ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์
สัมผัสประสบการณ์ลื่นไหลกว่าเดิมด้วย Funtouch OS 13 บนพื้นฐานของ Android 13 เวอร์ชันใหม่ล่าสุด โดยระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 13 นำเสนอชุดไอคอนและวิดเจ็ตใหม่ที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะแสดงแอปพลิเคชันที่ใช้เป็นประจำ และยังช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานโดยที่ไม่ต้องกดเปิดแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนธีม หรือภาพพื้นหลังรวมถึงรูปแบบตัวอักษรได้ตามสไตล์การใช้งาน พร้อมทั้งตั้งค่ารูปแบบ Home Screen ได้ตามไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบ และยังสติกเกอร์ที่สามารถแสดงการบันทึก เตือนความจำ คำคมสร้างแรงบันดาลใจ และอีกมากมาย เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่พลาดข้อมูลสำคัญอีกต่อไป อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งสี และรูปภาพพื้นหลัง เพื่อทำให้หน้าจอหลักดูมีเอกลักษณ์และตอบโจทย์การใช้งานในสไตล์ของตนเองได้อย่างลงตัว
และผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งรูปแบบสไตล์ของหน้าจอในภาพรวม ทั้งในส่วนของสี UI, วิดเจ็ต, ไอคอน และส่วนอื่น ๆ ได้อย่างยืดหยุ่นและตรงกับสไตล์ของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
Jovi Home อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงเมนูลัดต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกคล่องตัว
เมื่อเลื่อนหน้าจอจากด้านซ้ายไปยังด้านขวาของหน้าโฮมเพจ จะเข้าสู่ Jovi Home ซึ่งเป็นหน้าหลักที่รวบรวมแอปพลิเคชันทั้งหมดไว้ด้วยกัน พร้อมการออกแบบสไตล์การ์ดที่ใช้งานง่าย โดยมีไฮไลท์ที่น่าสนใจดังนี้
Shortcuts – ทางลัดที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง แอปพลิเคชันการล้างพื้นที่เครื่อง เครื่องคิดเลข ล็อกแอปพลิเคชัน และอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
Suggestions – คำแนะนำที่สามารถแจ้งเตือนอัจฉริยะสำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่นเวลาพักผ่อน และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
My Services – สามารถปรับแต่งตามความสนใจของคุณ เช่น เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬา ข้อมูลด้านสุขภาพ การออกกำลังกาย หรือคำแนะนำเกี่ยวกับการดื่มน้ำ และการพยากรณ์อากาศ
vivo V29 5G มาพร้อมฟีเจอร์ด้าน Network และการโทรที่มีความโดดเด่นด้วยการรองรับเทคโนโลยี 5G ในแบบ dual mode SA & NSA / VoNR และรองรับ 5G+5G dual SIM standby รวมไปถึงยังรองรับการโทรผ่าน Wi-Fi และ Dual VoLTE ที่สามารถเปิด VoLTE ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม ทำให้การโทรผ่านสัญญาณที่มีความเร็วสูง มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบรื่นอีกด้วย
vivo V29 5G ยังคงมาพร้อมฟีเจอร์เด่นที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างคล่องตัว อาทิ โหมดใช้งานมือเดียวและการจับภาพหน้าจอที่มีความหลากหลาย, แอปฯโคลน ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชันโซเชียลยอดนิยม เช่น Line, Facebook หรือ Instagram ฯลฯ ได้พร้อม ๆ กันถึง 2 แอคเคาท์ในเครื่องเดียว
Picture-in-Picture ฟีเจอร์ยอดนิยมที่มีมาให้ใช้งานอย่างยาวนาน ก็คือโหมดการแบ่งหน้าต่างเพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชันไปพร้อม ๆ กัน เช่นแชทไปด้วยพร้อมดู YouTube ในขณะเดียวกัน ฟีเจอร์นี้จึงช่วยให้การทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างไร้กังวลมากขึ้น ด้านความปลอดภัย
ด้านความปลอดภัย
ฟีเจอร์ในด้านความปลอดภัยก็ให้มาอย่างครบถ้วน โดย vivo V29 5G รองรับฟีเจอร์ความปลอดภัยในระดับ Hardware ด้วย Biometric อันล้ำสมัยจาก “นวัตกรรม In-Display Fingerprint Scanning” หรือการฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ภายในจอแสดงผล และในเจนเนอเรชั่นล่าสุดมีการอัพเกรดตัวเซนเซอร์ใหม่แบบ 3 ชิ้นเลนส์ จึงส่งผลให้การทำงานมีความรวดเร็วแม่นยำที่ดีมากยิ่งขึ้น
สำหรับฟีเจอร์ In-Display Fingerprint Scanning บน vivo V29 5G รองรับการบันทึกลายนิ้วมือได้สูงสุดที่ 5 ลายนิ้ว และนอกจากนี้ยังมี Effect ในขณะปลดล็อกหน้าจอที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 8 รูปแบบ รวมถึงสามารถเปลี่ยนไอคอนที่แสดงบนหน้าจอได้อีก 7 รูป ซึ่งจะช่วยเสริมให้ขณะใช้งานดูมีความน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ส่วนระบบ Face Unlock บน vivo V29 5G มีความรวดเร็วแม่นยำไม่แพ้ระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือ และยังสามารถทำงานได้ดีแม้ในที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้โดยไม่มีปัญหา และมี Effect ในขณะปลดล็อกหน้าจอที่เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 5 รูปแบบ อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือได้เป็นอย่างดี ทำให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการปลดล็อกที่ผสานทั้ง 2 ระบบเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
ด้านความปลอดภัยในฝั่ง software ก็ถือว่าโดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะสามารถทำงานในลักษณะ Hybrid ที่ผสานระหว่างตัว Hardware กับ software เข้าด้วยกันอย่างชาญฉลาด เช่นการปกป้องข้อมูลส่วนตัว ทั้งข้อมูลส่วนตัวการเข้ารหัสแอปฯ ตู้เซฟไฟล์ การล็อกซิมการ์ด และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถปรับตั้งค่าได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้ผู้ใช้งานอุ่นใจและมีความปลอดภัยสูงสุด และยังเพิ่มการป้องกันอีกขั้นสำหรับโทรศัพท์ของผู้ใช้งาน โดยเมื่อตั้งค่ารหัสผ่านเพื่อปลดล็อกโทรศัพท์ จะต้องป้อนรหัสผ่านเพื่อปิด ซึ่งวิธีนี้จะป้องกันไม่ให้โทรศัพท์ที่ถูกขโมยของคุณถูกปิด เพิ่มโอกาสในการค้นหาโทรศัพท์ให้ได้กลับคืนมามากขึ้น
ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย ด้วยผู้ช่วยอัจฉริยะ iManager ที่มาพร้อมความสามารถครบครัน สามารถตรวจสอบความปลอดภัยสมาร์ตโฟนของคุณทั้งสแกนไวรัส และระบุไฟล์ที่เป็นอันตรายต่อสมาร์ตโฟน รวมทั้งยังมาพร้อมความสามารถอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลบไฟล์ขยะ, ระบายความร้อน, สำรองข้อมูล, และจัดการด้านพลังงานเป็นต้น
Multi-Turbo
vivo V29 5G จะพาผู้ใช้งานไปสัมผัสประสบการณ์ความรวดเร็วในการเล่นเกมด้วย Multi-Turbo เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มอบความเร็วในการทำงานของหน่วยประมวลผล และช่วยประหยัดพลังงาน ได้อีกทางหนึ่งด้วย
Ultra-Game Mode มาพร้อมเวอร์ชันใหม่ล่าสุด ซึ่งได้ถูกออกแบบมาเพื่อความสนุกในการเล่นเกมขั้นสุด ซึ่งสามารถเลือกการทำงานได้ถึงสามโหมดตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นโหมดประหยัดแบตเตอรี่ โหมดสมดุล และโหมดประสิทธิภาพที่สามารถรีดประสิทธิภาพออกมาได้แบบเต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังสามารถเล่น E-sports ได้อย่างมืออาชีพโดยใช้ Competition Mode เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น และ นอกจากนี้ยังช่วยให้การเล่นเกมมีความต่อเนื่องไร้การรบกวนจากแจ้งเตือนข้อความและการแจ้งเตือนแอปพลิเคชันอื่น ๆ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพแบบสัมผัสเพื่อป้องกันการจับภาพหน้าจอในขณะเล่นเกมที่เกิดจากการสัมผัสโดยไม่ได้ตั้งใจ
รวมถึงยังอัพเกรดฟีเจอร์เด่น ๆ ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น อาทิเช่น 4D Game Vibration ระบบสั่น 4 มิติ ที่ช่วยเพิ่มความสมจริงในเกม FPS , เอฟเฟ็กต์เครื่องเปลี่ยนเสียง, Game Picture-in-Picture, Do Not Disturb, Esports Mode เป็นต้น
vivo V29 5G แม้จะมีดีไซน์ที่บางเบา แต่ก็ให้แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4600mAh เมื่อผสานกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 778G บนสถาปัตยกรรม 6 nm ที่ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น ในขณะที่ใช้พลังงานลดลง และยังมาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน จึงส่งผลให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานกว่าที่เคย มอบความเพลิดเพลินกับการใช้งานได้ตลอดวัน
ส่วนถ้าใครเน้นเล่นเกมหรือใช้งานหนัก ๆ ตลอดทั้งวัน ก็ไม่ต้องซีเรียสแต่อย่างใดเพราะ vivo V29 5G รองรับชาร์จไวด้วยเทคโนโลยี FlashCharge 80W ไม่ว่าจะถ่ายรูป ฟังเพลงหรือเล่นเกม ก็พร้อมรองรับการใช้งานได้ตลอดเวลา
มัลติมีเดียและความบันเทิง
Music Player บน vivo V29 5G มาพร้อมจุดเด่นด้าน Software ด้วยฟีเจอร์การเล่นเพลงที่ครอบคลุม รวมถึงยังมี DeepField เอฟเฟ็กต์เสียงที่พัฒนาโดย vivo ทำให้การถ่ายทอดเสียงที่ได้มีความนุ่มลึก คมชัดใสเคลียร์ รองรับการจำลองระบบเสียงรอบทิศทาง 360 องศา อีกทั้งยังปรับแต่งเสียงผ่าน EQ ได้ยืดหยุ่นและตรงใจผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
สำหรับ Video Player บน vivo V29 5G รองรับการเล่นไฟล์วิดีโอความละเอียด 4K ได้อย่างไหลลื่น และยังมีฟีเจอร์ช่วยอำนวยความสะดวกมาให้ใช้งานครบครัน เช่นการเชื่อมต่อ DLNA, การจับภาพหน้าจอ, ปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น
ทดสอบการเล่นเกม
vivo V29 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างน่าประทับใจ โดยมี Game Boost Mode ที่ออกแบบมาเพื่อปลดปล่อยพลังของโปรเซสเซอร์ Octa-core (1×2.4 GHz Cortex-A78 & 3×2.2 GHz Cortex-A78 & 4×1.9 GHz Cortex-A55) ผสานด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 642L จึงพร้อมมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่มีประสิทธิภาพอย่างก้าวกระโดด
vivo V29 5G สามารถตั้งค่ากราฟิกของตัวเกมในระดับสูงสุดได้เกือบทุกเกม เมื่อลองทดสอบเกมยอดนิยมอย่าง PUBG, ROV, Asphalt 9 ไม่พบอาการหน่วงหรือสะดุดให้เห็น แต่เมื่อลอง Genshin Impact ในช่วงตะลุมบอนหมู่ ศัตรูมาเยอะ ๆ ก็เจอหนืด ๆ บ้างเล็กน้อย แต่ในภาพรวมเล่นได้ทุกเกมแบบตั้งค่าสูงสุด แถมยังไม่ร้อนอีกด้วยเพราะ vivo V29 5G มาพร้อมระบบระบายความร้อน VC Bionic ขนาดใหญ่พิเศษ
ไม่ว่าจะเล่นเกม ไลฟ์สตรีมมิ่ง หรือถ่ายวิดีโอ ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber Bionic ขนาดใหญ่พิเศษบน vivo V29 5G จะช่วยลดความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อผสานด้วย Firmware ที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดี รวมถึงฟีเจอร์ Game Boost Mode ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เหมาะสมกับการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถสนุกไปกับการเล่นเกมที่เร็วขึ้นและความบันเทิงที่สมจริงยิ่งกว่าเดิม