ทดสอบถ่ายภาพบุคคลด้วยกล้องหลัง


Auto mode

Auto Mode

Auto Mode + เปิดใช้งานเลนส์ bokeh
Portrait light effect


สำหรับกล้องหลังมี Portrait light effect มาให้ใช้งานเหมือนกล้องหน้าเช่นกัน โดยประกอบไปด้วย Studio light, Stereo light, Loop light, Rainbow light, Monochrome background

และมีฟิลเตอร์มาให้ใช้งานอย่างจุใจถึง 19 รูปแบบเหมือนกล้องหน้าทุกประการ

Portrait mode

Portrait + Beauty

Portrait + Beauty
สำหรับโหมด Portrait ของกล้องหลัง จะมี Style มาให้ใช้งาน 9 รูปแบบ ประกอบไปด้วย

Natural, Vintage, Northland

Fashion, Sumer Party, Japanese Style

Monochrome, Silver salt, Wet
Portrait bokeh

ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกการตั้งค่ารูรับแสงหรือค่า f ได้เองตั้งแต่ f/0.95 – 16 เพื่อกำหนดค่าความเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ

f/0.95 – f/1.4 – f/2.0

f/2.8 – f/4.0 – f/5.6

f/8.0 – f/11 – f/16
Portrait Bokeh Effect

Default, Circle, Heart

Triangle, Stars, Pentagon
โหมด Portrait ของกล้องหลังสามารถเลือกใช้เอฟเฟกต์ของโบเก้ได้อีก 6 รูปแบบ โดยจะให้รูปทรงของโบเก้ที่มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็คล้ายกับโบเก้จากเลนส์แต่ละค่ายที่มีความหลากหลายเป็นเอกลักษณ์นั่นเอง
Vivo V20 มาพร้อม AI Super Night เวอร์ชั่นล่าสุด ทำให้ภาพถ่ายกลางคืนมีความสว่างเก็บดีเทลและลดน้อยส์หรือสัญญาณรบกวนได้ดียิ่งขึ้น

Auto Mode

Portrait Mode + Beauty

Night Mode
นอกจากนี้ ใน Night Mode ยังรองรับการถ่ายภาพมุมกว้าง และมี Style มาให้ใช้งานอีก 4 รูปแบบ ประกอบด้วย

Black& gold – Blue ice

Green orange – Cyberpunk
จากนี้ไปรับชมรูปจากกล้องหลังในสภาพแสงต่าง ๆ กันต่อครับ













สรุป Vivo V20
Vivo V20 ยังคงต่อยอดความสำเร็จมาจากรุ่นพี่ V20 Pro 5G เกือบครบถ้วน ทั้งเรื่องของดีไซน์ ที่มาพร้อมทั้งความพรีเมี่ยมและความสดใส ส่วนกล้องหน้า/หลังนั้นไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยเทคโนโลยีโฟกัสดวงตา จึงช่วยให้การถ่ายภาพบุคคลได้แม่นยำสวยงามขึ้นแบบสัมผัสได้ และต้องบอกเลยว่ารอบนี้ Vivo จูน Software มาได้ดีมาก ๆ ส่งผลให้สามารถแสดงศักยภาพของตัว Hardware กล้อง ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับภาพรวมถือว่ายังคงความเป็นซีรีส์ V ที่ตอบทุกโจทย์การใช้งานไว้ได้อย่างน่าประทับใจ ส่วนสิ่งที่ดูจะยังขาดไปคงเป็นเรื่องการรองรับ 5G แต่ก็ไม่ได้มีผลหรือนัยที่สำคัญต่อการใช้งาน ณ ปัจจุบันสักเท่าไหร่ และถึงแม้ว่าในช่วงหลัง ๆ บางค่ายจะออกมาเล่นเรื่องการอัดสเปค หรือทำราคาต่ำ ๆ กว่าคู่แข่งในเรทเดียวกัน แต่ถ้ามองในแง่ของ Brand loyalty , ศูนย์บริการ คุณภาพของตัวสินค้าและ Softwar ที่เสถียรแทบไม่พบปัญหากวนใจ เชื่อว่าแฟน ๆ จะพร้อมให้การต้อนรับ Vivo V20 อย่างแน่นอน

Vivo V20 พร้อมวางจำหน่ายในราคาเพียง 11,999 บาท มีสองสีให้เลือกใช้งาน Midnight Jazz, Sunset Melody และเริ่มเปิดให้พรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 63 – 22 ต.ค. 63 พิเศษสำหรับลูกค้าที่พรีออเดอร์ รับฟรี! กระเป๋า Duffle Bag และ VIP Card ประกันหน้าจอแตก และขยายเวลารับประกันตัวเครื่อง 1 ปี สามารถจับจองเป็นเจ้าของ Vivo V20 ได้ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ