คลังเก็บ

รีวิว Samsung Galaxy Buds FE หูฟังไร้สายเสียงชัด มี AI ตัดเสียงรบกวน ในราคาเบ๊าเบาาา

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม Samsung ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล Galaxy FE Series หลายอย่าง ซึ่งนอกจากสมาร์ตโฟน Galaxy S23 FE และแท็บเล็ต Galaxy Tab S9 FE และ Galaxy Tab S9 FE+ แล้ว ยังมีหูฟังไร้สายน้องใหม่อย่าง Galaxy Buds FE ด้วย โดยมาพร้อมสโลแกน “เสียงชัด มี AI ตัดเสียงรบกวน ในราคาเบ๊าเบา ~

หูฟังไร้สาย Galaxy Buds FE มาพร้อมคุณสมบัติเด่นด้วยคุณภาพเสียงเหนือชั้นด้วยระบบ AI ตัดเสียงรบกวนอันทรงพลัง ดีไซน์กะทัดรัดออกแบบมาตามหลักสรีรศาสตร์ ปรับให้กระชับพอดีกับสรีระของหู และมีแบตเตอรี่สุดอึด ใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้กันแล้วว่าหูฟังไร้สาย Galaxy Buds FE จะมีรูปลักษณ์ดีไซน์ และการใช้งานเป็นอย่างไร เราไปดูรีวิวกันเลยครับ

Samsung Galaxy Buds FE

สเปกเบื้องต้น Samsung Galaxy Buds FE

  • ขนาดหูฟังแต่ละข้าง : 17.1 (W) x 19.2 (H) x 22.2 (D) มม., น้ำหนัก 5.6 กรัม
  • ขนาดเคสชาร์จ : 50.0 (W) x 50.0 (H) x 27.7 (D) มม., น้ำหนัก 40 กรัม
  • แบตเตอรี่ : 60 mAh (หูฟัง), 479 mAh (เคสชาร์จ)
  • ระยะเวลาการใช้งาน : 6 ชั่วโมง และ 21 ชั่วโมงเมื่อเปิดการใช้งาน ANC                                                  8.5 ชั่วโมง และ 30 ชั่วโมงเมื่อปิดการใช้งาน ANC
  • เทคโนโลยีเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.2
  • ไมโครโฟน : 3 Mics (2 outer + 1 inner) + DNN + Personalized Beamforming
  • Voice Wake-up : Seamless AI (Bixby) – ตัวช่วยสั่งงานด้วยเสียง
  • กันน้ำกันฝุ่น : มาตรฐาน IPX2
  • รองรับตัวแปลงสัญญาณ : AAC, SBC และ Scalable (ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Samsung)
  • เซ็นเซอร์ : Proximity, Hall, Touch
  • สี: Graphite, White
  • ราคา 3,390 บาท

อุปกรณ์ภายในกล่อง

  • หูฟังไร้สาย Samsung Galaxy Buds FE
  • เคสชาร์จ
  • จุกหูฟัง Ear tips 3 ชุด (ขนาด S/M/L)
  • ก้านกระชับหู Wingtips 2 ชุด (ขนาด S/M และ M/L))
  • สายชาร์จ USB-C to USB-C
  • คู่มือการใช้งาน
  • ใบรับประกัน

รูปลักษณ์ดีไซน์

Samsung Galaxy Buds FE เป็นหูฟังไร้สายแบบอินเอียร์ (In-Ear) ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบที่มีดีไซน์อันโดดเด่น และถูกตามหลักสรีศาสตร์จึงให้ความสะดวกสบายจนสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังปรับให้มีความพอดียิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้แต่ละบุคคลได้ด้วยจุกหูฟัง Ear Tips ที่มีให้เลือกใช้ถึง 3 ขนาด (S/M/L) และป้องกันการหลุดร่วงได้ด้วยก้านกระชับหูแบบ Wingtips ที่ติดตั้งมาให้ สามารถถอดออกได้ โดยมีให้เลือก 2 ขนาด (S/M กับ M/L) 

แต่ถ้าใครไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้ขนาดไหนให้เหมาะกับตนเองก็สามารถใช้ฟีเจอร์ ‘Earbud fit test’ ในแอปพลิเคชัน Galaxy Wearable เพื่อทดสอบการสวมใส่ให้พอดีได้อีกด้วย รวมทั้งรองรับการกันน้ำได้ในระดับ IPX2 สามารถกันน้ำที่กระเซ็นหรือหยดใส่ตัวผลิตภัณฑ์ ใส่วิ่งออกกำลังกายโดนเหงื่อได้

ส่วนตัวเคสชาร์จมีดีไซน์สี่เหลี่ยมโค้งมนขนาดเหมาะมือ น้ำหนักเบาเพียง 40 กรัม สะดวกต่อการพกพาและหยิบใช้ระหว่างวันได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ด้านบนมาพร้อมโลโก้ Samsung และด้านล่างมีช้อมูลผลิตภัณฑ์

และมีให้เลือก 2 สีคือ สีขาว และสีดำ Graphite โดยทาง MobileOcta ได้สีขาวมารีวิว ซึ่งใช้สีขาวล้วนทั้งหูฟังและเคสชาร์จ ขณะที่สีดำ Graphite จะใช้ดีไซน์ทูโทน โดยภายในเคสชาร์จกับหูฟังจะเป็นสีดำ ส่วนด้านนอกของเคสชาร์จจะเป็นสีขาว 

ด้านหน้ามีไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่อ

ด้านหลังมีพอร์ต USB-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเคส

เมื่อเปิดตัวเคสชาร์จออกมาจะเห็นตัวหูฟังอยู่ด้านใน โดยด้านในของเคสตรงกลางระหว่างหูฟังยังมีไฟ LED แสดงสถานะการเชื่อมต่อด้วย

คุณสมบัติการใช้งาน

ไม่ขัดจังหวะการคุย เสียงชัด ตัดรบกวน เม้าท์มันส์ไม่สะดุด

หูฟังไร้สาย Galaxy Buds FE มาพร้อมนวัตกรรมการตัดเสียงรบกวน ANC (Active Noise Cancellation) อันทรงพลังด้วยจุดเด่นอย่าง AI-Powered Clear Call ซึ่งมีเทคโนโลยีเบื้องหลังคือ DNN (Deep Neural Network) หรือ AI learning Technology ทำงานร่วมกับไมโครโฟน 3 ตัว (ไมค์หลัก, ไมค์รอง และไมค์ด้านใน) สามารถเรียนรู้ คัดกรองเสียงรบกวน หรือเสียงที่ไม่ต้องการออกไป ไม่ว่าจะเป็นเสียงลม, เสียงผู้คน, เสียงยานพาหนะ, เสียงเครื่องยนต์กลไก และอื่น ๆ ช่วยให้ปลายสาย สามารถได้ยินเสียงชัด พูดคุยสะดวกไร้เสียงรบกวน

ไม่ขัดจังหวะการฟัง ฟังไม่สะดุด เชื่อมต่อติดทุก device

หูฟังไร้สาย Galaxy Buds FE มีฟีเจอร์ Easy pairing เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้ทันทีเมื่อเปิดเคสหูฟัง ไม่ต้องเชื่อมต่อใหม่ทุกครั้ง รวมทั้งมีฟีเจอร์ Auto Switch สามารถสลับอุปกรณ์ได้อัตโนมัติ เช่น เมื่อดู Netflix อยู่ใน Galaxy Tab แล้วมีคนโทรศัพท์มา หากไม่มี Galaxy Buds FE จะต้องเชื่อมต่อ Devices แบบ Physicals ซึ่งบางครั้งโทรศัพท์อาจอยู่ไกล ทำให้เสียเวลาในการรับโทรศัพท์และอาจพลาดบางข้อมูลที่สำคัญไปได้ แต่หากมี Galaxy Buds FE ก็สามารถสลับอุปกรณ์อัตโนมัติได้ทันที ทำให้ไม่พลาดข้อมูลสำคัญ หรือเสียเวลาในการคุยโทรศัพท์แม้แต่วินาทีเดียว

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ช่วยป้องกันการสูญหาย เรียกว่า Find My Earbuds กรณีทำหูฟังหล่นหายไว้ไม่ไกล สามารถสั่งให้หูฟังส่งสัญญาณเสียงได้ เพื่อให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น และเพื่อความมั่นใจมากขึ้น แนะนำให้เพิ่ม Galaxy Buds FE ไว้ในแอป SmartThings ซึ่งสามารถระบุตำแหน่งของหูฟังบนแผนที่ ระบุตำแหน่งล่าสุดที่เปิดใช้งาน และมีโหมดสูญหาย ที่สามารถใส่ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เผื่อคนอื่นมาเจอ จะได้ส่งคืน นอกจากนี้ SmartThings ยังมีระบบแจ้งเตือนทันที เมื่อลืมหยิบหูฟังออกไปด้วย 

ไม่ขัดจังหวะการใช้งาน แบตทนนาน ตลอดหลายวัน

หูฟังไร้สาย Galaxy Buds FE ให้ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานที่สุดใน Galaxy Buds Series สามารถใช้เปิดฟังได้นานถึง 8.5 ชั่วโมง และใช้งานได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง เมื่อปิดโหมดการตัดเสียงรบกวนในการใช้ร่วมกับเคสชาร์จ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดโหมด ANC จะสามารถใช้ฟังได้นานถึง 6 ชั่วโมง และรวมระยะเวลาสูงสุดถึง 21 ชั่วโมง ในการใช้ร่วมกับเคสชาร์จ

ทดสอบใช้งาน

Galaxy Buds FE สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกระบบปฏิบัติการได้อย่างมีเสถียรภาพผ่าน Bluetooth 5.2 ไม่ว่าจะเป็น Android หรือ iOS โดยก่อนการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนให้ทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Galaxy Wearable แล้วทำการเปิดใช้งานบลูทูธบนสมาร์ตโฟน จากนั้นเปิดกล่องเคสชาร์จที่มีตัวหูฟังอยู่ด้านใน บนหน้าสมาร์ตโฟนก็จะขึ้นป๊อปอัพการเชื่อมต่อ หลังจากนั้นก็จะขึ้นคำแนะนำต่างๆ ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอสมาร์ตโฟนได้เลย

การควบคุมนั้นทำได้ง่ายโดยการสัมผัสที่บริเวณด้านหลังของหูฟัง ทั้งการแตะครั้งเดียว, แตะ 2 ครั้งติดกัน, แตะ 3 ครั้งติดกัน และแตะค้างไว้ สามารถเข้าไปตั้งค่าฟังก์ชันการสัมผัสได้ที่แอปพลิเคชัน Galaxy Wearable แต่ค่าเริ่มต้นถูกกำหนดค่าไว้ดังนี้

  • แตะครั้งเดียว – เล่นหรือหยุดเล่น
  • แตะ 2 ครั้งติดกัน – เล่นเพลงถัดไป
  • แตะ 3 ครั้งติดกัน – ย้อนกลับไปเพลงที่แล้ว
  • แตะค้างไว้ ที่หูฟังข้างซ้าย – ลดระดับเสียง
  • แตะค้างไว้ ที่หูฟังข้างขวา – เพิ่มระดับเสียง

นอกจากนั้นยังสามารถเลือกที่จะเปิดหรือปิดเสียงรอบข้างเวลาโทร ประโยชน์คือทำให้เราได้ยินเสียงรบกวน เราอาจจะเคยเห็นคนที่ใช้หูฟังคุย แล้วมักจะพูดเสียงดังมาก จนรบกวนคนอื่น เพราะเขาไม่ได้ยินเสียงตัวเอง โดยเสียงจะเข้ามาที่หูเราเท่านั้น ฝ่ายตรงข้ามจะถูกตัดเสียงรบกวนนี้ออกไป

อีกหนึ่งลูกเล่นคือ เราสามารถเลือกได้ว่าจะตัดเสียงรบกวนแค่ข้างใดข้างนึงก็ได้ หรือเลือกสมดุลหากต้องการให้ตัดเสียงรบกวนเท่าๆ กัน

สามารถตั้งค่าปรับแต่งเสียงอีควอไลเซอร์ มีให้เลือกถึง 6 แบบ รวมทั้งตั้งค่าอ่านออกเสียงการแจ้งเตือน โดยฟังการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ในหูฟังแม้ว่าคุณจะใช้โทรศัพท์อยู่ และเพิ่มการแจ้งเตือนแอปที่ต้องการให้อ่านออกเสียงได้ และการเชื่อมต่อหูฟังแบบไม่สะดุด ซึ่งสลับเป็นอุปกรณ์ใกล้เคียงอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องหยุดเชื่อมต่อหูฟังหรือเปิดโหมดการจับคู่

บทสรุป

Galaxy Buds FE ถือเป็นหูฟังไร้สาย TWS ที่นำประสบการณ์เสียงชั้นนำจากซัมซุง โดดเด่นด้วยเสียงเบสอันทรงพลังให้เสียงทุ้มลึกเต็มอารมณ์ รวมถึงมีระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) และระบบเสียงรอบข้างช่วยให้ได้ยินเสียงเพลงอย่างเต็มอิ่ม พร้อมระบบไมโครโฟน 3 ตัวที่มีระบบ AI พร้อมด้วย Deep Neural Network – DNN ที่จะช่วยแยกเสียงของผู้ใช้งานออกจากเสียงรบกวนรอบข้างที่ไม่ต้องการเพื่อการโทรที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีดีไซน์มินิมอลกะทัดรัดเข้ากับหูถูกตามหลักสรีศาสตร์ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานยาวนานสูงสุด 30 ชั่วโมง ใครที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายคุณภาพดี ให้เสียงที่คมชัด มีระบบตัดเสียงรบกวน สวมใส่สบาย ในราคาเบ๊าเบาาา Galaxy Buds FE คือคำตอบที่ใช่เลย

ทั้งนี้ Samsung Galaxy Buds FE มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Graphite และ White ราคา 3,390 บาท วางจำหน่ายแล้ว ผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ samsung.com และ Samsung Official Store บน Shopee และ Lazada หรือหน้าร้านที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ และเมื่อซื้อ Galaxy Buds FE กับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตรุ่นที่ร่วมรายการจะได้รับสิทธิ์ส่วนลดเพิ่มทันที 30% ตั้งแต่วันนี้ถึง 5 พฤศจิกายน 2566