เปิดตัวพร้อมกับ Galaxy Z Fold6 และ Galaxy Z Flip6 สำหรับ Samsung Galaxy Buds3 Series หูฟังไร้สาย TWS รุ่นใหม่ภาคต่อของ Galaxy Buds2 Series ที่เปิดตัวเมื่อปี 2021 โดยประกอบด้วย Galaxy Buds3 และ GalaxyBuds3 Pro มาพร้อมดีไซน์ที่เปลี่ยนโฉมใหม่หมด เพิ่มฟีเจอร์อัจฉริยะที่ใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟนได้อย่างไร้รอยต่อ รวมถึงคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น
ซึ่งรุ่นที่ทาง MobileOcta ได้มารีวิวคือ Galaxy Buds3 ซึ่งเป็นหูฟังไร้สาย TWS ดีไซน์ Blade แบบ Earbuds สอดหู สวยล้ำดูทันสมัย สวมใส่สบาย มาพร้อมคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi, ระบบตัดเสียงรบกวน ANC และการแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ที่ปรับแต่งด้วย Galaxy AI
เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่า Samsung Galaxy Buds3 รุ่นใหม่นี้ดีไซน์สวยแค่ไหน และการใช้งานเป็นอย่างไร เราไปดูรีวิวเต็มกันเลยครับ
สเปกเบื้องต้น Samsung Galaxy Buds3
- ขนาดหูฟังแต่ละข้าง : 18.1 x 20.4 x 31.9 มม., น้ำหนัก 4.7 กรัม
- ขนาดเคสชาร์จ : 48.7 x 58.9 x 24.4 มม., น้ำหนัก 46.5 กรัม
- ไดร์เวอร์ขับเสียง : ไดร์เวอร์ไดนามิก 1-Way 11 มม.,ไดอะแฟรมเสริมแอมป์
- ไมโครโฟน : 3 Mics + VPU
- Codec ที่รองรับ : SSC Hi-Fi, SSC UHQ, AAC, SBC
- ฟีเจอร์เสียงที่รองรับ : 24bit / 96kHz, 360 Audio, App Specific Adjustment
- ระบบตัดเสียงรบกวน : ANC
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.4, Auto Switch, USB-C, Wireless Charge
- ความทนทาน : รองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP57 (เฉพาะหูฟังเท่านั้น)
- ความจุแบตเตอรี่ : หูฟัง: 48 mAh
เคสชาร์จ: 515mAh - ระยะเวลาการใช้งาน : 5 ชั่วโมง และ 24 ชั่วโมงเมื่อเปิดการใช้งาน ANC 6 ชั่วโมง และ 30 ชั่วโมงเมื่อปิดการใช้งาน ANC
- เซ็นเซอร์ : Accelerometer, Gyro Sensor, Hall Sensor, Pressure Sensor, Proximity Sensor, Touch Sensor, VPU(Voice Pickup Unit)
- สี: Silver และ White
- ราคา 5,490 บาท
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- หูฟังไร้สาย Samsung Galaxy Buds3
- เคสชาร์จ
- สายชาร์จ USB Type-C
- คู่มือการใช้งาน
- ใบรับประกัน
รูปลักษณ์ดีไซน์
Samsung Galaxy Buds3 เป็นหูฟังไร้สายดีไซน์ Blade แบบ Earbud ถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์มาให้สวมใส่สบายได้เป็นระยะเวลานานด้วยน้ำหนักเบาเพียงข้างละ 4.7 กรัม และใส่ได้กระชับแน่นเข้ามุมทำให้สามารถมอบคุณภาพเสียงได้เต็มที่
ด้วยดีไซน์ใหม่ที่เน้นมุมได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันโดยอาศัยข้อมูลเกี่ยวกับหูของคนแบบ 3 มิติที่รวบรวมจากเครื่องมือออกแบบเชิงคำนวณเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมในการสวมใส่ ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงเสียงและลดแรงกดในช่องหู จึงเหมาะกับการสวมใส่ในทุกวัน และรองรับการกันน้ำกันฝุ่น IP57
ส่วนตัวเคสชาร์จดีไซน์ฝาเคสแบบโปร่งใส เผยให้รายละเอียดด้านใน โดยมีการเล่นสีฟ้า – ส้มเพื่อบอกตำแหน่งซ้ายขวาของหูฟัง และมีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่ที่เคสชาร์จ โดยมีน้ำหนักเบาเพียง 46.5 กรัม พกพาสะดวก และมีให้เลือกสองสีคือ Silver และ White ที่ดูหรูหราและทันสมัย
ด้านหน้ามีไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่อ
ด้านท้ายมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเคส และปุ่มกดเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน
เมื่อเปิดตัวเคสชาร์จออกมาจะเห็นตัวหูฟัง Galaxy Buds3 อยู่ด้านใน
คุณสมบัติการใช้งาน
ยกระดับเสียงไปอีกขั้น
Galaxy Buds3 มากับไดร์เวอร์ไดนามิกแบบ 1-Way ขนาด 11 มม. ให้เสียงที่นุ่มลึก ก้องกังวานและคมชัด เสริมพลังเสียงด้วยไดอะแฟรมเสริมแอมป์ 1.5 เท่า ทำให้เสียงที่ได้จากหูฟังมีคุณภาพที่ดีมากขึ้น
คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi
ฟังเพลงด้วยคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi ที่มี Samsung Seamless Codec สามารถบีบอัดและเข้ารหัสเสียงได้สูงสุดถึง 24bit/96kHz โดยยังคงเสียงที่คมชัดไม่ผิดเพี้ยน เสมือนเพลงจากห้องอัด
ฟังเพลงเพราะด้วย Galaxy AI
นอกจากคุณภาพเสียงที่ทำออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ในด้าน Galaxy AI ที่เสริมเข้ามายังทำให้ Galaxy Buds3 สามารถใช้งานได้ครอบคลุม ตั้งแต่โหมด Adaptive EQ ที่ช่วยตั้งค่าโทนเสียงที่ชอบได้ตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถฟังเพลงที่เพราะมากขึ้นได้ และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ช่วยแปลภาษาแบบเรียลไทม์ผ่านหูฟังเมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน Samsung Galaxy
ANC ช่วยให้ได้ยินเสียงชัด
ไม่ต้องยุ่งยากกับการตั้งค่าเสียงอีกต่อไป ด้วยระบบตัดเสียงรบกวน ANC ไม่ว่าจะเพลิดเพลินกับรายการล่าสุด โทรคุยกับเพื่อน หรือฟังเพลย์ลิสต์ รับฟังด้วยการตั้งค่าที่เหมาะสมไม่ว่าจะไปที่ไหน
แปลภาษาแบบเรียลไทม์ด้วย Galaxy AI
ด้วย Galaxy AI จะทำให้เข้าใจโลกในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดูคำแปลได้ในสมาร์ตโฟน Samsung Galaxy ของคุณ (ที่รองรับ Galaxy AI) พร้อมฟังคำแปลของบทสนทนาได้แบบเรียลไทม์ผ่าน Galaxy Buds3
หากต้องการเข้าถึงโหมดการฟัง เพียงบีบหูฟังค้างไว้ แล้ว Galaxy Buds3 ของคุณจะยังคงแปลภาษาต่อไปในขณะที่ผู้พูดกำลังพูด เมื่อเปิดแอป ฟีเจอร์ Interpreter จะเริ่มต้นทำงานด้วยโหมดล่าสุดที่เคยใช้
ในโหมดบนทสนทนา conversation mode ให้หันไมโครโฟนของโทรศัพท์เข้าหาลำโพง ใช้นิ้วกดที่ Galaxy Buds3 สั้น ๆ แล้วฟังการสนทนาของคุณที่แปลแบบเรียลไทม์ เมื่อเปิดแอป ฟีเจอร์ Interpreter จะเริ่มต้นทำงานด้วยโหมดล่าสุดที่เคยใช้
แค่ออกคำสั่งก็จบ
ควบคุมการตั้งค่าเสียงโดยไม่จำเป็นต้องแตะโทรศัพท์ เพียงพูดคำสั่ง เช่น “next song” หรือ “volume up” แล้วปล่อยให้ Galaxy Buds3 จัดการส่วนที่เหลือ
แบตอึดใช้งานได้ทั้งวัน
แบตเตอรี่ของ Galaxy Buds3 นั้นถือว่าอึดทนและตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 5 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC และ 6 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC และสามารถใช้งานได้รวมสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวันหรือแม้กระทั่งการเดินทางระยะยาว
นอกจากนี้ Samsung ยังติดตั้งระบบชาร์จเร็วให้กับ Galaxy Buds3 ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วเมื่อจำเป็น แม้ว่าแบตเตอรี่จะใกล้หมด ก็ไม่ต้องกังวล เพราะการชาร์จเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถใช้งานต่อได้อีกหลายชั่วโมง ความสามารถด้านแบตเตอรี่นี้ทำให้ Galaxy Buds3 เป็นคู่หูที่เชื่อถือได้สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเดินทาง หรือการออกกำลังกาย
ทดสอบใช้งาน
Galaxy Buds3 สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกระบบปฏิบัติการได้อย่างมีเสถียรภาพผ่าน Bluetooth 5.4 ไม่ว่าจะเป็น Android หรือ iOS โดยก่อนการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนให้ทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Galaxy Wearable แล้วทำการเปิดใช้งานบลูทูธบนสมาร์ตโฟน และกดที่ปุ่มที่อยู่ด้านท้ายของเคสชาร์จ
จากนั้นเปิดกล่องเคสชาร์จที่มีตัวหูฟังอยู่ด้านใน บนหน้าสมาร์ตโฟนก็จะขึ้นป๊อปอัพการเชื่อมต่อ หลังจากนั้นก็จะขึ้นคำแนะนำต่าง ๆ ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอสมาร์ตโฟนได้เลย
การควบคุมนั้นทำได้ง่ายโดยการสัมผัสที่บริเวณก้านของหูฟัง โดยฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานได้คือ
ควบคุมด้วยการปัด
ปัดแถบปรับเสียงขึ้น/ลงเพื่อปรับระดับเสียง
ควบคุมด้วยการบีบ
บีบเพื่อเล่นและหยุดชั่วคราว หรือบีบค้างไว้เพื่อเปลี่ยนการควบคุมเสียง หรือเพื่อเปิดแอปโปรดของคุณ
สามารถตั้งค่าปรับเสียง 360 ด้วยฟีเจอร์ 360 Audio ที่ระบุทิศทางที่แน่นอนของเสียงเมื่อคุณเอียงศีรษะ และกระจายเสียงรอบทิศทางเพื่อประสบการณ์การฟังและการรับชมที่ชัดใสยิ่งขึ้น รวมถึงปรับแต่งเสียงอีควอไลเซอร์ มีให้เลือกถึง 6 แบบ หรือกำหนดเอง
รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพเสียงสนทนาช่วยให้ได้ยินเสียงพูดในวิดีโอที่มีเสียงพื้นหลังอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น, ปรับความดังให้เป็นปกติเพื่อป้องกันไม่ให้เสียงดังหรือเบาเกินไปในทันทีเมื่อเล่นมีเดีย และปรับเสียงให้เหมาะสมอัตโนมัติเพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุดตามรูปทรงหูของคุณและวิธีที่คุณสวมใส่
ดูหนังผ่านสตรีมมิ่งต่างๆ เสียงกับปากตรงกัน ไม่ดีเลย์ รวมถึงการเล่นเกมด้วย เสียงเอฟเฟกต์มาเต็ม นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Auto Switch ใน Galaxy Buds3 ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับใช้งานหูฟังระหว่างกาแลคซี่ ดีไวซ์ได้ทันที เช่น ขณะที่กำลังสวมหูฟังเพื่อดูซีรีส์จากแท็บเล็ตอยู่แล้วมีสายเรียกเข้า Galaxy Buds3 จะสลับให้ผู้ใช้ได้ยินเสียงจากสมาร์ตโฟนแทน และเมื่อวางสายแล้วหูฟังก็จะสลับกลับมาเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องตั้งค่าหรือเชื่อมต่อใหม่แต่อย่างใด
และมีฟีเจอร์ค้นหาหูฟัง โดยหากหูฟังอยู่ในบริเวณใกล้เคียง สามารถเล่นเสียงบนหูฟังเพื่อช่วยหาหูฟังได้ แต่หากหูฟังไม่ได้อยู่ในบริเวณใกล้เคียง สามารถค้นหาโดยทำการระบุตำแหน่งหูฟังบนแผนที่ได้
บทสรุป
Galaxy Buds3 ถือเป็นหูฟังไร้สาย TWS รุ่นใหม่ของ Samsung ที่มาพร้อมดีไซน์โฉมใหม่ ด้วยดีไซน์ Blade แบบ Earbud ออกแบบมาให้เข้าสรีระของหู มีความพอดี ไม่แน่นและหลวมจนเกินไป สวมใส่สบายได้เป็นระยะเวลานาน รวมทั้งเพิ่มฟีเจอร์อัจฉริยะที่ใช้งานร่วมกับสมาร์ตโฟนได้อย่างไร้รอยต่อด้วย Galaxy AI ช่วยยกระดับประสบการณ์การฟังเพลงให้ดีมากยิ่งขึ้น
ด้วยคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi ที่มี Samsung Seamless Codec สามารถบีบอัดและเข้ารหัสเสียงได้สูงสุดถึง 24bit/96kHz โดยยังคงเสียงที่คมชัดไม่ผิดเพี้ยน เสมือนเพลงจากห้องอัด ขับพลังเสียงแบบไดนามิกด้วยไดรเวอร์ขนาด 11 มม. ให้เสียงที่นุ่มลึก ก้องกังวานและคมชัด เสริมพลังเสียงด้วยไดอะแฟรมเสริมแอมป์ 1.5 เท่า ทำให้เสียงที่ได้จากหูฟังมีคุณภาพที่ดีมากขึ้น
นอกจากคุณภาพเสียงที่ทำออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ในด้าน Galaxy AI ที่เสริมเข้ามายังทำให้ Galaxy Buds3 สามารถใช้งานได้ครอบคลุม ตั้งแต่โหมด Adaptive EQ ที่ช่วยตั้งค่าโทนเสียงที่ชอบได้ตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้ใคร ๆ ก็สามารถฟังเพลงที่เพราะมากขึ้นได้ และยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ช่วยแปลภาษาแบบเรียลไทม์ได้ในเสี้ยววินาที
โดยรวมแล้ว Galaxy Buds3 เหมาะสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการหูฟังคุณภาพดี มีฟีเจอร์ครบครัน แต่ในราคาที่ย่อมเยา ตอบโจทย์การใช้งานไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ดูหนัง หรือใช้โทรศัพท์ โดยไม่จำเป็นต้องมีฟีเจอร์พิเศษมากมาย แต่ยังคงได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยม
ทั้งนี้ Galaxy Buds3 มาพร้อมตัวเลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน Silver และสีขาว White วางจำหน่ายแล้ววันนี้ในราคา 5,490 บาท ทาง Samsung Experience Store, samsung.com และร้านค้าที่ร่วมรายการ