ปีที่ผ่านมา Vivo แบรนด์สมาร์ทโฟนจากแดนมังกรได้เปิดตัว Vivo V7 และ V7+ สมาร์ทโฟนระดับกลางที่มาพร้อมจุดเด่นกล้องเซลฟี่ความละเอียดสูง 24 ล้านพิกเซล และจอแบบ FullView Display 18:9 แสดงผลได้อย่างเต็มตา
มาปีนี้ได้เปิดตัว Vivo V9 ที่มีการพัฒนาต่อยอดจากรุ่น V7 และ V7+ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอที่ใหญ่มีความละเอียดขึ้น, กล้องหน้าที่รองรับเทคโนโลยี AI, กล้องหลังคู่รุ่นแรกของค่าย และอัปเกรดสเปกภายในเครื่องให้แรงกว่าเดิม ซึ่งจะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างนั้น เราไปดูรีวิวกันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ในกล่อง
กล่องแพ็คเกจจิ้งของ Vivo V9 เป็นกล่องกระดาษสีขาวขนาดพอดีเครื่อง ด้านหน้ากล่องมีรูปด้านหน้าเครื่องขนาดใหญ่ พร้อมชื่อรุ่น สโลแกน Perfect Shot, Perfect View จุดเด่นกล้องหน้าเซลฟี่ 24 ล้านพิกเซล และโลโก้ Vivo FIFA World Cup ที่ Vivo ผู้สนับสนุนสมาร์ทโฟนในมหกรรม FIFA World Cup ปี 2018 และ 2022 อย่างเป็นทางการ และด้านหลังมีไอคอนสเปกเด่นๆ
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับตัวเครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ อแดปเตอร์ชาร์จไฟ, สายดาต้าลิงค์แบบ microUSB , ชุดหูฟังแบบ in-ear ขนาดมาตรฐาน 3.5 มม., เคสซิลิโคนแบบใส, อุปกรณ์จิ้ม SIM Card, ใบรับประกัน และคู่มือการใช้งาน ส่วนฟิล์มกันรอยนั้นติดให้เรียบร้อยแล้ว
รูปลักษณ์ดีไซน์
Vivo V9 มาพร้อมดีไซน์มนสวยหรู ตัวเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากพลาสติกเคลือบเงามันวาวคล้ายเซรามิกขึ้นรูปชิ้นเดียวแบบ Unibody ด้วยขนาด 154.81×75.03×7.89 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 150 กรัม เบา และพกพาได้อย่างสบาย
ด้านหน้าเครื่อง ตรงกลางที่รอยบากมีเลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 24 ล้านพิกเซล, ช่องลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้งหมุนหน้าจออัตโนมัติ และปิดหน้าจออัตโนมัติ
ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผล FullView Display แบบ IPS LCD 16 ล้านสี ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2280 x 1080 พิกเซล ในอัตราส่วน 19:9 ครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D โดยมีสัดส่วนระหว่างหน้าจอกับตัวเครื่องที่ 90% และขอบใต้หน้าจอมีความบางเพียง 1.75 มม.
ด้านหลังเครื่องโดยมุมซ้ายด้านบนมีเลนส์กล้องดิจิทัลแบบคู่ Dual Camera ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ถัดลงมาตรงกลางมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ตามด้วยโลโก้ Vivo และตรงกลางด้านล่างมีตัวอักษร Design by Vivo – Vivo Mobile Communication Co.,Ltd
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องสำหรับใส่ถาดแบบ Triple Slot สล็อตใส่การ์ดเป็นถาดแบบ 3 ช่องเพื่อความสะดวกสบาย สามารถติดตั้งทั้งซิมการ์ดและ microSD ได้พร้อมกัน ที่แยกถาดใส่ซิมการ์ด 2 SIM ซึ่งรองรับซิมการ์ดแบบ nanoSIM และแยกถาดวาง microSD card มาให้
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิดและปิดเครื่อง
ด้านบนไม่มีช่องหรือปุ่มกดใดๆ
ด้านล่างเครื่อง ตรงกลางมีช่องเสียบชาร์จไฟและสายดาต้าลิงค์แบบ microUSB ส่วนด้านซ้ายมีช่องเสียบชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. กับช่องไมโครโฟน และด้านขวามีช่องลำโพงเสียง
สเปก Vivo V9
| ขนาด | 154.81 x 75.03 x 7.89 มิลลิเมตร |
| น้ำหนัก | 150 กรัม |
| หน้าจอ | FullView Display แบบ IPS LCD 16 ล้านสี ความละเอียด FHD+ 2280 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว |
| หน่วยประมวลผล | Octa-core ความเร็ว 2.2GHz, ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 626, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506 |
| RAM | 4GB |
| หน่วยความจำภายในเครื่อง | 64GB |
| microSD Card | สูงสุด 256GB |
| กล้องถ่ายภาพ | กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.0, ไฟแฟลชแบบ Smart Screen Flash, รองรับเทคโนโลยี AI Face Beauty, ฟังก์ชัน Bokeh และถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD , กล้องหลังคู่ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), รูรับแสง f/2.0, ไฟแฟลช LED, รองรับเทคโนโลยี AI Bokeh และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD |
| ระบบปฏิบัติการ | Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย Funtouch OS 4.0 |
| เชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot, GPS, Bluetooth 4.2, microUSB 2.0, USB On-The-Go |
| รองรับระบบ | 4G LTE 850/900/1800/2100/2300/2500/2600 MHz และ 3G 850/900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย) |
| แบตเตอรี่ | 3,260 mAh |
| ราคา | 10,999 บาท |
ประสิทธิภาพ
Vivo V9 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa-core ความเร็ว 2.2 GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 626, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506, RAM 4GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 64GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สุงสุด 256GB
เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV และเกม Free Fire กราฟิกสูงแบบสามมิติ สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และถ้าเล่นนานๆ เครื่องจะร้อน และกินเแบตเตอรี่พอสมควร แต่โดยรวมถือว่าสอบผ่าน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Vivo V9 ผ่านแอป Antutu
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Vivo V9 ผ่านแอป Geekbench 4
ด้านการถ่ายภาพ
Vivo V9 มาพร้อมกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบ Smart Screen Flash สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อย ค่ารูรับแสง f/2.0 โดยมีโหมดใบหน้าสวยที่สามารถปรับผิวนวล โทนสกิน (ค่าอมชมพู) และปรับขาว ที่ช่วยให้ถ่ายเซลฟีออกมาให้อย่างเนียนใสวิ้งเลยทีเดียว
รวมทั้งมีโหมดเซลฟี่กลุ่ม, โหมด HDR, ฟังก์ชั่น Bokeh สำหรับถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้, ฟังก์ชั่น Live Photo เป็นต้น นอกจากนี้ยังรองรับเทคโนโลยี AI Face Beauty ซึ่งสามารถปรับค่าได้ตั้งแต่อัตโนมัติ ไปจนถึงระดับ 6 รวมถึงมีฟังก์ชั่น AR Sticker และถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD
ส่วนกล้องหลังคู่ Dual Camera ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED โดยกล้องหลักรองรับเทคโนโลยี AI ส่วนกล้องรองทำหน้านที่เก็บรายละเอียดเพื่อถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างชัดเขนและเป้นธรรมชาติ และรูรับแสง F/2.0 มีโหมดใบหน้าสวยเหมือนกล้องหน้า, โหมดพาโนรามา, โหมด Ultra HD 64 ล้านพิกเซล, โหมด PPT, โหมดถ่ายภาพมืออาชีพ, โหมดภาพเคื่อนไหวช้า และโหมดภาพต่อเนื่อง โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 9216 x 6912 พิกเซล (Ultra HD) ส่วนวิดีโอ บันทึกได้ที่ความละเอียสูงสุดระดับ 4K Ultra HD
มีจุดเด่นที่การใช้เทคโนโลยี AI ในการประมวลภาพของเลนส์หลัก ขณะที่เลนส์สรองทำหน้าที่เก็บรายละเอียด เพื่อให้ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้อย่างชัดเจนและเป็นธรรมชาติ
กล้องดิจิทัลด้านหลังแบบ Dual-Camera ความละเอียด 16+5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF (Phase Detection Autofocus), รูรับแสงกว้างสูงสุด f/2.0, ไฟแฟลช LED, รองรับเทคโนโลยี AI Bokeh และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K Ultra HD
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ที่ใช้กับเครื่องรุ่นนี้มีขนาด 3,260 mAh พร้อมโหมดสิ้นเปลืองพลังงานต่ำ และโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูง หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานต่อเนื่องใน 1 วันปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 12-13 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้งานอินเทอร์เน็ตในเครือข่าย 4G แบตก็อาจหมดเร็วขึ้น โดยรวมแล้วสามารถใช้งานได้ใน 1 วันสบายๆ (ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย)
บทสรุป
Vivo V9 ถือเป็นสมาร์มโฟนรุ่นแรกของค่ายที่มาพร้อมกล้องหลังคู่ Dual Camera รวมถึงหน้าจอแบบ FullView Display ในอัตราส่วน 19:9 ขนาด 6.3 นิ้ว แสดงผลได้อย่างเต็มตา ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม หรือชมภาพยนตร์
ในส่วนของกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ยังคงเป็นจุดเด่นของสมาร์ทโฟน Vivo ซึ่งรุ่นนี้ได้เพิ่มเทคโนโลยี AI Face Beauty ช่วยให้ถ่ายภาพได้สมจริง เป็นธรรมชาติมากขึ้น
และยังอัดแน่นด้วยคุณสมบัติการใช้งานต่างๆ อย่างครบถ้วนในราคาที่จับต้องได้เพียง 10,990 บาท ใครที่สนใจสามารถคลิกสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่นี่ >>>
คลิกช้อปสมาร์ทโฟน Vivo ได้ที่นี่ >>>