คลังเก็บ

รีวิว Shark Ninja – Shark CleanSense IQ+ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย มาพร้อม 4 เซ็นเซอร์อัจฉริยะ และแท่นทำความสะอาดอัตโนมัติ

ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นมีให้เลือกมากมายหลายแบบ และรุ่นใหม่ๆ ก็มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากมาย ทั้งแบบมีสาย ไร้สาย หรือแม้แต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เดี๋ยวนี้ก็มีให้เลือกเยอะแยะ แต่ถ้าเราต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่สะดวก คล่องตัว สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งในบ้าน ในรถ ดูดผ้าม่าน โซฟา หรือทุกที่ที่ต้องการ เราขอแนะนำ Shark CleanSense IQ+ เครื่องดูดฝุ่นไร้สายจากแบรนด์ Shark Ninja รุ่นที่เราจะนำมารีวิวนี้กันเลยครับ 

เพราะ Shark CleanSense IQ+ เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ใช้งานง่าย สะดวก น้ำหนักเบา และมีแรงดูดที่ทรงพลัง มาพร้อมฐานตั้งที่ใช้พื้นที่น้อย ต้องการใช้งานเมื่อไหร่ก็แค่หยิบออกจากฐาน นอกจากนี้ยังมีระบบเก็บฝุ่นอัจฉริยะ ที่คอยดูดฝุ่นออกจากเครื่องดูดฝุ่นไปเก็บไว้ในฐานได้เยอะสูงสุด 1 เดือน แล้วค่อยนำออกมาทำความสะอาด

มีเซ็นเซอร์ทำความสะอาดอัจฉริยะ 4 ตัวที่ช่วยเราทำความสะอาดได้แม่นยำ และสะอาดสุดๆ รวมถึงให้หัวดูดฝุ่นมาหลายชิ้น เหมาะกับทุกงานทั้งในบ้าน ซอกมุมต่างๆ รวมถึงในรถก็สามารถนำเข้าไปดูดฝุ่นได้ง่าย สะดวก ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีสายให้เกะกะ

และหลังจากที่พวกเราทีมงาน MobileOcta ได้ทดสอบรีวิวกันมาแล้ว วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังกันว่าเจ้า Shark CleanSense IQ+ รุ่นนี้จะมีอะไรที่น่าใช้ และมีจุดสนใจ จุดสังเกตอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

ดีไซน์การออกแบบ

ด้านการออกแบบของเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Shark CLEANSENSE IQ+ Auto Empty System จะมาในลักษณะของเครื่องดูดฝุ่นที่มีขนาดกะทัดรัด สามารถแยกชิ้นส่วนเพื่อการเคลื่อนย้ายได้ง่าย มีน้ำหนักเบาเพียงประมาณ 2.2 กิโลกรัม เนื่องจากใช้วัสดุงานประกอบเป็นคาร์บอนไฟเบอร์คุณภาพสูง ที่แข็งแรงทนทาน แต่มีน้ำหนักเบา ผู้หญิงใช้ได้ ผู้ชายใช้ดี หรือแม้แต่เด็กๆ ที่อยากช่วยทำความสะอาดบ้าน ก็สามารถใช้งานได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก

เครื่องดูดฝุ่นส่วนนี้ยังสามารถถอดชิ้นส่วนออกมาล้างทำความสะอาดได้ง่ายเช่นกัน โดยการกดปุ่มถอดทิ้งขยะ จากนั้นสามารถเทฝุ่นและนำชิ้นส่วนกรองไปล้างได้

โดยอุปกรณ์ในกล่องสำหรับรุ่น Shark CLEANSENSE IQ+ จะประกอบด้วยดังนี้

  • เครื่องดูดฝุ่น Cordless Vacuum Stick
  • ฐานชาร์จและเก็บฝุ่น Charging Auto Empty Dock
  • หัวเชื่อมต่อ Baby Dock for Accessories
  • Duster Crevice Tool หัวสำหรับดูดตามจุดเล็กๆ ซอกหรือมุมต่างๆ
  • Motorized Hand Tool หัวแบบแปรงหมุนขนาดเล็ก 
  • Pet Multi Tool หัวสำหรับงานเก็บขนสัตว์เลี้ยง
  • Wide Upholstery Tool หัวแบบกว้างสำหรับงานเบาะหรือม่าน
  • แบตเตอรี่ Lithium-ion
  • คู่มือการใช้งานและใบรับประกันต่างๆ (มีภาษาไทย)

ข้อดีด้านการออกแบบของเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นนี้อีกอย่างคือ แบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ทำให้ผู้ที่ต้องการดูดเป็นเวลานาน สามารถซื้อแบตแยกเสริมได้ รวมไปถึง หากใช้งานนานหลายปีแล้วแบตเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพ ก็สามารถซื้่อแบตมาเปลี่ยนใช้เองได้ง่ายๆ ไม่จำเป็นต้องนำอุปกรณ์ไปเข้าศูนย์ซ่อมให้ยุ่งยาก เสียเวลานั่นเอง นอกจากนี้ ทาง Shark Ninja ยังให้การรับประกันสินค้านานถึง 2 ปีเต็ม หากมีปัญหาก็สามารถเข้าศูนย์ได้เลย

ในส่วนของแปรงหมุน Hybrid Clean ยังถูกออกแบบให้ทำความสะอาดบนพื้นที่ได้หลากหลาย ถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยีป้องกันเส้นผมพันกัน และยังมีแถบซิลิโคนช่วยขัดและปัดฝุ่นในพรม รวมถึงการจัดเรียงยังช่วยรวบรวมฝุ่นไว้ตรงกลางจุดดูดฝุ่น ช่วยให้ดูดได้สะอาด ในขณะที่แปรงกำมะหยี่ยังช่วยยกฝุ่นละเอียดบนพื้นผิวได้สะอาด และสามาระถอดชิ้นส่วนออกไปล้างทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย

การออกแบบของด้ามจับ Multi-Flex ซึ่งเป็นข้อต่อที่โค้งงอได้ 90 องศา ยังช่วยให้การทำความสะอาดเข้าถึงในพื้นที่ต่ำใต้เฟอร์นิเจอร์เช่น ตามใต้ตู้ ใต้โต๊ะ หรือใต้โซฟาทำได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องก้มลงไปมาก เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ หรือแม้แต่วัยทำงานเองก็สามารถทำความสะอาดได้ง่าย รวดเร็ว

ประสิทธิภาพการใช้งาน

Shark CLEANSENSE IQ+ มีแรงดูดที่ทรงพลัง เพราะมาพร้อมอเตอร์แบบ TurboDrive รุ่นใหม่ของ Shark ที่ให้แรงดูดที่แรง สามารถเพิ่มกำลังดูดได้รวดเร็วเมื่อต้องการ ให้แรงดูดเป็นเส้นตรง สามารถลำเลียงฝุ่นและสิ่งสกปรกไปยังถ้วยเก็บฝุ่นได้โดยตรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น 

ในส่วนของอินเทอร์เฟซการใช้งานบนเครื่องชาร์จก็ใช้งานง่าย ไม่เคยใช้ก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยาก โดยเมื่อประกอบอุปกรณ์ถูกต้องตามจุดประสงค์ที่จะทำความสะอาดแล้ว จากนั้นกดปุ่มเปิดเพื่อให้เครื่องเริ่มดูดฝุ่นอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องกดค้างให้เมื่อยเหมือนบางแบบ 

โดยหน้าจอจะแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นสถานะฝุ่น (ไฟสีแดง = สกปรกมาก, สีส้ม = กำลังทำความสะอาด และ สีเขียว = สะอาดแล้ว) นอกจากนี้ยังมีสถานะแบตเตอรี่ และโหมดการใช้งานที่เลือก ซึ่งจะประกอบด้วยโหมด ECO ประหยัดพลังงาน, โหมด IQ อัตโนมัติ และโหมด BOOST เพื่อเพิ่มพลังดูดสูงสุด ซึ่งแน่นอนว่าจะกินพลังงานมากขึ้นเช่นกัน 

แปรงหมุน HybridClean รองรับการทำความสะอาดได้หลากหลายพื้นผิว เพราะรวมเทคโนโลยีแปรงหมุนสองชนิดเข้าไว้ด้วยกัน คือ แปรงนุ่ม ที่เหมาะสำหรับการทำความสะอาดบนพื้นแข็ง แถมยังช่วยขัดให้พื้นผิวดูเงางาม และหัวแปรงซิลิโคนยืดหยุ่น ที่เหมาะสำหรับทำความสะอาดพื้นผิวประเภทพรมต่างๆ ช่วยขัดและทำความสะอาดพรมได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น ด้วยสองคุณสมบัตินี้ ทำให้เราไม่ต้องเปลี่ยนหัวดูดพื้นบ่อยๆ เพิ่มความสะดวกได้ดียิ่งขึ้น

Shark CLEANSENSE IQ+ ยังดูแลสุขภาพคนในครอบครัวด้วยการใส่แผ่นกรองละเอียดระดับ HEPA ที่ช่วยดักจับและกักเก็บฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.9% ภายในแท่นวางอัตโนมัติ ช่วยให้อากาศสะอาดและปลอดภัยจากเชื้อโรค

และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน นอกจากจะสามารถถอดเปลี่ยนได้เองแล้ว ยังสามารถใช้งานได้สูงสุดถึงประมาณ 42 นาที ในโหมดประหยัดพลังงาน หรือ Eco Mode และจะใช้เวลาในการชาร์จเต็ม 0-100% ในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 

เซ็นเซอร์อัจฉริยะ 4 ตัว

จุดขายสำคัญของ Shark CLEANSENSE IQ+ คือการมาพร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ 4 ตัว เทคโนโลยี Smart IQ Pro ล่าสุดจาก Shark ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการทำความสะอาดที่แม่นยำ และล้ำลึกในทุกจุดของบ้าน ด้วยการตรวจจับและตอบสนองอย่างอัจฉริยะ ดังนี้: 

Dirt Detect 

เซ็นเซอร์ตัวนี้จะตรวจจับฝุ่นขณะทำความสะอาด ซึ่งหากพบฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่ซ่อนอยู่ ระบบจะทำการเพิ่มแรงดูดอัตโนมัติทันที เพื่อเพิ่มระดับการทำความสะอาดอัตโนมัติ และเมื่อพื้นที่สะอาดแล้ว ก็จะลดความแรงลงอัตโนมัติเช่นกัน

Edge Detect

เพราะมุมห้องหรือตามขอบต่างๆ มักจะสกปรกมากกว่าพื้นผิวทั่วไป ดังนั้นด้วยระบบ Edge Detect นี้ จะเพิ่มแรงดูดอัตโนมัติทันทีเมื่อตรวจพบพื้นที่ดังกล่าว และสามารถเพิ่มแรงดูดได้สูงสุดถึง 2.5 เท่าเลยทีเดียว

Floor Detect

ระบบนี้จะตรวจสอบพื้นผิวที่เรากำลังทำความสะอาดอยู่ จากนั้นจะปรับแรงดูดให้เหมาะสมอัตโนมัติ เช่น การสลับจากพื้นแข็งไปเป็นพรม ระบบก็จะดูดแรงขึ้นทันทีเมื่อตรวจจับพื้นผิวที่ต่างกัน เพื่อให้แรงดูดเหมาะสมที่สุดนั่นเอง

Light Detect  

เมื่อทำความสะอาดในจุดที่มืดหรือแสงสว่างไม่เพียงพอ ระบบจะมีการเปิดไฟส่องสว่างอัตโนมัติในที่มืด เพื่อเพิ่มการตรวจสอบพื้นที่สกปรก ทำให้การทำความสะอาดทำได้ดียิ่งขึ้น 

อีกส่วนที่น่าสนใจก็คือ แท่นวางอัจฉริยะ ที่เมื่อเราทำความสะอาดเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อนำเครื่องดูดฝุ่นกลับไปวางในแท่นวางแล้ว ระบบจะทำการชาร์จเครื่องดูดฝุ่น และทำความสะอาดด้วนการเทเศษฝุ่นทิ้งอัตโนมัติในแท่นวางแบบไร้ถุง ซึ่งสามารถกักเก็บฝุ่นและสิ่งสกปรกได้มากสุดเฉลี่ยถึง 30 วัน ในถังเก็บฝุ่นขนาด 0.4 ลิตร (ขึ้นอยู่กับความถี่ในการทำความสะอาด, ปริมาณฝุ่น, และขนาดห้อง )

ส่วนการทำความสะอาดเราสามารถกดปุ่มถอดถังเก็บฝุ่นแล้วนำไปเทได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องมีถุงเก็บฝุ่น เพียงแค่ถอดถัง นำฝุ่นไปทิ้ง และล้างถังด้วยน้ำเปล่า เช็คหรือตากให้แห้ง ก็พร้อมใช้งานทันที

บทสรุป

จากที่เราทดสอบใช้งาน Shark CleanSense IQ+ เครื่องดูดฝุ่นเทคโนโลยีล่าสุดจาก Shark แล้ว

ต้องบอกว่าเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ค่อนข้างทำงานได้ดีเยี่ยมทีเดียว เพราะเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีน้ำหนักเบา สามารถปรับเปลี่ยนหัวเพื่อการทำงานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในบ้านตามพื้นที่ต่างๆ รวมไปถึงในรถยนต์เองก็สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ดูดแรง และทำความสะอาดได้ง่าย เพียงนำเครื่องดูดฝุ่นกลับไปชาร์จในแท่น Auto-Empty System ก็สามารถทิ้งฝุ่นได้อัตโนมัติ และไม่ต้องเทฝุ่นทิ้งบ่อยๆ 

นอกจากนี้ ระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะของ CleanSense IQ+ ทั้ง 4 ยังช่วยให้การทำความสะอาดง่าย และสะดวกขึ้น ช่วยให้การทำความสะอาดในจุดและพื้นผิวที่ต่างกันสามารถทำได้ง่าย และมีระบบตรวจสอบฝุ่นขณะทำความสะอาดแบบเรียลไทม์ ช่วยให้รู้ว่าพื้นที่ที่เรากำลังทำความสะอาดอยู่สะอาดแล้วหรือยัง พร้อมปรับแรงดูดอัตโนมัติตามความเหมาะสม อันนี้สะดวกดีมาก รวมไปถึงด้ามจับ Multi-Flex ที่งอได้ 90 องศา ทำให้การดูดตามใต้เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ทำได้สะดวก

สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจสามารถสั่งซื้อ เช็คราคาและโปรโมชันล่าสุด หรือแวะไปลองไปชมกันได้ที่ Power Buy หรือช้อปออนไลน์ได้ผ่านทาง Shopee และ Lazada กันได้เลย สำหรับการรีวิวก็ต้องขอจบเพียงเท่านี้ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ