สวัสดีครับกลับมาพบกับรีวิวอุปกรณ์ Gadget IT ล้ำๆ กับ MobileOcta กันอีกครั้งนะครับ วันนี้เรามีหูฟังไร้สายดีไซน์ใหม่ ไม่ซ้ำใครจากที่ก่อนนี้เราได้ Sony SRS-NB10 ซึ่งเป็นหูฟังแบบคล้องคอมารีวิวกันแล้ว วันนี้เรายังมีอีกรุ่นอย่าง Sony LinkBuds ซึ่งเป็นหูฟังบลูทูธแบบ in-ears ที่ถูกคิดค้นด้วยคอนเซ็ปต์ Never Off หรือใส่ได้ตลอดทั้งวัน 24 ชั่วโมงแบบไม่รู้สึกอึดอัด
โดยหูฟังรุ่นนี้จะมีดีไซน์ที่ดูเผินๆ ไม่เหมือนกับหูฟังทั่วไป คือเป็นหูฟัง TWS แบบ Open-Back หูฟังแบบเปิดโล่ง ซึ่งดีไซน์แบบนี้ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ถูกใช้กับหูฟังมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ซะมากกว่า ใส่แล้วทำให้อากาศสามารถไหลผ่านหูฟังได้ ซึ่งจุดเด่นของหูฟังสไตล์นี้จะทำให้ได้เสียงเพลงที่โปร่ง ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
แต่ Sony เหมือนอยากลองไอเดียใหม่ๆ ที่ทำให้การใส่หูฟัง TWS นอกจากจะได้ยินเสียงเพลงที่ไพเราะแล้ว ยังสามารถได้ยินเสียงรอบตัวได้ชัดเจนอีกด้วย ซึ่งเป็นแนวทางที่แตกต่างจากผู้ผลิตหูฟังส่วนใหญ่ในตลาดที่ตอนนี้กำลังนิยมทำหูฟัง Active Noise-Cancellation (หรืออาจเป็นเพราะ Sony เป็นผู้นำด้าน ANC อยู่แล้ว เลยอยากทำอะไรที่แหวกแนวบ้างก็เป็นได้)
บอกไว้ก่อนเลยครับว่าหูฟังบลูทูธ Sony LinkBuds นี้มีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 6,990 บาท แต่การใช้งานจริงจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกันในรีวิวได้เลยครับ
แกะกล่อง Sony LinkBuds
- หูฟัง Sony LinkBuds
- เคสหูฟังสำหรับชาร์จและเก็บหูฟัง
- ตัวยึดหูฟัง 5 ขนาดให้เลือกแตกต่างกัน
- สายชาร์จ USB-C แบบสั้น
- คู่มือและใบรับประกันต่างๆ
สเปคหูฟัง Sony LinkBuds
- น้ำหนัก : 4.1 กรัมต่อข้าง
- ไดร์เวอร์เสียง : ขนาด 12 มม.
- ประเภทหูฟัง : หูฟังแบบเปิด Open-Back รองรับ DSEE
- การตอบสนองความถี่ : 20Hz-20,000Hz
- ป้องกันน้ำ : IPX4
- แบตเตอรี่ : ฟังเพลงต่อเนื่องได้ประมาณ 5.5 ชั่วโมง, ถ้ารวมแบตจากเคสจะได้ประมาณ 17 ชั่วโมง
- Bluetooth : เวอร์ชั่น 5.2 ระยะการเชื่อมต่อประมาณ 10 เมตร, A2DP, AVRCP, HFP, HSP, รูปแบบเสียงที่สนับสนุน SBC, AAC
- สีให้เลือก : สีขาว, สีเทา (ตัวที่ได้มารีวิว)
Design การออกแบบ
หูฟัง Sony LinkBuds หูฟังดีไซน์สวยแปลกตานี้ จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สีครับ คือสีขาว และสีเทาเข้มที่เราได้มารีวิวตามภาพเลยครับ ซึ่งวัสดุส่วนใหญ่ของหูฟังจะผลิตจากพลาสติก recycle จากชิ้นส่วนรถยนต์ ทำให้ผู้ใช้หูฟังตัวนี้ ก็เหมือนช่วยรักษ์โลกไปในตัวเพื่อสิ่งแวดล้อม
ดีไซน์การออกแบบถือว่าแหวกแนวไม่เหมือนใครแน่นอน เหมือนมีก้อนวงกลมสองวงติดกัน ก้อนแรกเหมือนเป็นโดนัทใช้เป็นส่วนของลำโพง สอดเข้าไปในหูเรามากกว่าอีกวง ตรงกลางจะมีช่องสำหรับให้อากาศไหลถ่ายเทภายในหูของเราได้ ซึ่งจุดนี้ล่ะครับที่เรียกว่า Open-Back โดยจะยึดอยู่กับก้อนวงกลมอีกก้อนที่ใช้สำหรับเก็บชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ อีกวงครับ และสุดท้ายจะเป็นส่วนของตัวยึดหูฟัง ซึ่งจะทำหน้าที่ในการให้ตัวหูฟังใส่แน่นขึ้น และมีขนาดให้เลือกถึง 5 ขนาด ใครที่ใส่ตัวยึดที่ติดตั้งมากับหูฟังแล้วรู้สึกใส่ไม่ถนัด หรือไม่สบายหู ก็สามารถเปลี่ยนขนาดที่เหมาะสมกับตัวเองได้ครับ
และแม้ว่าจะมีดีไซน์ที่แปลกตาแบบนี้ แต่พอใช้งานจริงกลับรู้สึกใส่สบายมากครับ พอดีกับช่องหูของเรา น่าจะเป็นเพราะถูกออกแบบมาตามหลักสรีระศาสตร์ของหูเราเลยครับ รู้สึกกระชับ และมีน้ำหนักเบา ทำให้ใส่นานก็ไม่รู้สึกอึดอัด และน้ำหนักต่อข้างแค่ประมาณ 4 กรัม ดังนั้นบางครั้งรู้สึกลืมไปเลยครับว่าใส่หูฟังอยู่
ส่วนดีไซน์การออกแบบของเคส ถือว่ามีขนาดเล็กมากทีเดียว ทำให้สะดวกต่อการพกพา ไม่เกะกะแน่นอน มีขนาดประมาณ 41.4 x 48.5 x 30.9 มม. เท่านั้น เทียบกับเคสหูฟังส่วนใหญ่จะถือว่าเล็กมากทีเดียวครับ
ที่ด้านหลังเคสจะมีปุ่มสำหรับจับคู่ Pairing หูฟัง และพอร์ต USB-C ครับ และเคสไม่รองรับการชาร์จไร้สายครับ
Performance ประสิทธิภาพการใช้งาน
Sony LinkBuds มาพร้อมกับชิปประมวลผล Sony Integrated Processor V1 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตรุ่นเดียวกับที่ใช้อยู่ในหูฟัง TWS รุ่นท็อปอย่าง Sony WH-1000XM4 ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเสียงชั้นนำมากมายครับ เช่น DSEE หรือ Digital Sound Enhancement Engine ที่ช่วยยกระดับคุณภาพเสียงที่ถูกบีบอัด ทำให้สูญเสียรายละเอียดและความสมบูรณ์ของแทร็ก เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่สมบูรณ์ ใกล้เคียงกับเสียงบันทึกต้นฉบับมากที่สุดครับ แต่อย่างไรก็ตาม หูฟังตัวนี้ไม่รองรับ Codec LDAC คุณภาพสูงของ Sony ครับ
ด้านการควบคุมหูฟังจะใช้การแตะบริเวณหูฟังครับ โดย Sony เรียกระบบนี้ว่า Wide Area Tap ซึ่งใช้การแตะ 2-3 ครั้งบริเวณด้านหน้าหูฟังข้างใดข้างหนึ่งเพื่อควบคุมการเล่นเพลงครับ สังเกตจากภาพจะใช้การแตะใกล้ๆ ใบหู ไม่ใช่การแตะหูฟัง ดังนั้นการที่ตัวหูฟังมีขนาดเล็ก ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปครับ (แตะบริเวณนิ้วชี้ในภาพด้านล่าง)
และเห็นเป็นหูฟังไซส์เล็กๆ แบบนี้ อาจคิดว่าไมค์อยู่ไกลปาก แล้วเสียงสนทนาจะชัดหรือไม่ ตรงนี้เราทดสอบมาให้แล้วครับ เพราะหูฟัง Sony LinkBuds มาพร้อมไมค์ที่เก็บเสียงพูดของผู้ใส่ได้ดีมากครับ แถมมีระบบตัดเสียงรบกวนขณะคุยโทรศัพท์ ทำให้สามารถคุยชัดทั้งต้นสาย และปลายสายเลยครับ ไม่ต้องห่วง
แอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับทำงานร่วมกันคือ Sony Headphones Connect ที่จะแสดงรายละเอียดต่างๆ ของหูฟัง โดยการเชื่อมต่อครั้งแรกแนะนำให้โหลดแอปมาก่อน แล้วทำการเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับแอปจะสะดวกกว่าครับ โดยอินเทอร์เฟสของหูฟังจะตามภาพนี้เลย คือด้านบนมีการแสดงแบตเตอรี่ของหูฟัง แยกให้เป็นของแต่ละข้างเลยครับ ถัดลงมามีแท็บ 4 แท็บ ประกอบด้วย Status สำหรับดูสถานะหูฟัง, Sound สำหรับการปรับแต่งเสียง หรือเปิดใช้งานฟีเจอร์ Speak-to-Chat ก็เปิดได้ตรงนี้ครับ (ใช้สำหรับให้เพลงหยุดอัตโนมัติเมื่อผู้ใส่พูดคุย), System ระบบการใช้งาน, และ Services บริการเสริมต่างๆ ซึ่งไม่สำคัญเท่าไหร่
แต่ส่วนสำคัญตรงนี้ที่อยากให้ทุกคนมาเปิดใช้ก่อน คือในแท็บของ Sound แล้วเลื่อนมาด้านล่างที่ Bluetooth Connection Quality แล้วเลือกเป็น Priority on Sound Quality ครับ เพราะค่าเริ่มต้นจะเลือกมาที่ Priority on Stable Connection ที่ระบบจะโฟกัสที่การเชื่อมต่อมากกว่าคุณภาพเสียง ดังนั้นเมื่อเปลี่ยนเป็น Priority on Sound Quality คุณภาพเสียงจะดีขึ้นครับ ใครที่ซื้อมาแล้วยังไม่ได้เปลี่ยนแล้วบ่นว่าเสียงไม่ดี การปรับตรงนี้จะช่วยได้ครับ
คุณภาพเสียง หูฟัง Sony LinkBuds ตัวนี้มาพร้อมไดร์เวอร์เสียงแบบ Dynamic ขนาด 12 มิลลิเมตร รองรับความถี่ตั้งแต่ 20Hz – 20,000Hz แนวเสียงหลังจากเปิด Priority on Sound Quality แล้ว (ย้ำว่าต้องเปิดนะครับ) เสียงที่ได้จะมาแนวไพเราะโปร่งๆ กว้างๆ ตามสไตล์ Sony ครับ ที่ปรับจูนมาเพื่อให้โดนใจคนหมู่มาก เสียงสูงและเสียงกลางเด่นครับ ส่วนเสียงเบสอาจลดลงมาหน่อยเรื่องจากดีไซน์เป็นแบบเปิดโล่ง ทำให้ย่านเสียงเบสไม่มีตัวช่วยแบบ passive ครับ ภาพรวมดูแล้วฟังเพราะฟังสบายครับ เสียงนักร้องเด่นนำ คล้ายหูฟังประเภท earbuds ครับ ซาวน์สเตจกว้างทีเดียว ส่วนใครที่อยากได้เบสเพิ่ม ก็เปิดแอปเพิ่มเบสเอาได้ตามชอบเลย
จุดสังเกตคือการที่เป็น Open-Back แบบนี้ อาจจะเหมาะสำหรับการฟังเพลงในบางพื้นที่ที่ไม่มีเสียงรบกวนมากครับ เพราะเราจะได้ยินเสียงภายนอกมากกว่าการใช้หูฟัง TWS แบบอื่น ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่การใช้งานของแต่ละบุคคลครับ
ส่วนการใช้งานเวลาฝนตกก็ไม่ต้องห่วงครับ เพราะหูฟังสามารถกันน้ำได้ในระดับ IPX4 ทำให้สามารถใส่ลุยฝน หรือใส่ออกกำลังกายก็ไม่ต้องกลัวว่าเหงื่อจะทำหูฟังมีปัญหาครับ
ด้านการใช้พลังงาน ตัวหูฟัง Sony LinkBuds จะสามารถฟังเพลงได้ประมาณ 5.5 ชั่วโมงครับ และแบตจากเคสจะสามารถเพิ่มเวลาฟังได้อีกประมาณ 12 ชั่วโมง ทำให้รวมๆ แล้วจะสามารถฟังเพลงได้ 17 ชั่วโมงโดยประมาณครับ ก็ถือว่าไม่เยอะไม่น้อยสำหรับหูฟัง TWS ประเภทเดียวกัน
Conclusion สรุป
สรุปนะครับ หูฟัง Sony LinkBuds นี้เหมาะสมกับใคร? ผู้รีวิวเชื่อว่าจะเหมาะสมกับคนที่อยากลองอะไรใหม่ๆ ไม่ยึดติดกับหูฟังไร้สายแบบเดิมๆ อยากได้หูฟังที่ใส่แล้วโปร่งโล่งสบาย ใส่ได้นานสำหรับการนั่งทำงานชิลๆ ที่บ้าน หรือร้านกาแฟ ที่ต้องการเสียงแวดล้อมด้วยเพื่อความปลอดภัย หรือการฟังเพลงในที่ทำงาน ที่บางครั้งต้องพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน รวมถึงการใส่ออกกำลังกายเดินวิ่งในสวนสาธารณะ หรือในฟิตเนส หูฟังตัวนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีไม่น้อยครับ เพราะสามารถกันน้ำกันเหงื่อได้เหมือนกัน
ส่วนการออกแบบก็อยู่ที่รสนิยมส่วนบุคคลครับ บางคนอาจชอบหรือไม่ชอบอันนี้ไม่ว่ากัน แต่อยากให้ลองเปิดใจกับหูฟังดีไซน์ใหม่ๆ ดูครับ ถ้ามีโอกาสอยากให้เพื่อนๆ ลองไปทดสอบตามร้านตัวแทนที่มีให้ลองเล่นครับ เชื่อว่าลองฟังแล้วจะได้ Feeling การฟังเพลงใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำแบบเดิมอย่างแน่นอน
รวมไปถึงด้านคุณภาพเสียงก็ให้เสียงที่ดีตามแบบฉบับของ Sony อยู่แล้วครับ และบวกกับดีไซน์การออกแบบที่เปิดโล่ง Open-Back แบบนี้ และน้ำหนักเบามาก ทำให้สามารถใส่สบายได้ตลอดวันโดยไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนการใส่หูฟัง in-ears หรือ over-ears ต่างๆ ครับ จนบางครั้งลืมไปเลยครับว่าใส่หูฟังอยู่ ตรงนี้ถือว่าเป็นข้อดีของการออกแบบสไตล์นี้เลย
สำหรับการรีวิว Sony LinkBuds ก็ต้องขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ 🙂