เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ vivo X60 Pro 5G สมาร์ตโฟนเรือธง ในซีรีส์ X ที่มาพร้อมความร่วมมือกับ ZEISS แบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลก ที่พร้อมมอบประสบการณ์การถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอขึ้นไปอีกขั้น
สำหรับความน่าสนใจของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ ที่นอกจากจะจับมือเป็นพันธมิตรในการพัฒนาคุณภาพกล้องในระดับ Co-Engineer เพื่อส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับมืออาชีพสู่มือผู้บริโภคทั่วโลกแล้ว vivo X60 Pro 5G ยังคงสืบทอดความโดดเด่นจากรุ่นพี่ X50 Pro มาไว้อย่างครบถ้วน
ทั้งเรื่องของดีไซน์ที่มอบความหรูหราพรีเมี่ยม และขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตระดับเรือธง สามารถตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปรวมถึงการเล่นเกม และผู้ใช้งานที่มองหาสมาร์ตโฟนจัดเต็มในด้านการถ่ายภาพและวีดีโอได้อย่างลงตัวอีกด้วย
สเปคเบื้องต้น vivo X60 Pro 5G
ขนาด | 158.58×73มม..24มม.×7.69มม. (Shimmer Blue) |
น้ำหนัก | 179 กรัม (Shimmer Blue) |
หน้าจอแสดงผล | หน้าจอ Ultra O Screen Display ชนิด AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด 2376×1080 (FHD+) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz รองรับ HDR 10+ และการปกป้องดวงตา SGS Eye Care Display และ SGS Seamless |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ต Qualcomm SM8250-AC Snapdragon 870 5G (7 nm) Octa-core (1×3.2 GHz Kryo 585 & 3×2.42 GHz Kryo 585 & 4×1.80 GHz Kryo 585) หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 650 |
RAM | 12GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 256GB |
microSD Card | ไม่รองรับ |
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch 11 บนพื้นฐานของ Android 11 |
เชื่อมต่อ | Wi-Fi 2.4G/5G Wi-Fi MIMO บลูทูธ 5.1 support A2DP, LE, , OTG, GPS, GPS, BEIDOU, GLONASS, GALILEO, QZSS, NAVIC |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง: 3 เลนส์ AI Triple Camera vivo ZEISS Co-engineered Imaging System – เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ IMX598 รูรับแสงกว้าง f/1.48 เซ็นเซอร์ PDAF, ระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0 – เลนส์ Ultrawide-angle ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 – เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.46 กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล, รูรับแสงกว้าง f/2.45 โหมดการถ่าย Night, Portrait, Photo, Video, 48MP, PANO, Live Photo, Slow-Mo, Time Lapse, PRO, AR Stickers, Super Moon, DOC, Astro, Pro Sports, Long-Exposure |
รองรับระบบ | รองรับการทำงาน Dual-SIM 2 ซิมการ์ด Dual SIM and Dual Standby 2G GSM : 850/900/1800/1900MHz 3G WCDMA : B1/B2/B4/B5/B8 4G FDD-LTE : B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B12/B17/B18/B19/B20/B26/B28/B32 4G TDD-LTE : B38/B39/B40/B41 5G NR : n1/n3/n7/n28/n40/n41/n78 |
แบตเตอรี่ | 4200mAh รองรับชาร์จไว 33W (11V/3A) |
สี | สีที่วางจำหน่ายในไทย Shimmer Blue |
ราคา | ราคาเปิดตัว 24,999 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง
ตัวกล่องแพ็กเกจจิ้งยังคงมาในโทนและรูปทรงเดิมที่ขับเน้นในเรื่องของความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความพรีเมี่ยมไว้ในตัวเหมือนเช่นเคย โดยด้านหน้าจะโชว์รูปเลนส์กล้องขนาดใหญ่ พร้อมกำกับชื่อรุ่นและชูจุดเด่นด้วยข้อความในการร่วมมือระหว่าง vivo กับ ZEISS แบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนาทางวิศวกรรม (Co-Engineer) เพื่อส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับมืออาชีพสู่มือผู้บริโภคทั่วโลก
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับข้อความไฮไลท์ฟีเจอร์ระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด สำหรับตัวเครื่องที่ทางทีมงานได้มารีวิวในครั้งนี้คือสี Shimmer Blue ที่ได้มีการติดฟิลม์กันรอยมาให้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่โรงงาน
ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
1. อแดปเตอร์ชาร์จไฟ OUTPUT 5V–2A / 9V–2A / 11V–3A Max – รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว vivo FlashCharge 2.0 – 33W
2. หูฟังสมอลทอร์คแบบอินเอียร์ รุ่น XE710
3. อแดปเตอร์ Type-C to Audio 3.5mm
4. สายดาต้าลิงค์แบบ Type-C
5. Hard Case แบบใส
6. อุปกรณ์เปิดถาด SIM Card
7. ใบรับประกัน, และคู่มือการใช้งานฉบับย่อ
รูปลักษณ์ดีไซน์การออกแบบ
ในด้านการออกแบบ vivo X60 Pro 5G ยังคงสืบถอด DNA ของรุ่นพี่ X50 Pro ที่มอบความหรูหรา ด้วยดีไซส์โค้งมน บนโครงสร้างที่บางเบาสวยงามแบบมีระดับ ผสานด้วยวัสดุพรีเมี่ยมด้วยกระจกฝาหลังและขอบเฟรมอะลูมิเนียม พร้อมตกแต่งด้านบนของตัวเครื่องด้วยสไตล์ Choker ที่มอบความรู้สึกหรูหราพรีเมี่ยมให้กับผู้ใช้งานตั้งแต่แรกสัมผัส
New Dual Tone Step
vivo X60 Pro 5G โดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์ “New Dual-Tone Step” เป็นการไล่สีสันแบบสองโทนสีที่สวยงาม ด้วยแรงบันดาลใจจากธีมสี “ดอกไม้ฤดูร้อน” Shimmer Blue สัมผัสถึงความหวังอันเป็นนิรันดร์ของพระอาทิตย์ขึ้น ด้วยเฉดสีฟ้าและสีม่วงอ่อน ๆ ที่มองผ่านทะเลหมอกในยามเช้า และนอกจากนี้ยังได้จัดวางเลย์เอาท์ของกล้องหลังให้อยู่ในระนาบเดียวกันอย่างเรียบง่ายและสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นการจัดวางเค้าโครงที่ประณีต ให้ความรู้สึกสง่างามและมั่นใจ
ในภาพรวมตัวเครื่องมีความเพรียวบาง อีกทั้งยังมาพร้อมจอโค้งแบบ 3D ที่บางและเบาและออกแบบตามหลัก Ergonomics จึงสอดรับเข้ากับสรีระของฝ่ามือได้ดีเยี่ยม ช่วยให้การจับถือพกพาได้อย่างสะดวกคล่องตัว
จอแสดงผล Curved แบบโค้ง 3D มีจุดเด่นด้วย Flexible Screen COP ที่มีขอบดำที่เล็กและมีความบางกว่าสมาร์ตโฟนจอโค้งทั่ว ๆ ไป นอกจากนี้ vivo X60 Pro 5G ยังออกแบบให้รูกล้องมีขนาดเล็กเพียง 3.96mm จึงให้พื้นที่หน้าจอแสดงผลที่กว้างมากขึ้น และมอบประสบการณ์รับชมที่ยอดเยี่ยมกว่าที่เคย
หน้าจอใหญ่เต็มตา มาพร้อมความคมชัดสุดใจ พร้อมเปิดมุมมองใหม่ด้วยหน้าจอแสดงผล Ultra O Screen Display ชนิด Super AMOLED ในขนาด 6.56 นิ้ว บนความละเอียด 2376×1080 พิกเซล (FHD+) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz และยังรองรับ HDR10+ พร้อมปกป้องดวงตา SGS Eye Care Display และ SGS Seamless รวมถึงการสแกนนิ้วใต้หน้าจอแสดงผล (In-display Fingerprint Scanning) อันเป็นจุดขายของทางค่าย vivo เหมือนเช่นเคย
ลำโพงสนทนามีขนาดเล็กและจัดวางอยู่ในขอบของตัวเครื่องซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่แสดงผลได้อีกทางหนึ่งด้วย สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยจัดวางเลย์เอาท์ไว้อยู่ตรงกลางของจอแสดงผล
ซึ่งจากการใช้งานจริงให้ความรู้สึกกลมกลืนไม่รบกวนสายตา แต่ยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยม ด้วยความละเอียดของกล้องหน้าที่สูง 32 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์แบบอัดแน่น ไม่ว่าจะเป็นโหมด Super Night Selfie, Portrait mode, Cinema Mode และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามในทุกสภาพแสงและทุกสถานการณ์
Gimbal Stabilization 2.0 & VIS 5-Axis Video Stabilization พัฒนาขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้า พร้อมความร่วมมือกับ ZEISS แบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนาทางวิศวกรรม (Co-Engineer)
กล้องหลัง: 3 เลนส์ AI Triple Camera & vivo ZEISS Co-engineered Imaging System
- เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ IMX598 รูรับแสงกว้าง f/1.48 เซ็นเซอร์ PDAF, ระบบกันสั่น Gimbal Stabilization 2.0
- เลนส์ Ultrawide-angle ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.46
ฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ที่มีการทำลายเท็กเกจอร์เพิ่มความสวยงาม พร้อมเส้นเสาอากาศที่มุมบนและล่าง ส่วนฝั่งซ้ายจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ แต่จะมีเส้นเสาอากาศเหมือนฝั่งขวา
ด้านบนออกแบบในสไตล์ Choker หรือสร้อยคอ โดยมีการเว้าเป็นร่องเพื่อเพิ่มมิติให้ตัวเครื่อง และสลักตัวอักษรเรืองแสง ที่ขับเน้นเรื่องกล้องอันเป็นจุดขายของ vivo X60 Pro 5G นั่นเอง และนอกจากนี้ที่ฝั่งขวายังมีไมค์ตัดเสียงรบกวนและทำหน้าที่ในการบันทึกเสียงอีกด้วย
ด้านล่างประกอบไปด้วย ช่องถาดซิมการ์ด., ไมค์สนทนา, พอร์ต Type-C, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง, และเส้นเสาอากาศ สำหรับลำโพงหลัก แม้จะเป็นแบบโมโน แต่ให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก ๆ ทั้งเรื่องความดัง เสียงย่านต่ำและมิติของเสียงที่ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังได้การรับรองคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินไปกับภาพและเสียงด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม
ตัวถาดซิมของ vivo X60 Pro 5G เป็นแบบ Dual Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบนาโนซิม แต่จะไม่รองรับหน่วยความจำภายนอก
ไฮไลท์ฟีเจอร์เด่นบน vivo X60 Pro 5G
vivo X60 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 870 โดยเมื่อเทียบกับรุ่น 865 ก่อนหน้านั้น X60 Pro มีประสิทธิที่เหนือกว่าในทุกด้าน รวมทั้งประสิทธิภาพของ CPU ที่เพิ่มขึ้น 10% และประสิทธิภาพของ GPU เพิ่มขึ้นอีก 10% ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานมือถือในทุกวันและประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมกว่าที่เคย
Extended RAM เทคโนโลยีการเพิ่ม RAM ให้มีพื้นที่มากขึ้น
พื้นที่จัดเก็บ ROM ส่วนหนึ่งถูกจัดสรรมาใช้สำหรับ RAM ซึ่งหมายความว่า X60 Pro มี 12GB + 3GB RAM สามารถใช้แอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้อย่างรวดเร็วและลื่นไหล มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
UFS 3.1
X60 Pro มาพร้อมกับ UFS 3.1 สามารถรับชมภาพยนตร์ วิดีโออย่างไม่มีสะดุด และอ่านไฟล์ขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดสูงพิเศษได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผุ้ใช้งานสามารถได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นได้อย่างง่ายดาย
ปลดล็อคความเร็วแรงด้วยเครือข่าย 5G ในรูปแบบ NSA และ SA
5G แบบ NSA (Non-Standalone) มีหลักการทำงานโดยใช้อุปกรณ์ร่วมกับเทคโนโลยี 4G LTE ซึ่งช่วยในเรื่องของการลดต้นทุน และสามารถใช้งานได้ทันทีในปัจจุบัน
ส่วน SA (Standalone) จะเป็นการอัปเกรดอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้รองรับเทคโนโลยี 5G โดยเฉพาะ ซึ่งจะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า ทั้งในเรื่องความเร็ว, latency, แบนด์วิธ และความเสถียร อีกทั้งยังรองรับอนาคตที่เทคโนโลยี 5G จะเปลี่ยนเป็น SA ทั้งหมด จึงตอบโจทย์การใช้งานได้ดีกว่าสมาร์ตโฟนที่รองรับ NSA เพียงแบบเดียวนั่นเอง
vivo X60 Pro 5G สามารถใช้งาน 5G ตั้งแต่แกะกล่อง และยังมาพร้อมความโดดเด่นด้วยการรองรับ 5G ในรูปแบบ NSA / SA จึงช่วยทลายข้อจำกัดเดิม ๆ เพราะ 5G ได้เข้ามาตอบโจทย์เรื่องความหน่วงที่ต่ำลงมาจากยุค 3G / 4G อย่างเห็นได้ชัด และนอกจากจะมี latency ที่ต่ำแล้ว ยังให้ความเร็วแรง ช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงหรือดาวน์โหลดข้อมูลได้เร็วขึ้น เปิดแอปพลิเคชั่นและใช้งานโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่สะดุดติดขัด รวมถึงการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมออนไลน์ ก็ให้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจกว่าที่เคย
อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120Hz มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลอย่างไม่มีสะดุด
120Hz Refresh Rate + 240Hz Response Rate ให้ภาพลื่นไหล การตอบสนองที่ไร้ที่ติ
vivo X60 Pro 5G มาพร้อมอัตราการรีเฟรชหน้าจอที่เพิ่มขึ้นเป็น 120Hz ทำให้ภาพมีความละเอียดและคมชัดมากขึ้น รวมถึงอัตราการตอบสนองอัปเกรดเป็น 240Hz ซึ่งทำให้หน้าจอสัมผัสตอบสนองได้เร็วกว่าเดิม เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ในการเล่นเกมที่ดีขึ้น
In-Display Fingerprint Scanning
vivo เป็นค่ายแรกที่นำเสนอ “นวัตกรรม In-Display Fingerprint Scanning” หรือการฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายในจอแสดงผล ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการอัพเกรดและพัฒนาตัวเซ็นเซอร์ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยเจนเนอเรชั่นล่าสุดมีการอัพเกรดตัวเซ็นเซอร์ใหม่แบบ 3 ชิ้นเลนส์ จึงส่งผลให้การทำงานมีความรวดเร็วแม่นยำที่ดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับฟีเจอร์ In-Display Fingerprint Scanning บน vivo X60 Pro 5G รองรับการบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุดที่ 5 ลายนิ้ว และนอกจากนี้ยังมี Effect ในขณะปลดล็อกหน้าจอที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 8 รูปแบบ รวมถึงสามารถเปลี่ยนไอคอนที่แสดงบนหน้าจอได้อีก 6 รูป ซึ่งจะช่วยเสริมให้ขณะใช้งานดูมีความน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ส่วนระบบ Face Unlock บน vivo X60 Pro 5G มีความรวดเร็วแม่นยำไม่แพ้ระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ และยังสามารถทำงานได้ดีแม้ในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้โดยไม่มีปัญหา และมี Effect ในขณะปลดล็อกหน้าจอที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 5 รูปแบบ อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการปลดล็อกที่ผสานทั้ง 2 ระบบเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
แบตเตอรี่ 4000mAh Battery + ชาร์จไว 33W นวัตกรรมใหม่ของ vivo ที่มาพร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูง และมีขนาดบางเบากว่าแบตเตอรี่รุ่นอื่นที่มีความจุเท่ากัน พร้อมรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว 33W สามารถชาร์จได้สูงสุด 63% ในเวลา 30 นาที เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน