดที่ไม่มีใครเทียบ แม้อยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้า พร้อมมอบประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นตั้งแต่ในร่มไปจนถึงกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland จึงมั่นใจได้ว่าดวงตาของคุณจะสบายตลอดวัน
vivo Y18 ให้กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8MP มีรูรับแสงกว้าง f/2.0 ที่พร้อมมอบความสวยงามและความสดใสในการถ่ายเซลฟี่ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้าหรือมืดก็ตาม นอกจากนี้ตัวกล้องหน้ายังจัดวางอยู่ส่วนบนของหน้าจอแสดงผลรูปทรง Waterdrop ส่วนเซนเซอร์วัดแสงและลำโพงสนทนาจะวางตำแหน่งไว้ที่ขอบจอของตัวเครื่องซึ่งช่วยให้จอแสดงผลได้เต็มพื้นที่ได้อีกทางหนึ่งด้วย
และยังมาพร้อมดีไซน์การวางเลนส์กล้องแบบ Dual Ring บนฐานโมดูลกล้องที่ให้สีสันแบบโลหะสะท้อนแสง ซึ่งช่วยเพิ่มความสดใสให้กับเลนส์กล้อง มอบความโดดเด่นในสไตล์ Y ซีรีส์ ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
vivo Y28
สำหรับ vivo Y28 ดีไซน์ในภาพรวมจะมีความคล้ายคลึงกับ vivo Y18 แต่ก็จะมีความแตกต่างในบางส่วน เช่นโมดูลกล้อง, การออกแบบกล้องหน้าแบบเจาะรู (punch hole) และการวางเลย์เอาท์ของพอร์ตต่าง ๆ รวมถึงรองรับการกันน้ำกันฝุ่นในมาตรฐาน IP64
vivo Y28 มี 2 สีสันให้เลือกใช้งาน โดยสี Gleaming Orange (สีพีช) จะให้ฟิลลิ่งเสมือนแสงอาทิตย์สีทองที่ส่องประกายแวววาว และโดดเด่นด้วยการเคลือบผิวแบบสองชั้น พร้อมมอบความหรูหราด้วยกรอบสีเมทัลลิกที่แวววาวเป็นพิเศษอีกด้วย
สำหรับสี Agate Green (สีเขียว) แรงบันดาลใจจากเฉดสี Agate Green ที่มีชีวิตชีวา ด้วยการเคลือบสองชั้นทำให้ดูอบอุ่นและโปร่งแสง ดึงดูดเสน่ห์ด้วยโทนสีธรรมชาติที่พร้อมตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ทุกเพศวัย
การจัดวางเลย์เอาท์ต่าง ๆ รอบตัวเครื่อง
ด้านบนของตัวเครื่องจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ ส่วนด้านล่างจะประกอบไปด้วยลำโพงหลัก (สเตออริโอ) พอร์ต USB Type-C ไมค์สนทนา ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
ฝั่งซ้ายจะเป็นที่อยู่ของช่องถาดซิมการ์ด สำหรับฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ โดยตัวปุ่มพาวเวอร์จะมีการฝั่งเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Side-Mounted Fingerprint Scanner ที่สามารถปลดล็อกได้อย่างรวดเร็ว
ตัวถาดซิมการ์ดของ vivo Y28 จะเป็นแบบ Hybrid Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบนาโนซิม หรือเลือกใช้งาน 1 ซิมการ์ดร่วมกับ MicroSD Card โดยรองรับหน่วยความจำภายนอกชนิด MicroSD Card ได้สูงสุดถึง 1TB
vivo Y28 โดดเด่นด้วยหน้าจอ High Brightness Display 90 Hz ขนาด 6.68 นิ้ว กับการออกแบบกล้องหน้าแบบเจาะรู (punch hole) ให้สีสันสว่าง และสดใสเป็นพิเศษ สามารถแสดงขอบเขตสีได้สมจริงแม่นยำ อีกทั้งยังมาพร้อมความสว่างสูงสุดถึง 1000 nits มอบประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นตั้งแต่ในร่มไปจนถึงกลางแจ้ง นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองแสงสีฟ้าต่ำจาก TÜV Rheinland มั่นใจได้ว่าดวงตาของคุณจะสบายตลอดวัน
มาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอ โดยลำโพงสนทนาจะทำหน้าที่เป็นลำโพงสเตอริโอตัวที่หนึ่ง สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยจัดวางเลย์เอาท์ไว้อยู่ตรงกลางของจอแสดงผล ซึ่งจากการใช้งานจริงให้ความรู้สึกกลมกลืนไม่รบกวนสายตา แต่ยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยมพร้อมตอบโจทย์การถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามในทุกสภาพแสงและทุกสถานการณ์
กล้องหลัง: 2 เลนส์ AI Dual Camera
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- แฟลช Rear flash
กล้องหลัง 2 เลนส์ จัดวางเลย์เอาท์บนโมดูลที่ให้แสงแบบเปล่งประกาย พร้อมล้อมคาดด้วยกรอบลวดลายเหลี่ยมเพชรแบบ 3D มอบความหรูหรา พรีเมียม ตั้งแต่แรกสัมผัส
และอีกหนึ่งจุดเด่นขออง vivo Y28 ก็คือ Dynamic Light หรือวงแหวนไฟ ที่สามารถตั้งค่าเพื่อให้ไฟสว่างเมื่อมีแจ้งเตือน หรือสายโทรเข้า รวมถึงในขณะเล่นเพลงและใช้งานร่วมกับการถ่ายเซลฟี่เมื่อใช้งานในโหมดตั้งเวลานับถออยหลัง
ไฮไลท์เด่น vivo Y28
vivo Y28 มาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 (12nm) ด้วยความถี่คอร์ขนาดใหญ่กับความไว CPU สูงถึง 2.0GHz ผสานด้วย GPU Mali-G52 MC2 ให้การแสดงภาพที่เร็วและเสถียร รวมถึงประสิทธิภาพที่ทรงพลังยิ่งขึ้น รวมถึงยังจัดการด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินไปกับการใช้งานยาวนานต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่
Extended RAM 3.0 + large storage 256 GB
ด้วยเทคโนโลยี Extended RAM 3.0 ทำให้ vivo Y28 สามารถอัปเกรดหน่วยความจำเป็น 8GB+8GB โดยเป็นการนำพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง (ROM) ส่วนหนึ่งมาจัดสรรเพื่อใช้ร่วมกับ RAM หลัก หรือที่เรารู้จักในชื่อ Virtual Memory
ซึ่ง vivo Y28 สามารถขยาย RAM 8GB เพิ่มขึ้นได้อีก 8GB จึงพร้อมมอบประสบการณ์ที่เสมือนใช้งาน RAM 16GB ส่งผลให้สามารถใช้แอปพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถเปิดใช้งานแอปพื้นหลังกว่า 25 แอป รวมถึงสลับไปมาระหว่างแอปราบรื่น พร้อมเข้าถึงได้ทันที
นอกจากนี้ vivo Y28 ยังให้หน่วยความจำขนาดใหญ่ถึง 256GB ที่พร้อมเก็บทุกความทรงจำที่มีค่าของผู้ใช้งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด
จอแสดงผล Ultra O Screen Display ใหญ่เต็มตา พลังเสียงสเตอริโอ 300% ตอบทุกโจทย์ด้านความบันเทิงในหนึ่งเดียว
vivo Y28 มาพร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 6.68 นิ้ว กับการออกแบบกล้องหน้า แบบเจาะรู (punch hole) ที่ลดการรบกวนประสบการณ์การใช้งานหน้าจอ ทำให้ใช้งานได้ลื่นไหลไม่มีสิ่งกวนใจ และยังใช้งานได้ลื่นไหลด้วยอัตรารีเฟรชเรท 90 Hz ให้ความสว่างสูงสุด 1000 nits รองรับการใช้งานกลางแสงแดดได้ดี ด้วยฟีเจอร์ การลดการกระพริบของหน้าจอ และการปรับแสงตามสภาพแวดล้อมอย่างลงตัวที่ช่วยให้สบายตาในขณะใช้งาน
นอกจากนี้ vivo Y28 ยังมาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอ รองรับคุณภาพเสียง Hi-Res โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ Audio Booster เพิ่มระดับเสียงที่เร่งได้ถึง 300% ช่วยให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับภาพและเสียงอันยอดเยี่ยม สามารถตอบโจทย์ด้านการรับชมคอนเทนต์และการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น
ด้านความปลอดภัย
สำหรับปุ่มเปิด/ปิดเครื่องบน vivo Y28 จะเป็นแบบ 2 in 1 โดยมาพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างแบบ Side-Mounted Fingerprint Scanner ที่มีความเร็วในการปลดล็อกเพียง 0.25 วินาทีเมื่อเปิดหน้าจอและ 0.39 วินาทีเมื่อปิดหน้าจอ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Face Wake หรือการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อกได้อีกด้วย
โดยทั้ง 2 ระบบ ตอบสนองการทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจมาก ในส่วนของระบบปลดล็อกด้วยใบหน้าจะมีเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวให้เลือกใช้งาน 5 รูปแบบ ซึ่งนอกจากจะใช้ในการปลดล็อกหน้าจอแสดงผลแล้ว ยังสามารถใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและการเข้าถึงแอปพลิเคชันได้อีกทางหนึ่งด้วย
แบตเตอรี่ความจุสูง 6000mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว FlashCharge 44W
vivo Y28 มาพร้ออมแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6000mAh (TYP) ซึ่งถือว่าให้แบตที่มีความจุสูงที่สุดของ Y Series เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังรองรับชาร์จเร็ว FlashCharge 44W และเทคโนโลยี AI ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ส่งผลให้ใช้งานได้อย่างยาวนานครบวัน อีกทั้งยังสามารถเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานถึง 4 ปี (หลังจากการใช้งาน 4 ปี แบตยังมีความจุถึง 80%)
ในด้านฟีเจอร์และความปลอดภัยในการชาร์จก็ให้มาแบบอัดแน่นด้วย Super Charge Pump ที่แปลงพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ดังนั้นโทรศัพท์จึงชาร์จได้อย่างรวดเร็วด้วยความร้อนที่ต่ำ พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยแบบ 24 ชั้น ด้วยการชาร์จที่รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้นจากทุก ๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็น ตัวโทรศัพท์ แบตเตอรี่ ชิปชาร์จ พอร์ต สายเคเบิล และกำลังไฟฟ้าเข้าจากแรงดันไฟ อุณหภูมิ และการป้องกันเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเมทริกซ์การป้องกันการชาร์จที่ครอบคลุมที่สร้างความอุ่นใจในการใช้งานได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ vivo Y28 ยังมีเทคโนโลยี Smart Charging Engine ซึ่งช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น โดยคำนึงถึงแบตเตอรี่และสถานการณ์ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าหน้าจอจะปิดอยู่หรือขณะเสียบปลั๊ก ก็จะปรับการชาร์จแบตให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ และช่วยลดการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่รวมถึงความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างชาร์จ จึงช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยิ่งขึ้นอีกด้วย
Reverse Charging
นอกจากจะมีแบตใหญ่สุดอึดถึง 6000mAh แล้วยังมาพร้อมฟีเจอร์ Reverse Charging ที่แปลงร่างให้ vivo Y28 กลายเป็นพาวเวอร์แบงค์เพื่อจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือสมาร์ตวอทช์ผ่านทางสาย OTG (อุปกรณ์เสริมไม่มีแถมมาให้ในกล่อง) เรียกว่านอกจากแบตอึดแล้วยังทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่สำรองที่สามารถพกพาติดตัวไปได้ตลอดเวลาอีกด้วย
ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์การใช้งาน
vivo Y28 ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 รุ่นใหม่ล่าสุด บนพื้นฐานของ Android 14 เวอร์ชันใหม่ล่าสุดเช่นกัน โดยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 นำเสนอชุดไอคอนและวิดเจ็ตใหม่ที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะแสดงแอปพลิเคชันที่ใช้เป็นประจำ และยังช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานโดยที่ไม่ต้องกดเปิดแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้การใช้งานทั่วไป ๆ รวมถึงด้านความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Jovi Home อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงเมนูลัดต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกคล่องตัว
เมื่อเลื่อนหน้าจอจากด้านซ้ายไปยังด้านขวาของหน้าโฮมเพจ จะเข้าสู่ Jovi Home ซึ่งเป็นหน้าหลักที่รวบรวมแอปพลิเคชันทั้งหมดไว้ด้วยกัน พร้อมการออกแบบสไตล์การ์ดที่ใช้งานง่าย โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจดังนี้
Shortcuts – ทางลัดที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง แอปพลิเคชันการล้างพื้นที่เครื่อง เครื่องคิดเลข ล็อกแอปพลิเคชัน และอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
Suggestions – คำแนะนำที่สามารถแจ้งเตือนอัจฉริยะสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่นเวลาพักผ่อน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
My Services – สามารถปรับแต่งตามความสนใจของคุณ เช่น เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬา ข้อมูลด้านสุขภาพ การออกกำลังกาย หรือคำแนะนำเกี่ยวกับการดื่มน้ำ และการพยากรณ์อากาศ
Mini Window ใหม่สำหรับสถานการณ์ที่ผู้ใช้ต้องการใช้งานสองแอปพร้อมกัน อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถสลับระหว่าง โหมดหน้าต่างเล็ก ๆ ได้อย่างง่ายดายด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว และยังมีฟีเจอร์ APP Retainer ระบบจะจดจำและกลับไปหน้าการใช้งานล่าสุดของ Application ให้พร้อมใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
ฟีเจอร์ Smart Mirroring ใหม่ของ vivo Y28 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์หน้าจอได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องกังวลว่าแถบการแจ้งเตือนจะปรากฏขึ้นและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ตั้งใจ
iManager
ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย ด้วยผู้ช่วยอัจฉริยะ iManager ที่มาพร้อมความสามารถครบครัน สามารถตรวจสอบความปลอดภัยสมาร์ตโฟนของคุณทั้งสแกนไวรัส และระบุไฟล์ที่เป็นอันตรายต่อสมาร์ตโฟน รวมทั้งยังมาพร้อมความสามารถอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลบไฟล์ขยะ, ระบายความร้อน, สำรองข้อมูล, และจัดการด้านพลังงานเป็นต้น
Multi-Turbo
vivo Y28 จะพาผู้ใช้งานไปสัมผัสประสบการณ์ความรวดเร็วในการเล่นเกมด้วย Multi-Turbo เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มอบความเร็วในการทำงานของหน่วยประมวลผล และช่วยประหยัดพลังงาน ได้อีกทางหนึ่งด้วย
Ultra-Game Mode
Ultra-Game Mode มาพร้อมเวอร์ชันใหม่ล่าสุด ซึ่งได้ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสุด ซึ่งสามารถเลือกการทำงานได้ถึงสามโหมดตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นโหมดประหยัดแบตเตอรี่ โหมดสมดุล และโหมดประสิทธิภาพที่สามารถรีดประสิทธิภาพออกมาได้แบบเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังสามารถเล่น E-sports ได้อย่างมืออาชีพโดยใช้ Competition Mode เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น และ นอกจากนี้ยังช่วยให้การเล่นเกมมีความต่อเนื่องไร้การรบกวนจากแจ้งเตือนข้อความและการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพแบบสัมผัสเพื่อป้องกันการจับภาพหน้าจอในขณะเล่นเกมที่เกิดจากการสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ
รวมถึงยังอัพเกรดฟีเจอร์เด่น ๆ ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น อาทิเช่น 4D Game Vibration ระบบสั่น 4 มิติ ที่ช่วยเพิ่มความสมจริงในเกม FPS , เอฟเฟ็กต์เครื่องเปลี่ยนเสียง, Game Picture-in-Picture, Do Not Disturb, Esports Mode เป็นต้น
vivo Y28 สามารถตั้งค่ากราฟิกของตัวเกมในระดับสูงได้ในหลาย ๆ เกม แต่ที่ทางทีมงานแนะนำจริง ๆ ควรเลือกค่าเริ่มต้นที่ตัว vivo Y28 กำหนดให้อย่างเหมาะสม ซึ่งในภาพรวมการเล่นเกมบน vivo Y28 ถือว่าตอบโจทย์ได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยจอแสดงผลคุณภาพสูง และฟีเจอร์การเพิ่มระดับเสียงที่เร่งได้ถึง 300% ขับเคลื่อนโดย Audio Booster ผสานระบบ Multi-Turbo เวอร์ชันล่าสุด และ Extended RAM 8+8GB รวมถึงชิปเซ็ตที่สามารถตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างสมูท แต่ทั้งนี้ตามที่เกริ่นไปในตอนต้น ควรตั้งค่าให้เหมาะสมตามที่ตัวเกมแนะนำ ซึ่งจะสามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นไม่เสียอรรถรสอย่างแน่นอน
ด้านการถ่ายภาพ vivo Y18
กล้องหน้าของ vivo Y18 ให้ความละเอียดมาที่ 8MP พร้อมค่ารูรับแสง f/2.0 ที่ให้ความคมชัดและขับเคลื่อนด้วย AI หรือปัญญาประดิษฐ์อันชาญฉลาด โดยจุดขายยังคงเป็น AI Face Beauty ที่สามารถวิเคราะห์เพศและใบหน้า พร้อมปรับแต่งให้ภาพถ่ายเซลฟี่ออกมาสวยงามตรงใจผู้ใช้งานโดยไม่ต้องเสียเวลามาปรับแต่งในภายหลัง
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto
Portrait Mode
Portrait mode
ในโหมด Portrait ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/0.95 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปรับค่ารูรับแสงในภายหลังผ่านทางแอปแกลเลอรี่ได้อีกทางหนึ่งด้วย
Beauty mode
สำหรับโหมด AI Face Beauty ตัวระบบ AI จะคำนวณความเหมาะสมให้เข้ากับใบหน้าของเราโดยอัตโนมัติ และยังสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง
Nature mode
โหมดธรรมชาติจะให้สกินโทนที่เน้นความสมจริงดูเป็นธรรมชาติ
Multi-Style Portrait
สำหรับโหมด Multi-Style Portrait ของกล้องหน้าจะมีสไตล์ที่เลือกใช้งานได้ 9 รูปแบบ ซึ่งให้ฟิลลิ่งคล้ายกับโปรไฟล์สี ที่มีให้ใช้งานบนกล้องระดับมืออาชีพของหลาย ๆ แบรนด์นั่นเอง
และมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งาน 10 รูปแบบ
ทดสอบกล้องหลัง vivo Y18
กล้องหลัง: 2 เลนส์ AI Dual Camera
- กล้องหลัก 50MP รูรับแสงกว้าง f/1.8
- เลนส์ 0.08MP รูรับแสงกว้าง f/3.0
- แฟลช กล้องหลัง
เก็บทุกความประทับใจด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่ความละเอียด 8160 x 6120 พิกเซล จะขยายหรือนำไป Crop ก็ให้คุณภาพที่สามารถต่อยอดการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น
และในโหมดความละเอียดสูงยังสามารถนำมา Crop เพื่อใช้งานในลักษณะของ Macro ได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายในระยะต่าง ๆ
ระยะปกติ
Zoom 2x
vivo Y18 รองรับการซูมแบบ Optical zoom 2x และ Digital zoom ได้สูงสุดที่ 10x
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาพแสงต่าง ๆ
ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลัง
Portrait mode
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/0.95 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ
Portrait Style
สำหรับโหมด Multi-Style Portrait ของกล้องหลังจะมีสไตล์ที่เลือกใช้งานได้ 9 รูปแบบเหมือนกล้องหน้า
รวมถึงฟิลเตอร์ก็มีให้ใช้งาน 10 รูปแบบเช่นกัน
Face Beauty
Nature mode
กล้องหลัง vivo Y18 มาพร้อมโหมด Face Beauty ที่ให้คุณภาพดีไม่แพ้กล้องหน้า อีกทั้งยังสามารถค่าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดและยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น
ทดสอบกล้องหน้า vivo Y28
กล้องหน้าของ vivo Y28 ให้ความละเอียดมาที่ 8MP พร้อมค่ารูรับแสง f/2.0
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto
Portrait Mode
ในโหมด Portrait ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/0.95 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปรับค่ารูรับแสงในภายหลังผ่านทางแอปแกลเลอรี่ได้อีกทางหนึ่งด้วย
Face Beauty
สำหรับโหมด AI Face Beauty ตัวระบบ AI จะคำนวณความเหมาะสมให้เข้ากับใบหน้าของเราโดยอัตโนมัติ และยังสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง
Nature mode
โหมดธรรมชาติจะให้สกินโทนที่เน้นความสมจริงดูเป็นธรรมชาติ
Multi-Style Portrait
สำหรับโหมด Multi-Style Portrait ของกล้องหน้าจะมีสไตล์ที่เลือกใช้งานได้ 9 รูปแบบ ประกอบไปด้วย Fresh / Texture / 1980s / Rococo / Gray / Film / Holiday / Kyoto snow / Tokyo Style ซึ่งให้ฟิลลิ่งคล้ายกับโปรไฟล์สี ที่มีให้ใช้งานบนกล้องระดับมืออาชีพของหลาย ๆ แบรนด์นั่นเอง
Portrait filter
และมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานอย่าจุใจถึง 10 รูปแบบ
Portrait light effect
ฟีเจอร์ Portrait light effect จะช่วยเสริมให้การถ่ายภาพบุคคลมีความน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งจะให้ฟิลลิ่งที่แปลกใหม่โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริม โดยตัวอัลกอริทึม AI ของ vivo Y28 จะปรับภาพใบหน้าสองมิติให้กลายเป็นสามมิติ และปรับแสงที่ใบหน้า ให้ภาพออกมามีความโดดเด่น ซึ่งเราสามารถเลือกเอฟเฟ็กต์ได้ทั้งแบบ 6 รูปแบบประกอบด้วย Natural light, Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, และ Monochrome background
ทดสอบกล้องหลัง vivo Y28
กล้องหลัง: 2 เลนส์ AI Dual Camera
- เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8
- เลนส์ Bokeh ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4
- แฟลช Rear flash
เก็บทุกความประทับใจด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่ความละเอียด 8160 x 6120 พิกเซล จะขยายหรือนำไป Crop ก็ให้คุณภาพที่สามารถต่อยอดการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น
และในโหมดความละเอียดสูงยังสามารถนำมา Crop เพื่อใช้งานในลักษณะของ Macro ได้อีกด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายในระยะต่าง ๆ
ระยะปกติ
Zoom 2x
vivo Y28 รองรับการซูมแบบ Optical zoom 2x และ Digital zoom ได้สูงสุดที่ 10x
Super Night Mode
Super Night Mode
Super Night Mode
vivo Y28 ติดตั้งอัลกอริธึมการถ่ายภาพกลางคืนของกล้องด้านหลังโดยใช้วิธีการลดสัญญาณรบกวนโดเมน RAW ที่อัปเกรดแล้ว ซึ่งสามารถรวบรวมรูปหลายเฟรมเป็นรูปเดียวเพื่อให้ได้ภาพที่มีความคมชัดสูง สัมผัสถึงความทรงจำภาพถ่ายกลางคืนอันแสนยอดเยี่ยม
ขณะเดียวกันก็สามารถเลือกสรรโหมด Stylish Night Filters ซึ่งออกแบบโดยช่างภาพมืออาชีพโดยเฉพาะสำหรับ vivo ถ่ายภาพกลางคืนได้แบบฉบับมืออาชีพ
ใน Super Night Mode ยังมี Style มาให้ใช้งานอีก 9 รูปแบบ ประกอบด้วย Black & gold, Cyberpunk, Dreamy spotlight, Textured black & white, Blue ice, Green orange, Dark red, Blue orange, Silver orange
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาพแสงต่าง ๆ
ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลัง
Portrait
สำหรับกล้องหลังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่อัดแน่นไม่แพ้กล้องหน้า ทั้ง Super HDR, Portrait Bokeh, Face Beauty, Multi-Style Portrait
Bokeh Flare Portrait
ในโหมด Portrait บน vivo Y28 ผู้ใช้งานสามารถเลือกเอฟเฟกต์โบเก้แบบแฟลร์ที่สวยงามด้วยอัลกอริทึมพอร์ตเทรตได้ถึง 6 รูปแบบ ซึ่งจะช่วยไฮไลต์วัตถุในภาพอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมสร้างความโดดเด่นของตัวโบเก้ที่มีกิมมิคในหลากหลายสไตล์
Face Beauty
Nature mode
กล้องหลัง vivo Y28 มาพร้อมโหมด Face Beauty ที่ให้คุณภาพดีไม่แพ้กล้องหน้า อีกทั้งยังสามารถค่าต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดและยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น
Portrait Style
โหมด Portrait ของกล้องหลัง มี Style มาให้ใช้งาน 9 รูปแบบ
และมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งาน 10 รูปแบบเหมือนกับกล้องหน้า
Portrait light effect
สำหรับกล้องหลังมี Portrait light effect มาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้าเช่นกัน โดยประกอบไปด้วย Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, Monochrome background
บทสรุป
vivo Y18 คือสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กสเปกแน่นในราคาสุดคุ้มค่า มาพร้อมดีไซน์มินิมอลสุดชิค เพรียวบางน้ำหนักเบา ให้แบตเตอรี่ขนาดความจุ 5000mAh สุดอึด ใช้งานได้ไม่ยาวนานตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมาพร้อมจอถนอมสายตาขนาด 6.56 นิ้ว ใช้งานกลางแจ้งได้ไม่มีสะดุดด้วยโหมดความสว่างสูงสุด 840nits พร้อมรองรับรีเฟรชเรท 90Hz และกล้องหลักพอร์ตเทรตคมชัดทุกช็อตถึง 50MP
ส่วน vivo Y28 ได้ยกระดับประสบการณ์การใช้งานที่เหนือขึ้นไปออีกขั้น โดยมาพร้อมความโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานทั้งสุนทรียศาสตร์และสรีรศาสตร์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยกรอบสีเมทัลลิกสุดแวววาวที่ถูกออกแบบมาอย่างบางพอดีและน้ำหนักเบา ตัวโมดูลกล้องสะกดทุกสายตาด้วยลวดลายเหลี่ยมเพชรแบบ 3D เผยให้เห็นมิติของความหรูหราสง่างาม
ในแง่สเปคถือว่าจัดเต็ม ตามสโลแกน “รุ่นเล็ก สเปคใหญ่” อย่างแท้จริง ด้วยแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6000mAh (TYP) ซึ่งถือว่าให้แบตที่มีความจุสูงที่สุดของ Y Series เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังรองรับชาร์จเร็ว FlashCharge 44W
และยังมาพร้อมจอแสดงผล High Brightness Display 90 Hz ใหญ่เต็มตา ขนาด 6.68 นิ้ว พร้อมความสว่างสูงสุดถึง 1000 nits ตอบทุกโจทย์ด้านความบันเทิงในหนึ่งเดียวด้วยพลังเสียงสเตอริโอ 300% ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ต Helio G85 มอบความลื่นไหลในการใช้งานด้วย Extended RAM 3.0 และเด่นทั้งกล้องหน้าและหลังตามสไตล์ของทางค่าย vivo อีกด้วย
สรุปส่งท้าย ใครที่มองหาสมาร์ตโฟนดีไซน์สวย สเปคแรงให้มาแบบล้น ๆ ไม่เกรงใจคู่แข่งในเรทเดียวกัน อีกทั้งยังมีกล้องหน้า/หลังที่ให้คุณภาพน่าประทับใจ แต่เปิดตัวในราคาที่จับต้องได้ ต้องบอกเลยว่า vivo Y28 คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามด้วยประการทั้งปวง
ราคาและช่องทางวางจำหน่าย
vivo Y18 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมาด้วยกันสองสีได้แก่ สีฟ้า (Wave Aqua) และ สีน้ำตาล (Mocha Brown) ในราคาเพียง
4GB + 128GB ราคา 4,499.- บาท
8GB + 128GB ราคา 5,499.- บาท
สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ vivo Brandshop ทุกสาขา ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://vivo.com/th/
vivo Y28 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมาด้วยกันสองสีได้แก่ สีพีช (Gleaming Orange) และสีเขียว (Agate Green) ในราคาเพียง
8GB + 128GB ราคาเพียง 6,299.- บาท
8GB + 256GB ราคาเพียง 6,999.- บาท
สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ vivo Brandshop ทุกสาขา ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://vivo.com/th/