ตัวอย่างภาพถ่ายในสภาพแสงต่าง ๆ
ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลัง
Portrait ระยะ Normal
Portrait ระยะ 2x
ในโหมด Portrait จะรองรับการถ่ายที่ระยะ Normal และ 2x โดยที่ระยะ 2x จะให้ฟิลลิ่งคล้าย ๆ กับระยะ 50mm บนกล้อง DSLR ซึ่งเป็นระยะยอดนิยมในการถ่ายภาพบุคคลนั่นเอง การที่ vivo V30 5G สามารถถ่าย Portrait ในระยะ 2x จึงมีความยืดหยุ่นและให้ความรู้สึกเสมือนถ่ายด้วยกล้องมืออาชีพอีกด้วย
ในส่วนของกล้องหลังมี Natural Portrait มาให้ใช้งานเช่นกัน
Portrait Style มีให้ใช้งาน 7 รูปแบบ
Beach Portrait
vivo V30 5G ร่วมออกแบบกับอินฟลูเอนเซอร์ระดับโลก ให้คุณสามารถถ่ายภาพพอร์ตเทรตบนชายหาดได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการปรับแต่งแบบแยกกันระหว่างใบหน้าและพื้นหลัง มาพร้อมฟิลเตอร์ โบเก้ เอฟเฟกต์ และ HDR ย้อนแสง
และมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้าทุกประการ
vivo V30 5G รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30 fps พร้อมระบบกันสั่นที่เลือกใช้งานได้ 2 แบบ (มาตรฐาน/ พิเศษ)
Micro Movie
ตอบโจทย์ครีเอเตอร์สาย Vlog กับการถ่ายทำระดับโปร
• สะดวกและรวดเร็วด้วยการเลือก template แบบเรียลไทม์
• เพิ่มความสามารถในการปรับแต่งภาพพอร์ตเทรต ไปจนถึงการแก้ไขวิดีโอเพื่อสาย Vlog โดยเฉพาะ
• ปรับปรุงโฟกัส แสง และสกินโทนสำหรับการถ่ายทำ
ไฮไลท์ Aura Light Portrait 3.0
Aura Light Portrait 3.0 มาพร้อมฟีเจอร์ Smart Color Temperature Adjustment ระบบปรับอุณหภูมิแสงอัจฉริยะที่ทำงานในโหมดอัตโนมัติ ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแสงออร่าให้เป็นโทนเย็นและโทนอุ่นได้หลายระดับตามความต้องการ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแสงในขณะนั้น
สำหรับวิธีเปิดใช้งาน Aura Light Portrait 3.0 แบบกำหนดค่าเอง ให้แตะที่สัญลักษณ์รูปแฟลชที่ด้านบนมุมซ้ายของจอแสดงผล หลังจากนั้นจะมีแถบเมนูในการเปิด/ปิดใช้งาน Aura Light Portrait 3.0 แสดงผลขึ้นมา ถัดลงมาด้านล่าง จะมีบาร์ที่ใช้ในการกำหนดรูปแบบของแสง โดยค่าเริ่มต้นจะเป็นแบบอัตโนมัติ ถ้าต้องการตั้งค่าเองให้แตะที่สัญลักษณ์รูปตัว A จากนั้นจะสามารถเลื่อนแถบบาร์ไปทางขวาเพื่อปรับเป็นอุณหภูมิเย็น และปรับมาซ้ายจะเป็นการเลือกอุณหภูมิอุ่น
ในสภาพแสงที่มีความหลากหลาย ตัว AI ก็จะคำนวนให้อย่างชาญฉลาด โดยบางครั้งจะเลือกอุณหภูมิแบบ Natural ที่อยู่ตรงกลางระหว่างโทนเย็นและโทนอุ่น ซึ่งบางครั้งจะเป็นไฟสีขาวที่ไม่สว่างจนเกินไป หรือบางครั้งก็จะเป็นไฟสีส้มอ่อน ๆ แต่ถ้าเป็นบรรยากาศในสภาพแสงที่มีโทนอุ่นมาก ๆ ไฟ Aura Light Portrait 3.0 ก็จะเป็นสีส้มเข้ม ซึ่งโทนแสงสีส้ม จะช่วยทำให้ใบหน้าและโทนสีผิวดูเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา
แสงออร่าใหม่
vivo V30 5G มาพร้อมไฟออร่าขนาดใหญ่ ให้แสงที่นุ่มนวลขึ้น ควบคู่ไปกับความสว่างที่เหมาะสม จึงช่วยให้ใบหน้าสว่าง ละมุนเป็นธรรมชาติ (ขนาดออร่าใหญ่ขึ้น 19 เท่า ↑ แสงออร่านุ่มนวลขึ้น 50 เท่า ↑)
AI Powered Photography
ระบบ AI อัจฉริยะ ช่วยแนะนำการเปิดใช้ออร่าตามสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพ
Far / Near Lighting
ตรวจจับระยะห่างแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณได้แสงออร่าที่สว่างอย่างเหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตในระยะใกล้และไกล
Smart Color Temperature Adjustment
ปรับโทนแสงออร่าให้เข้ากับสภาพแวดล้อมอย่างอัจฉริยะ ไม่ว่าจะแสงโทนอุ่นหรือโทนเย็น ช่วยให้ภาพพอร์ตเทรตดูสว่างและคมชัดอย่างธรรมชาติ
ในสภาพแสงที่ค่อนข้างคงที่ อย่างแสงไฟจากหลอด LED หรือ ฟลูออเรสเซนต์ โดยไม่มีแสงอันหลากหลายมาผสมปนกัน ในภาพรวมจะให้โทนที่เป็นสีขาว หรือจะบอกว่าเป็น Scene city ที่พบเจอกันได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน ตัว Aura Light Portrait 3.0 จะให้แสงแบบ Natural ที่อยู่ตรงกลางระหว่างโทนเย็นและโทนอุ่น โดยจากรูปชุดนี้จะเห็นได้ว่า ตัวแบบจะไม่สว่างจ้า หรือติดโทนแดง แต่จะให้ความสมจริง ดูละมุนและเป็นธรรมชาติไม่หลอกตา
นอกจากนี้ เรายังสามารถปรับค่าแสงแบบกำหนดค่าเองได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อให้ได้สกินโทนที่แตกต่างจากโหมดอัตโนมัติ ซึ่งจะได้โทนสีผิวในรูปแบบที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานได้มากที่สุด
นอกจากปัญหา White Balance ที่ส่งผลให้สีสันดูผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง อีกหนึ่งปัญหาก็คือ ambient light รวมถึงการสะท้อนของแสงจากวัตถุไปยังตัวแบบ โดยรูปทางซ้ายมือสีเหลืองของวัตถุจะสะท้อนลงมายังตัวแบบ ทำให้เกิดสีเพี้ยน
แต่จากรูปทางขวาที่ถ่ายด้วย vivo V30 5G พร้อมเปิดใช้งาน “Aura Light Portrait 3.0” จะให้สีสันที่ดูเป็นธรรมชาติและสมจริงกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน
Aura Light Portrait 3.0 สามารถใช้งานได้ทุกสภาพแสง รวมถึงในช่วงเวลากลางวันก็ตาม ซึ่งจากรูปตัวอย่างเป็นการถ่ายภาพย้อนแสงภายในอาคาร ถึงแม้จะมีโหมด HDR ที่ช่วยเปลี่ยนสภาพแสง แต่จากรูปทางซ้ายมือจะเห็นว่าใบหน้าของแบบมีความฟุ้งและติดโทนคล้ำ ส่วนรูปทางขวามือเปิดใช้งาน Aura Light Portrait 3.0 จะได้ความสว่างและภาพที่ดูมิติขึ้นมา ซึ่งสามารถนำไปใช้งานโดยไม่ต้องตกแต่งในภายหลังแต่อย่างใด
สำหรับแสงโทนอุ่นจากหลอดไฟไฟทังสเตน หรือไฟที่ให้แสงสีส้ม ระบบ Aura Light Portrait 3.0 จะปรับแสงออร่าเป็นโทนอุ่น เพื่อถ่ายภาพพอร์ตเทรตในบรรยากาศที่มีแสงสลัวในแบบโทนอุ่น ซึ่งโทนแสงสีส้ม จะช่วยทำให้ใบหน้าและโทนสีผิวดูเป็นธรรมชาติ
ปัญหาการถ่ายภาพในที่แสงน้อยมาก ๆ หรือในที่มืด สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ noise หรือสัญญาณรบกวนในภาพ ที่ทำให้ภาพดูดรอปทั้งในส่วนของรายละเอียดความคมชัดและความสว่าง ซึ่งในโหมดพอร์ตเทรตบนสมาร์ตโฟนเราจะไม่สามารถตั้งค่า ISO ได้เหมือนบนกล้องจริง ๆ
มาถึงตรงนี้เราจะเห็นได้ว่า “Aura Light Portrait 3.0” ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพบุคคลในยามค่ำคืนอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะแสงน้อยแค่ไหน vivo V30 5G ก็สามารถถ่ายพอร์ตเทรตได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการสร้างมิติของภาพ ดึงดีเทลที่ขาดหายให้กลับมา พร้อมมอบความสมดุลสมจริงให้กับภาพบุคคลที่ไม่สามารถพบเจอได้บนสมาร์ตโฟนทั่ว ๆ ไป
บทสรุป
vivo V30 5G มาพร้อมกับดีไซน์สวยโดดเด่น เพรียวบาง ไม่เหมือนใคร เสริมด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพที่ทันสมัย พร้อมอัปเกรด ‘Aura Light Portrait System’ เป็น Aura Light Portrait 3.0 โดยมีวงแหวนออร่าดีไซน์ใหม่ขนาดใหญ่ขึ้น ให้ความสว่างได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มมิติให้กับภาพถ่ายบุคคลให้โดดเด่น เก็บภาพทุกช่วงเวลาได้อย่างมีชีวิตชีวา
ซึ่งจากที่ได้ลองใช้งานมาสักพักใหญ่ ๆ การถ่ายภาพบุคคลด้วย vivo V30 5G ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลากลางวันหรือกลางคืน Aura Light Portrait 3.0 จะให้ผลลัพธ์ภาพพอร์ตเทรตคมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ รังสรรค์ภาพถ่ายที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมองศาไหน ก็สามารถทำให้ผู้ใช้งานประทับใจกับคุณภาพได้เสมอ
ในด้านสเปคก็มีการอัปเกรดเช่นกัน ทั้ง ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 3 ที่ทรงพลังขึ้นแต่ใช้พลังงานน้อยลง และยังรองรับการใช้งานเครือข่าย 5G แบบ dual mode SA&NSA / VoNR สามารถใช้งานได้ลื่นไหลด้วยเทคโนโลยี Extended RAM 3.0 ในแบบ 12GB+12GB บนระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 14 อีกทั้งยังให้ความจุพื้นที่เก็บข้อมูลในตัวเครื่องขนาดใหญ่ถึง 256GB และ 512GB
และพร้อมตอบทุกโจทย์ด้านความบันเทิงด้วยจอแสดงผล AMOLED 1.5K ขนาดใหญ่เต็มตา 6.78 นิ้ว ให้ความสมูทด้วยอัตราการรีเฟรช 120Hz เมื่อผสานกับแบตเตอรี่ 5000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว vivo FlashCharge 80W จึงสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน หากประทับใจกับ vivo V29 5G มาก่อน รับประกันได้เลยว่า vivo V30 5G ยังคงมาพร้อมจุดเด่นในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตดีที่สุดในตลาดอย่างแท้จริง
ราคาและช่องทางวางจำหน่าย
มีมือถือเครื่องใหม่แล้ว อย่าลืมนำมือถือเครื่องเก่ามาทิ้งให้ถูกที่เพื่อโลกที่ดีกว่าไปด้วยกันนะครับ #AISewaste #Hubofwaste
AIS ชวนทุกคนมาฝากทิ้ง E-Waste หรือมือถือเก่า ที่ AIS Shop และจุดรับทิ้งกว่า 2,500 จุดทั่วประเทศ เช็กจุดรับทิ้งได้ที่ https://sustainability.ais.co.th/th/sustainability-projects/ais-ewaste/collection-channels