เปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ vivo V50 สมาร์ตโฟน Series V รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ยกระดับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตขึ้นไปสู่ระดับโปรและเหนือกว่าทุกคู่แข่งในตลาด โดยมาพร้อมสโลแกน “ถ่ายที่รักอย่างโปร” นอกจากนี้ vivo V50 ยังสืบทอดการถ่าย Portrait แบบขั้นเทพด้วยความร่วมมือระหว่าง vivo กับ ZEISS เป็นรุ่นที่สามต่อจากรุ่นพี่ vivo V40 และ V40 Pro นั่นเอง
ในภาพรวม vivo V50 ยังคงมาพร้อมดีไซน์พรีเมี่ยม บางเบา จับได้ถนัดมือ โดดเด่นด้วยสีใหม่ และหน้าจอแสดงผลที่อัปเกรดในแบบรุ่นพี่ X Series ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและไม่เหมือนใคร ด้วยเทคโนโลยีการผลิตอันล้ำสมัย
ด้านสเปคก็ถือว่าจัดเต็มน้อง ๆ เรือธงเหมือนเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ตตัวแรง Snapdragon 7 Gen 3 บนสถาปัตยกรรม 4 นาโนเมตร ผสานด้วย Extended RAM ในแบบ 12GB+12GB และยังให้ความจุพื้นที่เก็บข้อมูลในตัวเครื่องขนาดใหญ่ถึง 512GB รวมถึงสามารถใช้งานได้ยาวนานด้วยแบตเตอรี่ความจุสูง 6000mAh พร้อมรองรับชาร์จไว FlashCharge 90W รวมถึงฟีเจอร์ทนน้ำทนฝุ่น IP68 & IP69

สเปคเบื้องต้น vivo V50
ขนาด | 163.29 × 76.72 × 7.39 มม. (Satin Black) 163.29 × 76.72 × 7.57 มม. (Ancora Red, Mist Purple) |
น้ำหนัก | 189 กรัม (Satin Black) 199 กรัม (Ancora Red, Mist Purple) |
หน้าจอแสดงผล | หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว (2392 × 1080), รองรับ Refresh Rate 120Hz ความสว่างสูงสุด 4500nits |
หน่วยประมวลผล | ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon® 7 Gen 3 |
RAM และ ROM | 12 GB + 512 GB / 12 GB + 256 GB |
เพิ่มความจุ | – |
ทนน้ำทนฝุ่น | IP68 & IP69 |
ระบบปฏิบัติการ | Funtouch 15 บนพื้นฐานของ Android 15 |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 6, WLAN 2.4 GHz/5 GHz บลูทูธ 5.4 support A2DP, LE, OTG, GPS, BeiDou, GLONASS, Galileo, QZSS |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลัง: 2 เลนส์ AI Dual Camera – กล้องหลักเลนส์ ZEISS ความละเอียด 50MP ใช้เซนเซอร์ OV50E ขนาดเซนเซอร์ 1/1.55″ รูรับแสง f/1.88 มาพร้อมระบบกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization) – เลนส์ ZEISS Ultra Wide มุมกว้าง 119 องศา ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.0 ใช้เซนเซอร์ JN1 ขนาดเซนเซอร์ 1/2.76″ รูรับแสง f/2.0 แฟลช กล้องหลังแสงออร่า Aura Light ——————————————————- กล้องหน้าเลนส์ ZEISS มุมกว้างพิเศษ ความละเอียด 50MP ——————————————————- |
รองรับระบบ | รองรับการทำงาน Dual-SIM 2 ซิมการ์ด Dual SIM and Dual Standby 2G GSM : 850/900/1800/1900 MHz 3G WCDMA : B1/B2/B4/B5/B6/B8 4G FDD-LTE : B1/B2/B3/B4/B5/B7/B8/B12/B17/B18/B19/B20/B26/B28/B66 4G TDD-LTE : B38/B39/B40/B41/B42 5G : n1/n2/n3/n5/n7/n8/n20/n26/n28/n66/n38/n40/n41/n77/n78 |
แบตเตอรี่ | 6000mAh (BlueVolt) รองรับชาร์จไว vivo FlashCharge 90W |
สี | สีที่วางจำหน่ายในไทย Ancora Red, Mist Purple, Satin Black |
ราคา | 12GB + 256GB 15,999 บาท 12GB + 512GB 17,999 บาท |
บรรจุภัณฑ์ / อุปกรณ์ภายในกล่อง


กล่อง Packaging ของ vivo V50 ยังคงเลือกใช้โทนสีดำเทาในสไตล์ของรุ่นพี่ vivo V40 พร้อมขับเน้นจุดขายด้วยรูปวงแหวน Aura Light Portrait ขนาดใหญ่ล้อมรอบชื่อรุ่นและโลโก้ ZEISS ที่มีข้อความกำกับในการร่วมมือระหว่าง vivo กับ ZEISS แบรนด์ผู้ผลิตเลนส์กล้องชั้นนำระดับโลกในการพัฒนาทางวิศวกรรม (Co-Engineer) เพื่อส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับมืออาชีพสู่มือผู้บริโภคทั่วโลก
และในรอบนี้ vivo V50 ยังชูจุดเด่นในด้าน AI ที่พร้อมขับเคลื่อนและส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่เติมเต็มในทุกมิติของ V Series อีกด้วย

ด้านข้างกล่องจะมีการระบุชื่อรุ่น และความจุของ ROM/RAM ส่วนด้านหลังกล่องจะพิมพ์บอกรายละเอียดทั้งในส่วนของชื่อรุ่น สี หมายเลขอีมี่และรายละเอียดของผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย

ในส่วนของฟิล์มกันรอยจะมีการติดมาให้เรียบร้อยตั้งแต่โรงงาน สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องจะมีดังนี้
- อแดปเตอร์ชาร์จไฟ OUTPUT 5.0V : 3.0A 15.0W, 9.0V : 2.0A 18.0W, 11.0V : 8.2A Max (90.0W Max) รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว vivo FlashCharge 90W
- สายดาต้าลิงค์แบบ USB Type-C
- Soft Case TPU แบบใส
- อุปกรณ์เปิดถาด SIM Card
- ใบรับประกัน, และคู่มือการใช้งานฉบับย่อ
รูปลักษณ์ดีไซน์


ดีไซน์บางที่สุดของ vivo ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ 6000mAh โดยตัวเครื่องมีความบางที่ 7.39 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 189 กรัม ด้วยเทคโนโลยีการจัดวางชิ้นส่วนภายในเฉพาะของ vivo ผสานกับแบตเตอรี่ BlueVolt ขนาด 6000mAh ที่บางเป็นพิเศษแบบเดียวกับเรือธง X200 Series ช่วยให้ V50 มีดีไซน์เพรียวบาง แต่ยังสามารถส่งมอบประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างทรงพลัง

ทั้งนี้ vivo V50 มาด้วยกัน 3 สี ประกอบด้วย สีแดง Ancora Red, สีม่วง Mist Purple, สีดำ Satin Black ซึ่งทุกสีจะได้แรงบันดาลใจจากความงดงามของธรรมชาติอันเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา มารังสรรค์เป็นลวดลายลงบนฝาหลังของสมาร์ตโฟนที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
สีแดง Ancora Red


vivo V50 มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว เพรียวบาง บนโครงสร้างที่บางเบาสวยงามแบบมีระดับ ผสานด้วยวัสดุพรีเมียมและขอบเฟรมแบบชิ้นเดียว ในภาพรวมดีไซน์ยังมีกลิ่นอายจากรุ่นพี่ vivo V40 อยู่บ้าง แต่ก็มีสิ่งเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้ โดย V50 มาพร้อมหน้าจอแบนที่มีขอบโค้งเล็กน้อย 4 ด้าน โดยตัวขอบหน้าจอให้ความบางเฉียบและมีความโค้งที่ 41° ซึ่งนอกจากจะให้ดีไซน์ที่ประณีตงดงามแล้ว ยังมอบการจับถือที่สบายมือได้อย่างลงตัวอีกด้วย

ในส่วนของฝาหลัง จะมาพร้อมโมดูลกล้องแบบ Dual-Ring ที่สะท้อนเอกลักษณ์การออกแบบสุดประณีตของ V Series ด้วยการจัดวางเลนส์กล้องและแฟลชในรูปแบบวงแหวน ที่แบ่งเป็นสองส่วนบนและล่างอย่างสมดุล

vivo V50 เปิดตัวด้วยสีใหม่ Ancora Red ที่ต้องบอกเลยว่า สวยสะกดทุดสายตา ซึ่งสี Ancora Red หรือสีแดง จะให้ความเข้มดุจเกลียวคลื่นของหินทราย ซึ่งสะท้อนถึงความสง่างามและเงียบสงบ พร้อมเสน่ห์ที่สะกดทุกสายตา

นอกจากนี้ vivo V50 ยังมาพร้อมมาตรฐาน “ทนน้ำ-ทนฝุ่น” ระดับ IP68 & IP69 สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้กังวลด้วยความสามารถในการกันน้ำยาวนาน แม้ฝนตกหนัก ก็ยังป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าตัวเครื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังทนทนต่อน้ำแรงดันสูง และน้ำอุณหภูมิสูงได้อีกด้วย

ลำโพงสนทนาของ vivo V50 มีขนาดเล็กและจัดวางอยู่ในขอบด้านบนของตัวเครื่อง
สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่จะมีความโดดเด่นด้วยเลนส์ ZEISS มุมกว้างพิเศษ 50MP ซึ่งออกแบบให้มีขนาดเล็ก โดยจัดวางเลย์เอาท์ไว้อยู่ตรงกลางของจอแสดงผล และจากการใช้งานจริงให้ความรู้สึกกลมกลืนไม่รบกวนสายตา แต่ยังคงให้คุณภาพมาแบบเต็มเปี่ยม ด้วยความละเอียดของกล้องหน้าที่สูงถึง 50MP พร้อมฟีเจอร์แบบอัดแน่น ไม่ว่าจะเป็นโหมด กรุ๊ปเซลฟี่, Night Portrait, High Resolution และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามในทุกสภาพแสงและทุกสถานการณ์

ตัวโมดูลกล้องของ V50 จะเป็นแบบ Dual-Ring ที่ให้ฟิลลิ่งเสมือนงานแกะสลักสุดประณีต โดยวงแหวนรอบกล้องของ V50 ได้รับการแกะสลักเป็นลวดลาย Diamond Texture แบบแมตต์อย่างประณีต เสริมด้วยเทคนิคการตกแต่งระดับลักซ์ชัวรี ใช้เทคนิคการเจียระไนเพื่อเพิ่มความเงางามและมีมิติ สะท้อนถึงประสบการณ์ระดับพรีเมียมที่เหนือกว่า

กล้องหลังของ vivo V50 จะประกอบด้วย กล้องหลักเลนส์ ZEISS ความละเอียด 50MP ใช้เซนเซอร์ OV50E ขนาดเซนเซอร์ 1/1.55″ รูรับแสง f/1.88 มาพร้อมระบบกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization)
สำหรับกล้องตัวที่สองยังคงใช้เลนส์ ZEISS โดยเป็นกล้องที่ให้มุมกว้าง Ultra Wide (119 องศา) ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/2.0 ใช้เซนเซอร์ JN1
การจัดวางเลย์เอาท์ในภาพรวม

ด้านบนจะเป็นช่องลำโพงสเตอริโอตัวที่ 1และถัดไปจะเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวนและทำหน้าที่ในการบันทึกเสียงอีกด้วย

ด้านล่างประกอบไปด้วย ช่องถาดซิมการ์ด, ไมค์สนทนา, พอร์ต Type-C, ลำโพงหลักของตัวเครื่อง (สเตอริโอตัวที่ 2 )


ฝั่งขวามือของตัวเครื่องจะมีปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ ส่วนฝั่งซ้ายของตัวเครื่องจะเรียบ ๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตใด ๆ

ตัวถาดซิมของ vivo V50 เป็นแบบ Dual Slot ที่รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบนาโนซิม แต่จะไม่รองรับหน่วยความจำภายนอก
Exclusive vivo x Vogue V50 Co-Branded Gift Box (มูลค่า 4,999 บาท)

vivo V50 นอกจากจะมาพร้อมสีใหม่อย่าง Ancora Red แล้ว ในด้านการเติมเต็มในการใช้งานที่ผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้ากับแฟชั่นก็ต้องบอกเลยว่าโดดเด่นมาก ๆ เพราะรอบนี้ vivo พร้อมส่งมอบ Gift Box สุด exclusive ไปยังคนสำคัญของผู้ใช้งานที่สอดรับกับคอนเซ็ปต์“ ถ่ายที่รักอย่างโปร” ได้อย่างน่าประทับใจอีกด้วย

“The Ancora Portrait Muse” สไตล์ที่ท้าให้ตกหลุมรักตั้งแต่เปิดกล่อง
นี่คือ GiftBox สุด exclusive ที่สะท้อนความเป็นสุดยอดสมาร์ตโฟนของ V50 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับเทรนด์แฟชั่นได้อย่างลงตัว ซึ่งสอดรับกับคอนเซ็ปต์ “ถ่ายที่รักอย่างโปร” ที่นอกจะถ่ายรูปสวยแล้วยังสามารถส่งมอบของขวัญภายในกล่อง vivo x Vogue V50 Co-Branded Gift Box ไปยังคนสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นคนรัก เพื่อน หรือครอบครัวคนใกล้ชิด
สำหรับภายในกล่อง Gift Box จะประกอบด้วย

1. ลิปสติก Gucci#509 สี AncoraRed
เฉดสีแดงวินเทจที่ช่วยเสริมลุคให้ดูโดดเด่นและมีสไตล์ โดยสีสันสุดไอคอนิกนี้เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของการร่วมมือระหว่าง vivo และ Vogue อีกทั้งยังเป็นไอเทมที่เข้ามาเติมเต็มอัตลักษณ์แห่งแฟชั่นให้กับ vivo V50 ได้เป็นอย่างดี


2. สร้อยข้อมือ Ravipa คอลเลกชัน Sun WukongSeries (เจ้าพ่อเห้งเจีย)
เครื่องประดับไทยชื่อดังที่ได้รับความนิยมจากไอคอนระดับโลก โดยซีรีส์ Sun Wukong ที่ vivo เลือกมาใส่ในกล่องของขวัญครั้งนี้ มีความโดดเด่นด้านการส่งเสริมปัญญาและความกล้าหาญ น้ามาซึ่งพรมงคลและพลังบวกให้กับผู้สวมใส่

3. ที่ตั้งโทรศัพท์ vivo
ที่ตั้งโทรศัพท์ดีไซน์เก๋ที่เป็น cardholder ในตัว ไอเทมเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจ้าวันให้กับผู้ใช้งาน สมาร์ตโฟนยุคใหม่ มาในเฉดสีแดงที่เข้ากันได้ดีกับสีไฮไลต์ของ vivo V50 อย่าง Ancora Red ติดตั้งใช้งานโดยนำวงแหวนแม่เหล็กติดเข้ากับด้านในเคส V50 และนำ cardholder ประกบเข้าไปด้านหลังเคส


4. สายคล้องโทรศัพท์ vivo ที่ให้ mood and tone เข้ากับ vivo V50 สี Ancora Red ได้อย่างลงตัว

สีม่วง Mist Purple



สำหรับสีม่วง Mist Purple จะให้ฟิลลิ่งราวกับหมอกในยามเช้า มอบความรู้สึกนุ่มนวล ละมุน เหมือนกับการสัมผัสความฝันในยามเช้าที่เต็มไปด้วยความหวังและความสดชื่น
สีดำ Satin Black

สีดำ Satin Black เปรียบเสมือนท้องฟ้าก่อนรุ่งสาง ซึ่งให้สีดำอันเงียบสงบพร้อมประกายเมทัลลิกที่สะท้อนความหรูหราอย่างประณีต และถือเป็นสีที่มีความคลาสสิคเหนือกาลเวลา รองรับการใช้งานได้ทุกเพศวัยอย่างแท้จริง
ไฮไลท์เด่น vivo V50

ประสิทธิภาพ

vivo V50 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon® 7 Gen 3 บนสถาปัตยกรรม 4nm มาพร้อมการปรับปรุงประสิทธิภาพครั้งใหญ่ ทั้งในส่วนของ AI Engine มอบสัมผัสประสบการณ์การเพิ่มประสิทธิภาพที่ให้ความเร็วในการประมวลผลที่สูงขึ้นในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง โดยมีประสิทธิภาพ CPU ที่แรงขึ้นกว่าเดิม 15% ส่วน GPU แรงกว่าเดิม 50% เมื่อนำประสิทธิภาพมาเทียบกับในรุ่นก่อนหน้าอย่าง Snapdragon 7 Gen 1
12GB+12GB Extended RAM

vivo V50 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Extended RAM ในแบบ 12GB+12GB ส่งผลให้สามารถใช้งาน RAM สูงสุดถึง 24GB รองรับการใช้งานแอปในพื้นหลังได้มากกว่า 40 แอปพร้อมกัน สามารถสลับไปมาระหว่างแอปได้อย่างราบรื่น ตอบโจทย์การใช้งานแอปหรือเกมที่เน้นกราฟิกบนพื้นที่หน่วยความจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลื่นไหลไม่มีสะดุดตลอดทั้งวัน
ลำโพงสเตอริโอคู่


เสียงทรงพลัง ดื่มด่ำทุกความบันเทิง ระบบเสียงคุณภาพสูงที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์เสียงที่สมจริงสำหรับเพลงและวิดีโอ
Personal Cinema Screen


หน้าจอแสดงผลของ vivo V50 เลือกใช้วัสดุรุ่นใหม่คุณภาพสูงบนพาเนล AMOLED โดยมีหน้าจอขนาด 6.77 นิ้วที่ใหญ่เต็มตาบนความละเอียด 2392 × 1080 พิกเซล มีความหนาแน่นของพิกเซลที่ 387 PPI ความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน 5000nits ความอิ่มตัวของสี 105% NTSC รองรับขอบเขตสี 100% DCI-P3, HDR10+ พร้อมกับอัตราการรีเฟรชสูงสุด 120Hz ให้สีสันที่สวยงามสมจริง ชนิดที่ไม่ลดทอนคุณภาพหรือความคมชัดของสีที่ขอบหน้าจอ จึงพร้อมตอบโจทย์ด้านการรับชมคอนเทนต์และการเล่นเกมได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น

และยังสามารถปรับตั้งค่าการแสดงผลได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นการปรับสีหน้าจอ อุณหภูมิสี การปรับเอฟเฟ็กต์การแสดงผลที่สดใสยิ่งขึ้น รวมถึงมีทั้งธีมมืดและโปรแกรมรักษาหน้าจอ พร้อมความปลอดภัยด้วยโหมดป้องกันดวงตา ด้วยหน้าจอลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาของผู้ใช้งาน
ด้านความปลอดภัย

ฟีเจอร์ในด้านความปลอดภัยก็ให้มาอย่างครบถ้วน โดย vivo V50 รองรับฟีเจอร์ความปลอดภัยในระดับ Hardware ด้วย Biometric อันล้ำสมัยจาก “นวัตกรรม In-Display Fingerprint Scanning” หรือการฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายในจอแสดงผล และในเจนเนอเรชั่นล่าสุดมีการอัพเกรดตัวเซนเซอร์ใหม่แบบ 3 ชิ้นเลนส์ จึงส่งผลให้การทำงานมีความรวดเร็วแม่นยำที่ดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับฟีเจอร์ In-Display Fingerprint Scanning บน vivo V50 รองรับการบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุดที่ 5 ลายนิ้ว และนอกจากนี้ยังมี Effect ในขณะปลดล็อกหน้าจอที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง12 รูปแบบ รวมถึงสามารถเปลี่ยนไอคอนที่แสดงบนหน้าจอได้อีก 7 รูป ซึ่งจะช่วยเสริมให้ขณะใช้งานดูมีความน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ส่วนระบบ Face Unlock บน vivo V50 มีความรวดเร็วแม่นยำไม่แพ้ระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ และยังสามารถทำงานได้ดีแม้ในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้โดยไม่มีปัญหา และมี Effect ในขณะปลดล็อกหน้าจอที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 5 รูปแบบ อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการปลดล็อกที่ผสานทั้ง 2 ระบบเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

vivo V50 ให้ความจุแบตเตอรี่มาที่ 6000mAh พร้อมฟีเจอร์ vivo FlashCharge 90W ซึ่งสูงขึ้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า อีกทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยี BlueVolt ที่ช่วยให้ขนาดของแบตเตอรี่ลดลงแต่ได้ความจุที่เพิ่มขึ้น
ในด้านฟีเจอร์และความปลอดภัยในการชาร์จก็ให้มาแบบอัดแน่นด้วย Super Charge Pump ที่แปลงพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ดังนั้นโทรศัพท์จึงชาร์จได้อย่างรวดเร็วด้วยความร้อนที่ต่ำ พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยแบบ 24 มิติ ด้วยการชาร์จที่รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้นจากทุก ๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็น ตัวโทรศัพท์ แบตเตอรี่ ชิปชาร์จ พอร์ต สายเคเบิล และกำลังไฟฟ้าเข้าจากแรงดันไฟ อุณหภูมิ และการป้องกันเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเมทริกซ์การป้องกันการชาร์จที่ครอบคลุมที่สร้างความอุ่นใจในการใช้งานได้ตลอดเวลา
นอกจากนี้ vivo V50 ยังมีเทคโนโลยี Smart Charging Engine ซึ่งช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น โดยคำนึงถึงแบตเตอรี่และสถานการณ์ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าหน้าจอจะปิดอยู่หรือขณะเสียบปลั๊ก ก็จะปรับการชาร์จแบตให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ และช่วยลดการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่รวมถึงความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างชาร์จ จึงช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ยิ่งขึ้นอีกด้วย
ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์

vivo V50 ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 บน Android 15 ใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อม Gemini Assistant ผู้ช่วย AI เพื่อการเรียนรู้ที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการเขียนอีเมล วางแผนกิจกรรม และอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ
ตัวเล่นไฟล์วิดีโอ
Gemini Assistance ที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น

ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ ที่รวมขุมพลังการค้นหาของ Google และเทคโนโลยี Machine Learning ไว้ในที่เดียว

• สะดวกและมีประสิทธิภาพ ช่วยจัดการงานที่ซับซ้อนได้ง่าย ๆ ด้วยคำสั่งเสียง
• ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น
– การจัดตารางเวลา: ตั้งเตือนนัดหมายผ่านคำสั่งเสียง หมดกังวลเรื่องลืมประชุมหรือภารกิจสำคัญ
– แนะนำคอนเทนต์: คัดสรรเพลงหรือวิดีโอที่ตรงกับความสนใจโดยอัตโนมัติ
– ผู้ช่วยด้านการเรียนรูป: ตอบคำถามการเรียน พร้อมแนะนำแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์
– แรงบันดาลใจใหม่ ๆ: ตัวช่วยในการคิดนอกกรอบและกระตุ้นไอเดียสร้างสรรค์
– สรุปเนื้อหาวิดีโออัตโนมัติ: วิเคราะห์คำบรรยายและค้นหาคำตอบได้ในพริบตา
ด้านการเล่นเกม

ด้วยหน้าจอแสดงผลที่มีคุณภาพสูง รวมถึงลำโพงสเตอริโอคู่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่ดื่มด่ำ ด้วยการผสมผสานระหว่างการแสดงผล การสั่นสะเทือนและเสียงอันทรงพลัง ให้ความสมจริงในขณะเล่นมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่จัดเต็มในแบบรอบด้าน


vivo V50 มาพร้อม Ultra-Game Mode โฉมใหม่ เล่นต่อไปได้ไม่สะดุด ด้วยทางลัดการตั้งค่าแบบใหม่ที่ให้คุณปรับแต่งการตั้งค่าได้ทันทีโดยไม่ต้องหยุดเกม และยังมีทางลัดแบบใหม่ที่เปิดหน้าต่างเล็กได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ให้คุณเล่นเกมและแชทไปพร้อมกันได้



ในเวอร์ชันอัปเดตใหม่ล่าสุด ได้ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสุด ซึ่งสามารถเลือกการทำงานได้ถึงสามโหมดตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นโหมดประหยัดแบตเตอรี่, โหมดสมดุล และโหมดประสิทธิภาพที่สามารถรีดพลังในการเล่นเกมออกมาได้แบบเต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถเล่น E-sports ได้อย่างมืออาชีพโดยใช้ Competition Mode เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น และ นอกจากนี้ยังช่วยให้การเล่นเกมมีความต่อเนื่องไร้การรบกวนจากแจ้งเตือนข้อความและการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพแบบสัมผัสเพื่อป้องกันการจับภาพหน้าจอในขณะเล่นเกมที่เกิดจากการสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ


รวมถึงยังอัพเกรดฟีเจอร์เด่น ๆ ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น อาทิเช่น 4D Game Vibration ระบบสั่น 4 มิติ ที่ช่วยเพิ่มความสมจริงในเกม FPS , เอฟเฟ็กต์เครื่องเปลี่ยนเสียง, Game Picture-in-Picture, Do Not Disturb, Esports Mode เป็นต้น






vivo V50 สามารถตั้งค่ากราฟิกและเฟรมเรตของตัวเกมในระดับสูงสุดได้ทุกเกม เมื่อลองทดสอบเกมยอดนิยมอย่าง Genshin Impact, PUBG, ROV, Asphalt 9 ฯลฯ ไม่พบอาการหน่วงหรือสะดุดให้เห็น
สรุปในภาพรวม vivo V50 สามารถเล่นได้ทุกเกมแบบตั้งค่าสูงสุด พร้อมเปิดเฟรมเรทสูง ๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับคุณภาพ Hardware ระดับเรือธง และ Firmware ที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดี รวมถึงฟีเจอร์ Ultra-Game Mode ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เหมาะสมกับการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ vivo V50 เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่ตอบสนองการเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยมในระดับแถวหน้าของตลาดบ้านเรา
ด้านการถ่ายภาพ

ไม่พลาดทุกความประทับใจด้วยกล้องหน้าเลนส์ ZEISS มุมกว้างพิเศษ ที่ให้ความละเอียดมาถึง 50MP พร้อมฟีเจอร์ที่ให้มาแบบอัดแน่น ไม่ว่าจะเป็น 50MP Group Portrait ที่ให้ภาพมุมกว้างคมชัดดั่งกล้องหลัก (ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง) โดยกล้องหน้าจะมี AI ที่ช่วยปรับใบหน้าสมจริง คมชัดแม้ถ่ายย้อนแสง
อีกทั้งยังมาพร้อมระบบออโต้โฟกัส (AF) ที่ล็อกโฟกัสใบหน้าและดวงตาได้อย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะถ่ายระยะใกล้หรือไกลแค่ไหน ก็สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัด ไม่หลุดโฟกัส ให้ความสวยงามเป็นธรรมชาติ และแม้จะเป็นการเซลฟี่แบบกลุ่มก็สามารถถ่ายทอดความเป็นตัวตนและธรรมชาติของแต่ละคนได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย
Portrait mode

ในโหมด Portrait ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/0.95 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ รวมถึงสามารถเข้าไปตั้งค่ารูรับแสงในภายหลังผ่านตัวแอป “อัลบั้ม”
50MP Group Portrait

Portrait mode แบบมุมกว้าง 0.8x
มาพร้อมกล้องหน้าที่สามารถถ่ายเซลฟี่ได้แบบมุมกว้าง 92 องศา รองรับการถ่ายถ่ายเซลฟี่ในแนวนอน เพื่อเก็บทุกรอยยิ้มที่พิเศษในทุกการเดินทางร่วมกันเพื่อน ๆ ด้วยเซลฟี่แบบเป็นกลุ่ม มอบความความประทับใจในการถ่ายเซลฟี่โดยไม่ตกหล่นเพื่อนร่วมเฟรมอีกต่อไป

Portrait mode ระยะปกติ 1x

และ vivo V50 ยังมาพร้อมโหมดเซลฟี่ Zoom 2X เพื่อเน้นรายละเอียดดีเทลของใบหน้า สามารถนำไปใช้งานในรูปแบบของภาพโปรไฟล์ หรือจะนำไปใช้งานในลักษณะภาพโปสเตอร์ก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน
Bokeh flare


กล้องหน้านอกจากจะตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตามความต้องการแล้ว ยังมาพร้อม Bokeh effect ที่จำลองโบเก้ในสไตล์เลนส์กล้องของทาง ZEISS โดยมีรูปแบบโบเก้มาให้ใช้งานถึง 6 รูปแบบ

Nature, Biotar

Sonnar Planar, Distagon

Cinematic
AI Face Beauty

Classic & Nature
สำหรับโหมด AI Face Beauty ใน Portrait Mode จะมี 2 โหมดสำเร็จรูปหลัก ได้แก่โหมดธรรมชาติและคลาสสิก โดยโหมดธรรมชาติจะให้สกินโทนที่เน้นความสมจริงดูเป็นธรรมชาติ ส่วนโหมดคลาสสิกตัวระบบ AI จะคำนวณความเหมาะสมให้เข้ากับใบหน้าของเราโดยอัตโนมัติ ซึ่งทั้งสองโหมดสามารถตอบโจทย์สำหรับสีผิวและความชื่นชอบที่แตกต่างกันไปของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว

ทั้งนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งในโหมดบิวตี้ได้อย่างยืดหยุ่น เช่นปรับให้ผิวขาวนวล ปรับสกินโทนของสีผิว ปรับให้ใบหน้าเรียวบาง, ปรับแต่งภาพรวมโครงสร้างใบหน้า, กราม, ปรับให้ดวงตากลมโต, ดวงตาเรียวยาว, ปรับแต่งรูปแบบของจมูกและริมฝีปากเป็นต้น ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่เป็นเรื่องสนุก และให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจแก่ผู้ใช้งานได้มากที่สุดนั่นเอง
Make Up


และในโหมด Beauty จะมี Make Up แบบสำเร็จรูปมาให้ใช้งาน 9 รูปแบบ โดยสามารถตั้งค่าเพิ่มเติม เช่นเปลี่ยนสีลิปสติก, คิ้ว, แก้มหรือดวงตาได้อย่างยืดหยุ่นอีกด้วย
Multi-Style Portrait


สำหรับโหมด Multi-Style Portrait จะมีสไตล์ที่ให้เลือกใช้งานได้ถึง 9 รูปแบบ ซึ่งให้ฟิลลิ่งคล้ายกับโปรไฟล์สี ที่มีให้ใช้งานบนกล้องระดับมืออาชีพของหลาย ๆ แบรนด์นั่นเอง
Selfie Softlight Band


โหมด Portrait ในสภาพแสงน้อยและยังไม่เปิดใช้แฟลช

เปิดใช้งาน Selfie Softlight Band

สำหรับฟีเจอร์ Selfie Softlight Band จะให้แสงที่นุ่มนวล ภาพดูมีมิติ และไม่สว่างจ้าจนเกินไป โดยใช้แสงสว่างจากหน้าจอแสดงผลทำหน้าที่เป็นแฟลช อีกทั้งยังสามารถปรับแสงออร่าในอุณหภูมิได้อย่างยืดหยุ่นเหมือนกล้องหลัง จึงช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือในที่ไม่มีแสงได้อย่างสวยงามเสมือนถ่ายในสตูดิโอเลยทีเดียว
Super Night Selfie


โหมด Super Night Selfie จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ในที่แสงน้อยหรือเวลากลางคืนได้อย่างคมชัด โดย AI Night Selfie และ Face Beauty สามารถวิเคราะห์วิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนได้อย่างชาญฉลาด ส่งผลให้ภาพมีความสว่าง คมชัด เก็บรายละเอียดได้ดี และมีสัญญาณรบกวนหรือ Noise ที่น้อยมาก

Super Night Selfie + Selfie Softlight Band
และเมื่อเปิดใช้งาน Selfie Softlight Band ร่วมกับ Super Night Selfie ก็จะขับเน้นตัวแบบและฉากหลังให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
ทดสอบกล้องหลัง

50MP ZEISS All Main Camera
จุดเด่นของ vivo V50 คือมาทุกกล้องเลนส์ ZEISS ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล โดยกล้องหลักใช้เซนเซอร์ระดับเรือธงขนาด 1/1.55” รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K ทุกกล้อง หนึ่งเดียวในสมาร์ตโฟน ระดับราคาเดียวกัน สำหรับไฮไลท์หลัก ๆ จะมีดังนี้
1. ZEISS Portrait มอบประสิทธ์ภาพระดับโปรให้ทุกโมเมนต์สำคัญ เป๊ะทุกช็อต ไม่ว่าจะถ่ายคนที่รัก ครอบครัวที่รักเพื่อนที่รัก หรือสถานที่ที่รัก
2. AI Aura Light Portrait Aura Light คุณภาพระดับสตูดิโอ โดย AI 3D Studio Lighting 2.0 สามารถปรับโทนแสงอุ่น-เย็น และปรับความ สว่างตามระยะอัตโนมัติ
3. ZEISS Multifocal Portrait “Classic ZEISS Style Bokeh” ระยะการถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบมือโปร พร้อมโบเก้อันเป็นเอกลักษ์ของ ZEISS
4. 50MP Group Portrait กล้องหลัง: AI Group Portrait เก็บภาพใบหน้าได้ถึง 30 คน
5. เทคโนโลยีอัจฉริยะ เพิ่มความสนุกในการถ่ายภาพ AI Image Studio / AI Erase 2.0 / Live Cutou
ลูกเล่นเพิ่มสีสันให้ภาพถ่าย โหมดกล้องฟิล์ม (เปิดกล้องและปัดขึ้นจากด้านล่าง) Color Adaptive Border กรอบภาพถ่ายแบบปรับสีอัตโนมัติตามภาพถ่าย


เก็บทุกความประทับใจด้วยกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 50MP ให้ภาพที่ความละเอียด 8192 x 7024 พิกเซล จะขยายหรือนำไป Crop ก็ให้คุณภาพที่สามารถต่อยอดการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น

และโหมดความละเอียดสูง 50MP ยังรองรับการถ่ายภาพในแบบ Ultra wide angle มุมกว้างพิเศษอีกด้วย
เลนส์ ZEISS สีสันสมจริง รองรับการถ่ายได้หลากหลายระยะ

ระยะปกติ

Ultra wide angle มุมกว้างพิเศษ

Zoom 2x

vivo V50 รองรับการ Zoom แบบ Optical ได้ที่ 2x และ Digital zoom ได้สูงสุดที่ 20x
Ultra wide angle มุมกว้างพิเศษ

ในโหมด Ultra-Wide จะให้มุมมองกว้างเป็นพิเศษ ช่วยให้เก็บองค์ประกอบของภาพได้มากยิ่งขึ้นแม้ในพื้นที่จำกัด ทำให้สามารถถ่ายวิวทิวทัศน์ในมุมมองที่กว้างขึ้น ไม่ต้องถอยไกล รวมถึงสามารถเก็บภาพถ่ายแบบหมู่คณะผองเพื่อนได้อย่างครบถ้วนไม่ตกหล่นอีกต่อไป

ระยะปกติ

มุมมองกว้างพิเศษ
Super macro

Super macro บน vivo V50 สามารถถ่ายภาพระยะใกล้ได้ถึง 4 ซม. ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดวัตถุชิ้นเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี เช่นภาพแมลง ดอกไม้ หรือวัตถุที่ต้องการเน้นความคมชัดและรายละเอียด ซึ่งเลนส์มาโครจะช่วยให้การถ่ายภาพนั้นสนุกและมีประโยชน์ในการใช้งานจริงของชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
สีธรรมชาติของ ZEISS
จากการร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่าง vivo และ ZEISS ทำให้สามารถดึงเอาสีสันที่เป็นธรรมชาติออกมาได้เป็นค่าสีที่อยู่ในระดับบนของอุตสาหกรรมในมาตรฐาน DE การปรับโทนสีระดับโปรนี้จะสร้างสิ่งที่ตรงกับตามองเห็นมากยิ่งขึ้น

vivo V50 สามารถปรับ color tone หรือสีของโทนภาพได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Vivid, Textured, ZEISS Natural ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกโทนสีได้ตรงกับความต้องการ เช่นการถ่ายอาหาร ถ่ายวิวทิวทัศน์ หรือถ่ายภาพบุคคลเป็นต้น
Food mode

โหมดปกติ

Food mode zoom 2x และเปิดใช้งานแสงออร่า

โหมดปกติ

Food mode zoom 2x และเปิดใช้งานแสงออร่า

vivo V50 มาพร้อม Food mode โดยใช้แสงออร่าเข้ามาเป็นตัวช่วยในการถ่ายภาพอาหารให้ดูโดดเด่น ซึ่งจะให้สีที่ดูสดใส มีชีวิตชีวาและน่ากินยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับการซูมที่ 2x สามารถละลายฉากหลัง พร้อมขับเน้นรายละเอียดที่น่าสนใจของอาหารให้โดดเด่นขึ้นมาได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัส
Super Night Mode


Auto Mode

เปิดใช้งาน Super Night Mode
vivo V50 ติดตั้งอัลกอริธึมการถ่ายภาพกลางคืนของกล้องด้านหลังโดยใช้วิธีการลดสัญญาณรบกวนโดเมน RAW ที่อัปเกรดแล้ว ซึ่งสามารถรวบรวมรูปหลายเฟรมเป็นรูปเดียวเพื่อให้ได้ภาพที่มีความคมชัดสูง สัมผัสถึงความทรงจำภาพถ่ายกลางคืนอันแสนยอดเยี่ยม
ขณะเดียวกันก็สามารถเลือกสรรโหมด Stylish Night Filters ซึ่งออกแบบโดยช่างภาพมืออาชีพโดยเฉพาะสำหรับ vivo ถ่ายภาพกลางคืนได้แบบฉบับมืออาชีพ และ Super Night Mode บน vivo V50 ยังรองรับการถ่ายภาพมุมกว้าง Ultra wide angle และ zoom ได้ที่ 2x

ระยะปกติ

Ultra wide angle (มุมกว้างพิเศษ)

zoom 2x

ใน Super Night Mode ยังมี Style มาให้ใช้งานอีก 9 รูปแบบ ประกอบด้วย Black & gold, Cyberpunk, Dreamy spotlight, Textured black & white, Blue ice, Green orange, Dark red, Blue orange, Silver orange
Color Adaptive Border

อินเทอร์เฟซกล้องฟิล์มคลาสสิก

ลูกเล่นเพิ่มสีสันให้ภาพถ่าย โหมดกล้องฟิล์ม (เปิดกล้องและปัดขึ้นจากด้านล่าง) Color Adaptive Border กรอบภาพถ่ายแบบปรับสีอัตโนมัติตามภาพถ่าย


มาพร้อม 4 ตัวเลือกโทนฟิล์ม และขอบเฟรมที่ปรับแต่งเองได้ พร้อมรองรับการถ่ายภาพบุคคลและวิวทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัส
ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาพแสงต่าง ๆ





พอร์ตเทรตสไตล์ ZEISS รังสรรค์ความสดใสให้กับทุกโมเม้นต์อันน่าประทับใจ สมสโลแกน “ถ่ายที่รักอย่างโปร” !!!

vivo V50 มาพร้อมกล้องเลนส์ ZEISS ระดับโปร และพอร์ตเทรตสไตล์ ZEISS ซึ่งเป็นความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดทั้งในระดับ Hardware และ Software ส่งผลให้การถ่ายพอร์ตเทรตได้ดียิ่งขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ทั้งสีสันที่สดใสยิ่งขึ้น และลูกเล่น “โบเก้ เอฟเฟกต์” อันเป็นเอกลักษณ์พิเศษที่มีเฉพาะบนเลนส์ของทางค่าย ZEISS นั่นเอง
ZEISS Multifocal Portrait

ZEISS Multifocal Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคล รวมทุกระยะโฟกัส ส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพพอร์ตเทรตระดับมืออาชีพสู่มือผู้ใช้งานในรูปแบบที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น และให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบเพียงปลายนิ้วสัมผัส
โหมด ZEISS Multifocal Portrait ของ vivo V50 จะมี Full focal lengt portrait lens package ที่ช่วยยกระดับการถ่าย Portrait ให้ง่ายขึ้น มีหลักการทำงานเสมือนการเปลี่ยนเลนส์บนกล้องบน Full Frame ซึ่งมีระยะเลนส์หรือทางยาวโฟกัสที่ครอบคลุมครบทุกระยะให้เลือกใช้งาน ตั้งแต่ 23mm ,35mm ,50mm โดยสามารถดูรายละเอียดของการถ่ายในระยะโฟกัสที่เลือก รวมถึงสไตล์โบเก้ที่ถูกจับคู่ใช้งานให้แบบอัตโนมัติ

เริ่มต้นกันด้วยที่ระยะ 23mm ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพแนวท่องเที่ยว หรือเชิงสร้างสรรค์ และยังสามารถขับเน้นฉากหลังสำหรับสถานท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์อันโดดเด่น ไปพร้อม ๆ กับตัวแบบได้อย่างลงตัว โดยระยะ 24mm จะเลือกใช้แสงแฟลร์ ZEISS Distagon จับคู่กับโทนสีย้อนยุค ช่วยให้ภาพคนในระหว่างการเดินทางมีความโดดเด่น และชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ระยะ 23mm ยังเหมาะกับการถ่ายภาพ Portrait ในแนวนอนได้ดีอีกด้วย

ระยะ 35mm เป็นระยะที่เหมาะสำหรับถ่ายภาพบุคคลและภาพบรรยากาศ โดยการเบลอฉากหลังจะมีความลึกที่เพิ่มขึ้นมาจากระยะ 23mm แบบสัมผัสได้
สำหรับระยะ 35mm จะใช้แสงแฟลร์แนวภาพยนตร์แบบวัดสามค่า ZEISS B-Speed จับคู่กับระยะโฟกัสแบบเน้นคน 35mm (1.5x) จึงช่วยให้รู้สึกถึงการสื่อสารที่เน้นตัวบุคคลและเรื่องราวได้อย่างชัดเจน

ระยะ 50mm สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบครึ่งตัว โดยมีให้เลือกสองแบบ ได้แก่ natural portrait เป็นการผสมผสานระหว่างแสงแฟลร์ทรงกลม พร้อมโฟกัส 50mm (2.2x) ซึ่งเป็นระยะเลนส์ที่ตรงกับตามนุษย์มากที่สุด ดังนั้นจึงให้ภาพพอร์ตเทรตที่เป็นธรรมชาติ สมจริง และดูโปรมากยิ่งขึ้นแม้ถ่ายจากระยะไกล ก็จะยังให้ภาพพอร์ตเทรตที่สดใสน่าทึ่งราวกับถ่ายในระยะใกล้เสมือนกล้องโปรนั่นเอง

ระยะ 50mm รูปแบบที่ 2 classic portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลแบบครึ่งตัว ด้วยการผสมผสานระหว่างแสงแฟลร์แบบหมุน ZEISS Biotar โดยสามารถถ่ายภาพคนตามบรรยากาศที่ให้รูปร่างที่มีความโดดเด่น และโทนผิวที่สว่างมากขึ้น
Bokeh Style Portrait

นอกจากจะมาพร้อมโหมดถ่ายภาพแบบสำเร็จรูปแล้ว vivo V50 ยังสามารถเลือกระยะโฟกัสและรูปแบบ Bokeh รวมถึง Style Portrait ได้อย่างยืดหยุ่นอีกด้วย

โบเก้สไตล์ Nature

Biotar, B-speed, Sonnar
โบเก้สไตล์ Biotar ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Biotar 1.5/75 ให้โบเก้หมุนวนที่นำมาจากเอฟเฟกต์พิเศษของเลนส์กล้อง มอบประสบการณ์ภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมตามสไตล์ ZEISS
โบเก้สไตล์ B-speed เพิ่มเอฟเฟกต์โบเก้รูปทรงสามเหลี่ยมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS classic high-speed cine ในยุค 1970 ตอนกลาง
โบเก้สไตล์ ZEISS Sonnar เป็นโบเก้ที่ได้แรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Sonnar 2.8/180 มีจุดเด่นที่การเบลอละลายหลัง ทำให้พื้นหลังดูมีบรรยากาศโรแมนติก เหมาะสำหรับการถ่ายสตรีทพอร์ตเทรต

Planar, Distagon, Cine-flare
โบเก้สไตล์ ZEISS Planar โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Planar 2.8/80 ให้ภาพสไตล์คลาสสิกที่เก็บรายละเอียดวัตถุ ขณะที่พื้นหลังก็ให้ความคมชัดของโบเก้
โบเก้สไตล์ ZEISS Distagon ได้แรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Distagon 2.0/28 มอบโบเก้หกเหลี่ยมในพื้นหลัง เผยให้เห็นถึงความงดงามอันน่าประทับใจ ทำออกมาสำหรับการแสดงภาพเชิงศิลป
พอร์ตเทรตสไตล์ ZEISS Cine-flare ขณะถ่ายภาพท่ามกลางแสงจ้า จะทำให้เกิดแสงแฟลร์เหมือนในภาพยนตร์ ด้วยอัลกอริธึมขั้นสูงช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้ภาพพอร์ตเทรตที่คมชัดและเป็นธรรมชาติ

Cinematic
โบเก้สไตล์ ZEISS Cinematic ถ่ายภาพพอร์ตเทรตในสไตล์ภาพยนตร์ด้วยอัตราส่วนภาพ 2.39:1 จะสร้างแสงแฟลร์วงรีและเอฟเฟกต์เส้นแสงสีน้ำเงิน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้ไฟถนนในเวลากลางคืน
ทดสอบ Bokeh Style Portrait ในสภาพแสงยามค่ำคืน




สำหรับสภาพแสงตอนกลางคืนจะให้โบเก้ที่ดูสวยละมุนตาไม่แพ้ในเวลากลางวัน และเมื่อผสานกับ AI Aura Light ก็ยิ่งช่วยขับเน้นการถ่ายภายบุคคลที่ให้ความสว่างสดใสไปพร้อมกับโบเก้สวย ๆ และต้องบอกเลยว่า นี่คือหนึ่งเดียวในสมาร์ตโฟนที่ถ่าย Portrait ได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนระดับราคาเดียวกัน
Portrait Style & Face Beauty


สำหรับ Face Beauty ของกล้องหลังมี Natural Portrait มาให้ใช้งานเช่นกัน และปรับแต่งได้อย่างยืดหยุ่นเหมือนกล้องหน้า
Portrait Style


และมี Portrait Style มาให้ใช้งาน 10 รูปแบบ
นอกจากจะถ่าย Portrait ได้อย่างโดดเด่นขั้นเทพแล้ว vivo V50 ยังมาพร้อมความสามารถในการรีทัช ลบส่วนเกินหรือสิ่งที่ไม่ต้องการออกจากรูปถ่ายได้ง่าย ๆ ผ่านระบบ AI อันชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นภาพบุคคล หรือสัตว์เลี้ยงก็สามารถลบออกได้ตามความต้องการ
AI Aura Light Portrait

AI Aura Light Portrait บน vivo V50 มาพร้อมแสง Aura Light คุณภาพระดับสตูดิโอ โดย AI 3D Studio Lighting 2.0 ตัวระบบจะปรับอุณหภูมิแสงอัจฉริยะที่ทำงานในโหมดอัตโนมัติ โดยสามารถปรับโทนแสงอุ่น-เย็น และปรับความ สว่างตามระยะได้อย่างชาญฉลาด
นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแสงออร่าให้เป็นโทนเย็นและโทนอุ่นได้หลายระดับตามความต้องการ รวมถึงความสว่างเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแสงในขณะนั้น
สำหรับวิธีเปิดใช้งาน Aura Light Portrait แบบกำหนดค่าเอง ให้แตะที่สัญลักษณ์รูปแฟลชที่ด้านบนมุมซ้ายของจอแสดงผล หลังจากนั้นจะมีแถบเมนูในการเปิด/ปิดใช้งาน Aura Light Portrait แสดงผลขึ้นมา ถัดลงมาด้านล่าง จะมีบาร์ที่ใช้ในการกำหนดรูปแบบของแสง โดยค่าเริ่มต้นจะเป็นแบบอัตโนมัติ ถ้าต้องการตั้งค่าเองให้แตะที่สัญลักษณ์รูปตัว A จากนั้นจะสามารถเลื่อนแถบบาร์ไปทางขวาเพื่อปรับเป็นอุณหภูมิเย็น และปรับมาซ้ายจะเป็นการเลือกอุณหภูมิอุ่น

Aura Light Portrait แบบกำหนดค่าเอง เมื่อปรับแถบบาร์ไปทางขวามือจนสุดจะได้แสงชนิด Cool Feeling

Aura Light Portrait แบบกำหนดค่าเอง เมื่อปรับแถบบาร์มาอยู่ตรงกลางจะได้แสงชนิด Natural

Aura Light Portrait แบบกำหนดค่าเอง เมื่อปรับแถบบาร์ไปทางซ้ายมือจนสุดจะได้แสงชนิด Warmth

ตัวอย่างภาพถ่าย ที่เปิดใช้งาน Aura Light Portrait แบบกำหนดค่าเอง จากซ้ายไปขวา Cool Feeling, Natural, Warmth

AI Aura Light สามารถใช้งานได้ทุกสภาพแสง รวมถึงในช่วงเวลากลางวันก็ตาม ซึ่งจากรูปตัวอย่างเป็นการถ่ายภาพย้อนแสง ถึงแม้จะมีโหมด HDR ที่ช่วยเปลี่ยนสภาพแสง แต่จากรูปทางขวามือจะเห็นว่าใบหน้าของแบบมีความฟุ้งและติดโทนคล้ำ ส่วนรูปทางซ้ายมือเปิดใช้งาน AI Aura Light จะได้ความสว่างและภาพที่ดูมิติขึ้นมา ซึ่งสามารถนำไปใช้งานโดยไม่ต้องตกแต่งในภายหลังแต่อย่างใด

vivo V50 มาพร้อมไฟออร่าที่ให้แสงที่นุ่มนวลขึ้น ควบคู่ไปกับความสว่างที่เหมาะสม จึงช่วยให้ใบหน้าสว่าง ละมุนเป็นธรรมชาติ

ระบบ AI อัจฉริยะจะเปิดใช้ออร่าตามสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพ ส่งผลให้การถ่าย Portrait ในที่แสงน้อยเป็นเรื่องที่ง่าย แม้จะไม่มีความรู้ทางด้านการถ่ายภาพมาก่อนก็ตาม

ในสภาพแสงที่มีความหลากหลาย ตัว AI ก็จะคำนวนให้อย่างชาญฉลาด โดยบางครั้งจะเลือกอุณหภูมิแบบ Natural ที่อยู่ตรงกลางระหว่างโทนเย็นและโทนอุ่น ซึ่งบางครั้งจะเป็นไฟสีขาวที่ไม่สว่างจนเกินไป หรือบางครั้งก็จะเป็นไฟสีส้มอ่อน ๆ แต่ถ้าเป็นบรรยากาศในสภาพแสงที่มีโทนอุ่นมาก ๆ ไฟ Aura Light Portrait ก็จะเป็นสีส้มเข้ม ซึ่งโทนแสงสีส้ม จะช่วยทำให้ใบหน้าและโทนสีผิวดูเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา
Far / Near Lighting


AI Aura Light จะตรวจจับระยะห่างแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณได้แสงออร่าที่สว่างอย่างเหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในระยะใกล้และไกล ซึ่งให้ความสมจริงไม่หลอกตาเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนทั่ว ๆ ไป

นอกจากปัญหา White Balance ที่ส่งผลให้สีสันดูผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง อีกหนึ่งปัญหาก็คือ ambient light รวมถึงการสะท้อนของแสงจากวัตถุไปยังตัวแบบ โดยรูปทางซ้ายมือแสงไฟสีส้มของสภาพแวดล้อมจะสะท้อนลงมายังตัวแบบทำให้เกิดสีเพี้ยน
แต่จากรูปทางขวาที่ถ่ายด้วย vivo V50 พร้อมเปิดใช้งาน AI Aura Light จะให้สีสันที่ดูเป็นธรรมชาติและสมจริงกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน
บทสรุป

vivo V50 เป็นสมาร์ตโฟนที่ถ่ายภาพ Portrait แบบขั้นเทพด้วยความร่วมมือระหว่าง vivo กับ ZEISS เป็นรุ่นที่สามต่อจากรุ่นพี่ vivo V40 ในภาพรวมต้องบอกว่ามีการขัดเกลาให้ลงตัวขึ้น ทั้งในแง่ดีไซน์ รวมถึงยังมาพร้อมสีใหม่ Ancora Red และยังเติมเต็มในการใช้งานที่ผสานเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเข้ากับแฟชั่นได้อย่างน่าประทับใจ
ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าโดดเด่นมาก ๆ เพราะรอบนี้ vivo พร้อมส่งมอบ Gift Box สุด exclusive ไปยังคนสำคัญของผู้ใช้งานที่สอดรับกับคอนเซ็ปต์ “ถ่ายที่รักอย่างโปร” ได้อย่างน่าประทับใจอีกด้วย
สำหรับสเปคก็มีการอัปเดตที่น่าสนใจ โดย vivo V50 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตตัวแรง Qualcomm Snapdragon® 7 Gen 3 และยังมาพร้อมหน้าจอแบนที่มีขอบโค้งเล็กน้อย 4 ด้าน โดยตัวขอบหน้าจอให้ความบางเฉียบและมีความโค้งที่ 41°
ซึ่งนอกจากจะให้ดีไซน์ที่ประณีตงดงามแล้ว ยังมอบการจับถือที่สบายมือได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังให้แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 6000mAh (BlueVolt) และฟีเจอร์ทนน้ำทนฝุ่น IP68 & IP69 ซึ่งถือว่าสูงขึ้นจากรุ่นก่อน
ในด้านจุดขายหลักอย่างการถ่ายรูปก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โดย vivo V50 มาพร้อมเลนส์ ZEISS ทั้งกล้องหน้าและหลัง โดดเด่นเหนือกว่าทุกคู่แข่งในด้านการถ่าย Portrait ด้วยความร่วมมือระหว่าง vivo กับ ZEISS เป็นรุ่นที่ 3 ต่อจากรุ่นพี่ vivo V40
และยังคงมาพร้อมจุดแข็งก็คือแสงออร่า Aura Light Portrait ที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับภาพถ่ายบุคคลได้อย่างโดดเด่น สามารถเก็บภาพทุกช่วงเวลาได้อย่างมีชีวิตชีวาไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน
พร้อมส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพพอร์ตเทรตคมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ รังสรรค์ภาพถ่ายที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมองศาไหน ก็สามารถทำให้ผู้ใช้งานประทับใจกับคุณภาพได้เสมอ สมกับสโลแกน “ถ่ายที่รักอย่างโปร” อย่างแท้จริง
ราคาและช่องทางวางจำหน่าย

พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของ สัมผัสประสบการณ์ที่จะคุณตกหลุมรักทุกการใช้งานกับ vivo V50
ถ่ายที่รักอย่างโปร ด้วยทุกกล้องเลนส์ ZEISS คมชัด 50MP คู่กับ AI ช่วยปรับภาพถ่ายระดับสตูดิโอ หน้าจอดีไซน์ใหม่ชวนตกหลุมรัก
ทนน้ำทนฝุ่น IP68 & IP69
แบต BlueVolt ความจุ 6000mAh พร้อมชาร์จไว 90W FlashCharge
V50 (12GB + 256GB) ราคา 15,999.-
V50 (12GB + 512GB) ราคา 17,999.-
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >>> https://bit.ly/vivoV50
รับของสมนาคุณพิเศษ 4 ต่อ
ต่อที่ 1 รับ vivo Buds มูลค่า 1,799.- (เฉพาะลูกค้าที่สั่งจองและซื้อตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ. 68 – 2 มี.ค. 68)
ต่อที่ 2 รับ V50 Premium Gift(Case) มูลค่า 890.-
ต่อที่ 3 รับ vivo Care มูลค่า 8,999.-
ต่อที่ 4 โปรโมชันเก่าแลกใหม่ รับส่วนลดจากราคาประเมินสูงสุด 1,000.-
*โปรโมชันต่อที่ 2 และ 4 เฉพาะลูกค้าที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. 68 ถึง 31 มี.ค. 68 เท่านั้น เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ที่ vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
#vivoV50#ZEISSPoartraitSoPro#ถ่ายที่รักอย่างโปร