หลังจากที่โซนี่เปิดตัว Sony WF-C500 หูฟังไร้สาย True Wireless รุ่นล่าสุดไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุดหูฟังไร้สายขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย สีสันสวย สวมใส่สบาย และกันน้ำได้ได้วางจำหน่ายในบ้านเราเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทางทีมงาน MobileOcta ก็ได้หูฟังไร้สายรุ่นใหม่นี้มาอยู่ในมือแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลามาชมรีวิวกันเลยครับ
สเปกเบื้องต้น Sony WF-C500
- หูฟังน้ำหนักประมาณ 5.4 กรัม x 2
- เคสชาร์จน้ำหนักประมาณ 35 กรัม
- ไดรเวอร์ยูนิต 5.8 มม.
- DSEE (Digital Sound Enhancement Engine) คืนค่าเสียงความถี่สูงให้กับไฟล์เพลงดิจิตอล
- รองรับ 360 Reality Audio
- รองรับ Google Assistant และ Siri
- ปรับตั้งค่า Equalizer และ Bass Boost ผ่านแอปพลิเคชัน Sony Headphones Connect
- กันน้ำ IPX4
- แบตเตอรี่ เล่นเพลงต่อเนื่องนานสูงสุด 10 ชม., สนทนาต่อเนื่องนานสูงสุด 5 ชม.
- ระบบ Quick Charge ชาร์จไฟ 10 นาที ใช้งานต่อเนื่องได้นาน 60 นาที
- Bluetooth 5.0
- มี 4 สี ได้แก่ สีส้ม, สีขาว, สีเขียว และสีดำ
- ราคา 3,490 บาท
อุปกรณ์ภายในกล่อง
โซนี่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยไม่มีส่วนประกอบของพลาสติกเลย ทั้งนี้เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ส่วนอุปกรณ์ภายในกล่องมีดังนี้
- หูฟังไร้สาย Sony WF-C500
- กล่องชาร์จ
- จุกหูฟัง Ear tips (ขนาดเล็ก, กลาง และใหญ่)
- สายชาร์จ USB Type-C
- คู่มือการใช้งานฉบับย่อ
- ใบรับประกัน
รูปลักษณ์ดีไซน์
Sony WF-C500 ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา สวมใส่ได้กระชับหู ด้วยรูปทรงโค้งมนแบบไร้ขอบช่วยให้สวมใส่ได้สะดวก รวมถึงการออกแบบตามหลักสรรีศาสตร์ ช่วยให้กระชับ และสบายยิ่งขึ้น และยังมีเทคโนโลยีป้องกันน้ำตามมาตรฐาน IPX4 ช่วยป้องกันความเปียกชื้นของเหงื่อในขณะทำกิจกรรมหรือออกกำลังกาย
มาพร้อมกล่องชาร์จทรงกระบอกที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด สะดวกต่อการพกพาไปได้ทุกที่ ฝาปิดโปร่งแสงที่มีพื้นผิวเหมือนกระจกฝ้าทำให้เคสมีรูปลักษณ์ที่หรูหรา และมีสไตล์ยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยมีสีมาให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Black, White, Mint Green, Coral Pink ซึ่งสีที่ทางทีมงาน MobileOcta ได้มารีวิวคือ Coral Pink
เมื่อเปิดตัวกล่องชาร์จออกมาจะเห็นตัวหูฟังอยู่ด้านใน โดยหูฟังแต่ละข้างเป็นแบบ In-Ear มีน้ำหนักเบาเพียง 5.4 กรัม ด้านนอกเป็นปุ่มกดสำหรับสั่งงานต่างๆ โดยแบ่งการทำงานแยกซ้ายและขวา (เมื่อใช้งานพร้อมกัน) พร้อมไฟ LED บอกสถานะขนาดเล็กวางและรูไมโครโฟนวางอยู่ ด้านในจะเป็นจุดทองเหลืองสำหรับชาร์จไฟกับทางเคสชาร์จ พร้อมกับแบ่งสีสัญลักษณ์ L และ R คนละสี เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
คุณสมบัติการใช้งาน
Sony WF-C500 มาพร้อมกับไดรว์เวอร์ขนาด 5.8 มม. ให้เสียงคุณภาพสูงด้วย DSEE™ (Digital Sound Enhancement Engine) ที่จะช่วยคืนค่าเสียงความถี่สูงให้กับไฟล์เพลงดิจิตอลที่กำลังรับฟัง เพื่อสร้างประสบการณ์ในการฟังเพลงที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น ซึ่งสามารถเปิดการใช้งานได้จากแอปพลิเคชัน Sony Headphones Connect
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบเสียง 360 Reality Audio ที่จะช่วยปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับรูปร่างและขนาดของหูผู้ใช้แต่ละบุคคล เพื่อให้เสียงที่สมจริงรอบทิศทางเหมือนอยู่ในคอนเสิร์ตหรือสตูดิโอบันทึกเสียง แต่การใช้งานจะต้องฟังจากแอปพลิเคชันที่รองรับและทำการวิเคราะห์รูปทรงของใบหูจากแอปพลิเคชัน Sony Headphones Connect ก่อน
ภายในแอปพลิเคชัน Sony Headphones Connect ยังมีการเก็บข้อมูลการใช้งานหูฟังในแต่ละวันว่าใช้งานไปนานเท่าไรแล้ว และยังมี Badge ให้สะสมกันสนุกๆ อีก โดยจะปลดล็อคด้วยการใช้งานหูฟังนั่นเอง
หูฟังไร้สาย Sony WF-C500 มาพร้อมกับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 จะเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนโดยตรงทั้ง 2 ข้าง จะไม่ใช่รูปแบบรับสัญญาณมา 1 ข้างแล้วค่อยเชื่อมต่อระหว่างหูฟังกันเอง ซึ่งการเชื่อมต่อโดยตรงกับสมาร์ตโฟนทั้ง 2 ข้างนั้นจะทำให้การเชื่อมต่อจะมีเสถียรภาพ และมีความหน่วงของเสียงที่ต่ำ อีกทั้งยังเชื่อมต่อได้ง่ายและรวดเร็วมากๆ
และถ้าใครใช้งานกับสมาร์ตโฟน Android ก็ยังรองรับ Fast Pair ที่เป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Google ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว ตัวหูฟังจะสามารถจับคู่บลูทูธกับอุปกรณ์ Android ได้ทันที และยังแจ้งปริมาณแบตเตอรี่ให้ทราบอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมาพร้อมกับ Swift Pair ที่จะช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อบลูทูธบนอุปกรณ์ Windows 10 ได้เป็นอย่างดี
แบตเตอรี่
Sony WF-C500 มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง สามารถชาร์จผ่านเคสได้เพิ่มอีก 10 ชั่วโมง ทำให้สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีระบบ Quick Charge ชาร์จหูฟังผ่านเคสเพียง 10 นาที สามารถใช้งานฟังเพลงต่อเนื่องได้อีก 60 นาที ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้เรากลับมาเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
ส่วนการชาร์จไฟให้กับกล่องชาร์จ สามารถชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ที่ด้านหลังเคส ซึ่งสามารถใช้สายที่แถมมาในกล่องเพื่อนำไปชาร์จไฟกับอะแดปเตอร์ต่างๆ หรือจะใช้สาย USB-C ทั่วไปที่ชาร์จไฟให้กับสมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ตมาใช้ชาร์จได้เช่นกัน
ทดสอบใช้งาน
หูฟังไร้สาย Sony WF-C500 มาพร้อมกับปุ่มควบคุมบนหูฟังทั้ง 2 ข้าง เพื่อใช้งานสำหรับควบคุมระหว่างสวมหูฟัง รวมถึงการเรียกใช้งานผู้ช่วยดิจิตอลอย่าง Google Assistant หรือ Siri โดยรองรับคำสั่งต่อไปนี้
หูฟังข้างซ้าย
- กด 1 ครั้ง เพิ่มเสียง / รับสาย / วางสาย
- กดค้างไว้ ลดเสียง / ปฏิเสธสายโทรเข้า
หูฟังข้างขวา
- กด 1 ครั้ง เพื่อเล่นเพลง / หยุดเล่นชั่วคราว / รับสาย / วางสาย
- กด 2 ครั้ง เพื่อเล่นเพลงถัดไป
- กด 3 ครั้ง เพื่อเล่นเพลงก่อนหน้า
- แตะค้างไว้ เพื่อเรียกใช้งานผู้ช่วยดิจิตอล / ปฏิเสธสายโทรเข้า
การเรียกใช้ผู้ช่วยดิจิทัล Google Assistant หรือ Siri จะทำให้สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งปลุก, เพิ่มนัดหมาย, เล่นเพลง, ส่งข้อความ และการสนทนาด้วยการโทรแบบแฮนด์ฟรี สามารถให้เสียงที่ชัดเจนด้วยไมโครโฟนคุณภาพสูงที่มีอยู่ในตัวหูฟังได้อย่างดีเยี่ยมและช่วยให้คุณได้ยินเสียงคู่สนทนาได้ชัดเจน
สามารถตั้งค่าปรับแต่งเสียง Equalizer ได้จากแอปพลิเคชั่น Sony Headphones Connect โดยเลือกการตั้งค่าจาก Preset ที่มาในแอปพลิเคชันอยู่หรือปรับตั้งค่าตามความต้องการเพื่อให้ตรงกับคุณภาพเสียงและแนวเพลงที่ชื่นชอบได้ รวมถึงสามารถสร้างและบันทึกการตั้งค่าเพื่อใช้งานในครั้งต่อไปได้
บทสรุป
Sony WF-C500 ถือเป็นหูฟังไร้สาย True Wireless ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก และมีหลากสีสันสดใสให้เลือกใช้งาน ด้วยรูปทรงโค้งมนแบบไร้ขอบช่วยให้สวมใส่ได้สะดวก รวมถึงการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยให้กระชับเข้ากับใบหู และสบายยิ่งขึ้น และยังมีมาตรฐานกันน้ำ IPX4 ที่ทำให้เราสามารถสวมใส่หูฟังออกไปเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ WF-C500 ยังได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษด้วยปุ่มควบคุมบนหูฟัง ที่ไม่เพียงแค่เล่นเพลง, หยุดเพลง, ข้ามเพลง หรือปรับระดับเสียงเพลง แต่ยังสามารถเข้าถึงระบบสั่งงานด้วยเสียงได้อย่างง่ายดายด้วย รวมถึงเชื่อมต่อง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งยังให้เสียงคุณภาพสูงด้วย DSEE™ (Digital Sound Enhancement Engine) สามารถปรับแต่งเสียงได้เองตามใจชอบ และและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน
ทั้งนี้ หูฟังไร้สาย Sony WF-C500 มีให้เลือก 4 สีคือ สีดำ (Black) สีขาว (White) สีเขียวมินท์ (Mint Green) และสีส้ม (Coral Pink) ราคา 3,490 บาท วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่โชว์รูม โซนี่ สโตร์ ทุกสาขา ร้านโซนี่ เซ็นเตอร์ และร้านตัวแทนจำหน่ายของโซนี่