ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาพแสงต่าง ๆ
พอร์ตเทรตสไตล์ ZEISS รังสรรค์ความสดใสให้กับทุกโมเม้นต์อันน่าประทับใจ
vivo V30 Pro 5G มาพร้อมกล้องเลนส์ ZEISS ระดับโปร และพอร์ตเทรตสไตล์ ZEISS ซึ่งเป็นความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดทั้งในระดับ Hardware และ Software ส่งผลให้การถ่ายพอร์ตเทรตได้ดียิ่งขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ทั้งสีสันที่สดใสยิ่งขึ้น และลูกเล่น “โบเก้ เอฟเฟกต์” อันเป็นเอกลักษณ์พิเศษที่มีเฉพาะบนเลนส์ของทางค่าย ZEISS นั่นเอง
กล้องพอร์ตเทรตระดับโปร 50MP พัฒนามาเพื่อการถ่ายภาพพอร์ตเทรตอย่างโปร ด้วยทางยาวโฟกัส 50 mm ซึ่งเป็นระยะเลนส์ที่ตรงกับตามนุษย์ ดังนั้นจึงให้ภาพพอร์ตเทรตที่เป็นธรรมชาติ สมจริง และดูโปรมากยิ่งขึ้นแม้ถ่ายจากระยะไกลด้วยการซูม 2 เท่า ก็ให้ภาพพอร์ตเทรตที่สดใสน่าทึ่งราวกับถ่ายในระยะใกล้
โบเก้สไตล์ Nature
โบเก้สไตล์ Biotar ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Biotar 1.5/75 ให้โบเก้หมุนวนที่นำมาจากเอฟเฟกต์พิเศษของเลนส์กล้อง มอบประสบการณ์ภาพถ่ายที่ยอดเยี่ยมตามสไตล์ ZEISS
โบเก้สไตล์ ZEISS Sonnar
เป็นโบเก้ที่ได้แรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Sonnar 2.8/180 มีจุดเด่นที่การเบลอละลายหลัง ทำให้พื้นหลังดูมีบรรยากาศโรแมนติก เหมาะสำหรับการถ่ายสตรีทพอร์ตเทรต
โบเก้สไตล์ ZEISS Planar โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Planar 2.8/80 ให้ภาพสไตล์คลาสสิกที่เก็บรายละเอียดวัตถุ ขณะที่พื้นหลังก็ให้ความคมชัดของโบเก้
โบเก้สไตล์ ZEISS Distagon ได้แรงบันดาลใจจากเลนส์ ZEISS Distagon 2.0/28 มอบโบเก้หกเหลี่ยมในพื้นหลัง เผยให้เห็นถึงความงดงามอันน่าประทับใจ ทำออกมาสำหรับการแสดงภาพเชิงศิลปะ
พอร์ตเทรตสไตล์ ZEISS Cine-flare ขณะถ่ายภาพท่ามกลางแสงจ้า จะทำให้เกิดแสงแฟลร์เหมือนในภาพยนตร์ ด้วยอัลกอริธึมขั้นสูงช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้ภาพพอร์ตเทรตที่คมชัดและเป็นธรรมชาติ
โบเก้สไตล์ ZEISS Cinematic ถ่ายภาพพอร์ตเทรตในสไตล์ภาพยนตร์ด้วยอัตราส่วนภาพ 2.39:1 จะสร้างแสงแฟลร์วงรีและเอฟเฟกต์เส้นแสงสีน้ำเงิน โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้ไฟถนนในเวลากลางคืน
vivo V30 Pro 5G มีโหมด Portrait Style และฟิลเตอร์มาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้าทุกประการ
vivo V30 Pro 5G รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30 fps พร้อมระบบกันสั่นที่เลือกใช้งานได้ 2 แบบ (มาตรฐาน/ พิเศษ)
Micro Movie
ตอบโจทย์ครีเอเตอร์สาย Vlog กับการถ่ายทำระดับโปร
• สะดวกและรวดเร็วด้วยการเลือก template แบบเรียลไทม์
• เพิ่มความสามารถในการปรับแต่งภาพพอร์ตเทรต ไปจนถึงการแก้ไขวิดีโอเพื่อสาย Vlog โดยเฉพาะ
• ปรับปรุงโฟกัส แสง และสกินโทนสำหรับการถ่ายทำ
Aura Light Portrait 3.0
Aura Light Portrait 3.0 มาพร้อมฟีเจอร์ Smart Color Temperature Adjustment ระบบปรับอุณหภูมิแสงอัจฉริยะที่ทำงานในโหมดอัตโนมัติ แต่ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแสงออร่าให้เป็นโทนเย็นและโทนอุ่นได้หลายระดับตามความต้องการ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแสงในขณะนั้น
สำหรับวิธีเปิดใช้งาน Aura Light Portrait 3.0 แบบกำหนดค่าเอง ให้แตะที่สัญลักษณ์รูปแฟลชที่ด้านบนมุมซ้ายของจอแสดงผล หลังจากนั้นจะมีแถบเมนูในการเปิด/ปิดใช้งาน Aura Light Portrait 3.0 แสดงผลขึ้นมา ถัดลงมาด้านล่าง จะมีบาร์ที่ใช้ในการกำหนดรูปแบบของแสง โดยค่าเริ่มต้นจะเป็นแบบอัตโนมัติ ถ้าต้องการตั้งค่าเองให้แตะที่สัญลักษณ์รูปตัว A จากนั้นจะสามารถเลื่อนแถบบาร์ไปทางขวาเพื่อปรับเป็นอุณหภูมิเย็น และปรับมาซ้ายจะเป็นการเลือกอุณหภูมิอุ่น
แสงออร่าใหม่
vivo V30 Pro 5G มาพร้อมไฟออร่าขนาดใหญ่ ให้แสงที่นุ่มนวลขึ้น ควบคู่ไปกับความสว่างที่เหมาะสม จึงช่วยให้ใบหน้าสว่าง ละมุนเป็นธรรมชาติ (ขนาดออร่าใหญ่ขึ้น 19 เท่า ↑ แสงออร่านุ่มนวลขึ้น 50 เท่า ↑)
ในสภาพแสงที่มีความหลากหลาย ตัว AI ก็จะคำนวนให้อย่างชาญฉลาด โดยบางครั้งจะเลือกอุณหภูมิแบบ Natural ที่อยู่ตรงกลางระหว่างโทนเย็นและโทนอุ่น ซึ่งบางครั้งจะเป็นไฟสีขาวที่ไม่สว่างจนเกินไป หรือบางครั้งก็จะเป็นไฟสีส้มอ่อน ๆ แต่ถ้าเป็นบรรยากาศในสภาพแสงที่มีโทนอุ่นมาก ๆ ไฟ Aura Light Portrait 3.0 ก็จะเป็นสีส้มเข้ม ซึ่งโทนแสงสีส้ม จะช่วยทำให้ใบหน้าและโทนสีผิวดูเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา
Aura Light Portrait 3.0 สามารถใช้งานได้ทุกสภาพแสง รวมถึงในช่วงเวลากลางวันก็ตาม ซึ่งจากรูปตัวอย่างเป็นการถ่ายภาพย้อนแสง ถึงแม้จะมีโหมด HDR ที่ช่วยเปลี่ยนสภาพแสง แต่จากรูปทางซ้ายมือจะเห็นว่าใบหน้าของแบบมีความฟุ้งและติดโทนคล้ำ ส่วนรูปทางขวามือเปิดใช้งาน Aura Light Portrait 3.0 จะได้ความสว่างและภาพที่ดูมิติขึ้นมา ซึ่งสามารถนำไปใช้งานโดยไม่ต้องตกแต่งในภายหลังแต่อย่างใด
AI Powered Photography
ระบบ AI อัจฉริยะ ช่วยแนะนำการเปิดใช้ออร่าตามสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพ ส่งผลให้การถ่าย Portrait ในที่แสงน้อยเป็นเรื่องที่ง่าย แม้จะไม่มีความรู้ทางด้านการถ่ายภาพมาก่อนก็ตาม
Far / Near Lighting
ตรวจจับระยะห่างแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณได้แสงออร่าที่สว่างอย่างเหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในระยะใกล้และไกล ซึ่งให้ความสมจริงไม่หลอกตาเมื่อเทียบกับสมาร์ตโฟนทั่ว ๆ ไป
Smart Color Temperature Adjustment
ปรับโทนแสงออร่าให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอย่างอัจฉริยะ ไม่ว่าจะแสงโทนอุ่นหรือโทนเย็น ช่วยให้ภาพพอร์ตเทรตดูสว่างและคมชัดอย่างธรรมชาติ
จากภาพตัวอย่าง นางแบบเราอยู่ในสภาพแสงโทนอุ่นจากหลอดไฟทังสเตน หรือไฟที่ให้แสงสีส้ม ระบบ Aura Light Portrait 3.0 จะปรับแสงออร่าเป็นโทนอุ่น เพื่อถ่ายภาพพอร์ตเทรตในบรรยากาศที่มีแสงสลัวในแบบโทนอุ่น ซึ่งโทนแสงสีส้มจะช่วยทำให้ใบหน้าและโทนสีผิวดูเป็นธรรมชาติ
ในสภาพแสงที่ค่อนข้างคงที่ อย่างแสงไฟจากหลอด LED หรือ ฟลูออเรสเซนต์ โดยไม่มีแสงอันหลากหลายมาผสมปนกัน ในภาพรวมจะให้โทนที่เป็นสีขาว หรือ Scene city ที่พบเจอกันได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ตัว Aura Light Portrait 3.0 จะให้แสงแบบ Natural ที่อยู่ตรงกลางระหว่างโทนเย็นและโทนอุ่น โดยจากรูปชุดนี้จะเห็นได้ว่า ตัวแบบจะไม่สว่างจ้า หรือติดโทนแดง แต่จะให้ความสมจริง ดูละมุนและเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา
นอกจากปัญหา White Balance ที่ส่งผลให้สีสันดูผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง อีกหนึ่งปัญหาก็คือ ambient light รวมถึงการสะท้อนของแสงจากวัตถุไปยังตัวแบบ โดยรูปทางซ้ายมือสีแดงของวัตถุจะสะท้อนลงมายังตัวแบบทำให้เกิดสีเพี้ยน
แต่จากรูปทางขวาที่ถ่ายด้วย vivo V30 Pro 5G พร้อมเปิดใช้งาน “Aura Light Portrait 3.0” จะให้สีสันที่ดูเป็นธรรมชาติและสมจริงกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน
ปัญหาการถ่ายภาพในที่แสงน้อยมาก ๆ หรือในที่มืด สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ noise หรือสัญญาณรบกวนในภาพ ที่ทำให้ภาพดูดรอปทั้งในส่วนของรายละเอียดความคมชัดและความสว่าง ซึ่งในโหมดพอร์ตเทรตบนสมาร์ตโฟนเราจะไม่สามารถตั้งค่า ISO ได้เหมือนบนกล้องจริง ๆ
ZEISS Bokeh & Aura Light Portrait 3.0
หนึ่งในไฮไลท์เด่นของ vivo V30 Pro 5G นั่นก็การเปิดตัวด้วยความมือร่วมกับค่าย ZEISS ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของ V Series และเมื่อผสานกับระบบแสงออร่าใหม่ Aura Light Portrait 3.0 จึงยกระดับการถ่าย Portrait ขึ้นไปอยู่ระดับ Semi Pro ที่ให้ สีสัน ความคมชัด จากตัวเลนส์โปร และแสงออร่าใหม่ พร้อมขับเน้นการถ่าย Portrait ได้โดดเด่น เหนือทุกคู่แข่ง ทั้งในแง่โบเก้สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ ZEISS และการทลายขีดจำกัดการถ่ายภาพ Portrait ในสภาพแสงน้อยหรือในที่มืดนั่นเอง
มาถึงตรงนี้เราจะเห็นได้ว่า vivo V30 Pro 5G มาพร้อมความโดดเด่นที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยเลนส์โปรจากความร่วมมือระหว่าง vivo และค่าย ZEISS ทั้งในระดับ Hardware และ Software เมื่อผสานกับแสงออร่ารุ่นอัปเกรดใหม่ล่าสุด “Aura Light Portrait 3.0” ที่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพบุคคลในยามค่ำคืนได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ส่งผลให้ไม่ว่าจะแสงน้อยแค่ไหน vivo V30 Pro 5G ก็สามารถถ่ายพอร์ตเทรตได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการสร้างมิติของภาพ ดึงดีเทลที่ขาดหายให้กลับมา พร้อมมอบความสมดุลสมจริงให้กับภาพบุคคลที่ไม่สามารถพบเจอได้บนสมาร์ตโฟนทั่ว ๆ ไป และเมื่อจับคู่กับคุณภาพเลนส์ระดับโปรของ ZEISS นี่จึงเป็นการยกระดับการถ่ายภาพ Portrait ที่ดีที่สุดของ V Series อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ราคาและช่องทางวางจำหน่าย
เปิดให้จองล่วงหน้าและรับเครื่องก่อนใครแล้ววันนี้
ราคาพิเศษเพียง 19,999.-
ดูเพิ่มเติม https://bit.ly/3uNtwkX
รับของสมนาคุณมากมาย มูลค่ารวมกว่า 12,798.-
– รับส่วนลดทันที 500.-
– รับหูฟัง vivo TWS 3e (มูลค่า 1,799.-)
– Premium Gift Box (มูลค่า 10,499.- ภายในกล่องเคส 2 ชิ้น และ E-VIP Card สิทธิพิเศษรับประกันตัวเครื่องเป็น 2 ปี และรับประกันหน้าจอแตก 1 ครั้ง ภายใน 2 ปีแรก)
ตั้งแต่วันนี้ ถึง 14 มี.ค. 67
จองได้แล้วที่ vivo Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
#vivoV30Pro5G#ถ่ายเทพเกินคน#PortraitSoPro #vivoครบรอบ10ปี
มือถือพัง เก็บเอาไว้ไม่ทิ้ง ระวังสารพิษไม่รู้ตัว! เพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยิ่งเสื่อมสภาพมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างสารพิษออกมาปนเปื้อนในอากาศที่เราสูดดมหรือสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น นิกเกิล ปรอท ตะกั่ว แคดเมียม ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพของเรา
รู้อย่างนี้แล้ว เลยอยากชวนให้ทิ้งขยะ E-Waste ให้ถูกที่ ได้ที่ศูนย์บริการ AIS Shop และจุดบริการที่ร่วมกับพันธมิตร กว่า 2,500 สาขา เพื่อสุขภาพ เพื่อโลกของเรา เช็กจุดรับทิ้งได้ที่ https://sustainability.ais.co.th/th/sustainability-projects/ais-ewaste/collection-channels
#AISewaste #Hubofwaste