ด้านการถ่ายภาพ
User Interface ยังคงใช้ UI เดิมจาก X 60 Series
ตัวอย่างรูปถ่ายจากกล้องหน้า
ทดสอบโหมด Auto ในสภาพแสง indoor
ทดสอบโหมด Auto ในสภาพแสง outdoor
สำหรับโหมด Portrait จะมีสไตล์ที่เลือกใช้งานได้ 9 รูปแบบ ประกอบไปด้วย Fresh / Texture / Holiday / Rococo / Gray /1980s / Kyoto cherry / Film / Tokyo Style ซึ่งให้ฟิลลิ่งคล้ายกับโปรไฟล์สี ที่มีให้ใช้งานบนกล้องระดับมืออาชีพของหลาย ๆ แบรนด์นั่นเอง
และมีฟิลเตอร์สวย ๆ มาให้ใช้งานอีก 11 รูปแบบ
โหมด Portrait พร้อมเปิดใช้งานบิวตี้
AI Face Beauty
สำหรับโหมด AI Face Beauty ใน Portrait Mode จะมี 2 โหมดสำเร็จรูปหลัก ได้แก่โหมดธรรมชาติและคลาสิก โดยตัวระบบ AI จะคำนวณความเหมาะสมให้เข้ากับใบหน้าของเราโดยอัตโนมัติ ซึ่งภาพที่ถ่ายด้วยโหมด AI จะให้โทนภาพที่ดูลงตัวเป็นธรรมชาติและใช้งานง่าย เพราะจะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกันในทุกสถานการณ์นั่นเอง
ทั้งนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง
และในโหมด Beauty จะมี Make Up แบบสำเร็จรูปมาให้ใช้งาน 9 รูปแบบ โดยสามารถตั้งค่าเพิ่มเติม เช่นเปลี่ยนสีลิปสติก, คิ้ว, แกมหรือดวงตาได้อย่างยืดหยุ่นอีกด้วย
ทดสอบโหมด Portrait + Bokeh effect ซึ่งการละลายฉากหลังทำได้ดีมาก โดยให้ความละมุนดูมีความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเก็บรายละเอียดของเส้นขอบได้ค่อนข้างเนียนตาอีกด้วย
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/1.0 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ
Pose Master
ฟีเจอร์นี้มีหลักการทำงาน ด้วยการแสดงตัวอย่างไกด์ไลน์ในการแอคติ้ง หรือการโพสท่าทางนั่นเอง โดยจะมีเส้นประแสดงควบคู่กับภาพแอคติ้งตัวอย่าง ซึ่งผู้ใช้งานเพียงแค่ให้แบบแสดงท่าทางตามตัวอย่างและจัดองค์ประกอบให้แบบเข้าไปอยู่ในเส้นประ เพียงเท่านี้เราก็จะได้ภาพถ่ายที่สวยโดนใจไม่แพ้การโพสท่าจากนางแบบ นายแบบมืออาชีพกันเลยทีเดียว
ฟีเจอร์ Pose Master สามารใช้งานได้ทั้งกล้องหน้าและหลัง
AR Stickers การใส่อีโมจิหรือสติ๊กเกอร์ 3D น่ารัก ๆ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งลงไปในรูปถ่ายของเรา โดยรองรับการทำงานทั้งกล้องหน้าและหลัง สามารถบันทึกเป็นไฟล์ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้โหมด AR Selfie สามารถที่จะดีเทคตรวจจับภาพใบหน้าได้มากกว่า 1 ใบหน้าพร้อมกัน ทำให้เมื่อเราถ่ายเซลฟี่กับเพื่อน ๆ ตัวกล้องก็จะใส่ AR Stickers ให้เพื่อนที่อยู่ในเฟรมของเราด้วย
Super Night Selfie
Super Night Selfie
โหมดปกติ & AI Night Selfie
โหมดปกติ & AI Night Selfie
โหมด Super Night Selfie จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือเวลากลางได้อย่างคมชัด โดย AI Night Selfie และ Face Beauty สามารถวิเคราะห์วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างชาญฉลาด ส่งผลให้ภาพมีความสว่าง คมชัด เก็บรายละเอียดได้ดี และมีสัญญาณรบกวนหรือ Noise ที่น้อยมาก
Selfie Softlight Band
สำหรับฟีเจอร์ Selfie Softlight Band จะให้แสงที่นุ่มนวล ภาพดูมีมิติ และไม่สว่างจ้าจนเกินไป โดยใช้แสงสว่างจากหน้าจอแสดงผลทำหน้าที่เป็นแฟลช เพื่อช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือในที่ไม่มีแสงได้อย่างสวยงามเสมือนถ่ายในสตูดิโอเลยทีเดียว
ทดสอบโหมด Portrait ในที่แสงน้อย
ทดสอบกล้องหลัง
Gimbal Stabilization 3.0
กล้องหลักของ vivo X70 5G & X70 Pro 5G มาพร้อมกับเทคโนโลยีการกันสั่นที่อัปเกรดขึ้นไปอีกขั้นด้วย Gimbal Stabilization 3.0 และรูรับแสงที่กว้าง f/1.75 พร้อมเซนเซอร์ Sony IMX766V โดย Gimbal Stabilization 3.0 จะช่วยป้องกันการถ่ายภาพสั่นไหวแบบสี่แกน จึงช่วยให้การถ่ายภาพกลางคืนหรือการถ่ายภาพกีฬา extreme ดูสวยงามน่าประทับใจมากขึ้น
รองรับการแสดงผลก่อนถ่ายในแบบ Real – Time ยกระดับการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์ขึ้นไปอีกขั้น
vivo ได้ร่วมพัฒนากับ ZEISS ซึ่งนำคุณภาพของเลนส์ ZEISS สู่สมาร์ตโฟน เพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพของ X70 Series ให้ยอดเยี่ยมมากขึ้น และด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพอันทันสมัยนี้ จะช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขีดจำกัดในทุกภาพไม่ว่าจะอยู่ในสภาพดั้งเดิมหรือแก้ไข รังสรรค์ภาพถ่ายของผู้ใช้งานให้เหมือนระดับมืออาชีพ
vivo X70 Series มี เลนส์ Portrait ระดับมืออาชีพด้วยทางยาวโฟกัส 50 มม. พร้อม ZEISS Biotar portrait style ด้วยวิธีการสร้างภาพ bokeh ในระดับที่มืออาชีพ ให้ประสิทธิภาพการถ่ายภาพบุคคลที่สมจริงยิ่งกว่าที่เคยสัมผัสบนสมาร์ตโฟน พร้อมระบบโฟกัสอันชาญฉลาด โดยสามารถโฟกัสทั้งดวงตา, ใบหน้า, ร่างกาย, ติดตามวัตถุ เรียกว่าใช้งานได้ไม่ต่างจากกล้องมือโปรเลยทีเดียว