จากนี้ไปรับชมรูปจากกล้องหลังในสภาพแสงต่าง ๆ กันต่อครับ
ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์
Samsung Galaxy A52 5G รันบนระบบปฏิบัติการ Android 11 และครอบทับด้วย One UI 3.1 ที่มีความสดใหม่ สำหรับคนที่ใช้งานสมาร์ตโฟนซัมซุงมาก่อน ก็จะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ส่วนผู้ใช้งานใหม่ก็ไม่ต้องปรับตัวแต่อย่างใด เพราะโดยภาพรวมตัว User Interface มาในสไตล์โมเดิร์น พร้อมเน้นประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความสะดวกคล่องตัวนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์เด่น ๆ ทั้งการทำงานอย่างต่อเนื่องร่วมกับดีไวซ์อื่น ๆ ผ่านทาง Samsung Account เช่นการโทรออก/รับสาย บนพื้นฐานของหมายเลขโทรศัพท์เดียวกันแบบข้ามอุปกรณ์ รวมถึงการซิงค์โน๊ต การเปิดหน้าเว็บเบราว์เซอร์ รวมถึงฟีเจอร์ใหม่บน OneUI 3.1 ในการใช้ Bluetooth Low Energy เพื่อติดตามอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อกันแบบออฟไลน์ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งในส่วนของเลย์เอาท์หน้าจอหลัก ทั้งรูปแบบคอลัมน์ และหน้า Apps Drawer ได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล รวมถึงเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และรูปแบบธีมที่สวยงาม ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้จากแอปพลิเคชัน ร้านขายธีม หรือ Galaxy Themes ที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้วภายในเครื่อง
Apps edge ฟีเจอร์ยอดนิยมที่ออกแบบมาเพื่อสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมขอบจอโค้งในแบบ edge to edge และถึงแม้ว่าหน้าจอของ Samsung Galaxy A52 5G จะไม่ได้เป็นจอโค้งแบบ edge to edge เหมือนรุ่นพี่ก็ตาม แต่ก็สามารถประยุกต์ใช้งานฟีเจอร์นี้ เพื่อช่วยให้สามารถเข้าถึงทางลัดของแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์ด้าน Network และการโทรมีความโดดเด่นด้วยการรองรับเทคโนโลยี 5G ในแบบ NSA / SA และ Sub 6 รวมไปถึงยังรองรับการโทรผ่าน Wi-Fi และ Dual VoLTE ที่สามารถเปิด VoLTE ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม ทำให้การโทรผ่านสัญญาณที่มีความเร็วสูง มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบลื่นอีกด้วย
เชื่อว่าหลายคนอาจจะพลาดกับฟีเจอร์สุดเทพอย่าง Adapt Sound กันอยู่ไม่น้อย ซึ่งฟีเจอร์นี้จะช่วยมอบประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีและเหมาะสมที่สุดผ่านทางหูฟังที่ปรับแต่งให้เกิดความสมดุล โดยเราสามารถกำหนดโปรไฟล์ของรูปแบบเสียง ได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง
Game Launcher ฟีเจอร์ที่พร้อมตอบโจทย์คอเกมสายฮาร์ดคอร์ ที่ต้องการประสิทธิภาพในการเล่นเกมแบบขั้นสุด รวมถึงผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไป ที่ต้องการปรับตั้งค่าการเล่นเกมให้สมดุล ทั้งการประหยัดพลังงานและการใช้ข้อมูลเดต้าอย่างเหมาะสม
Samsung มอบพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ให้ลูกค้าใช้ฟรี ๆ ถึง 15 GB นอกจากจะใช้เก็บข้อมูลทั่ว ๆ ไปเหมือนผู้ให้บริการ cloud storage ที่มีบริการอยู่ในท้องตลาดแล้ว ตัว Samsung cloud ยังมาพร้อมฟีเจอร์ในการสำรองและคืนค่าให้กับตัวสมาร์ตโฟนได้อีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริการที่ออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าของซัมซุงได้รับความสะดวกสบายในการใช้งาน ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปใช้งานสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ แต่ข้อมูลสำคัญ ๆ ก็ยังอยู่ครบถ้วน
Bixby Routines ผู้ช่วยอัจฉริยะที่อักเกรดความสามารถขึ้นมาอีกระดับ เป็นฟีเจอร์ที่ถ่ายทอด DNA มาจากรุ่นพี่ในซีรีส์ S นั่นเอง สำหรับฟีเจอร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกก็ใส่มาให้แบบไม่มีกั๊ก ทั้งโหมดใช้งานมือเดียว, ลิงก์กับ Windows, ฟีเจอร์ Motions & Gestures ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ของตัวเครื่อง เช่นยกเครื่องเพื่อปลุกหน้าจอ, การเปิดหน้าจอค้างไว้ในขณะที่มองหน้าจอ, การใช้ฝ่ามือเพื่อจับภาพหน้าจอเป็นต้น และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คือแอพโคลน ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยม เช่น Line, Facebook หรือ Instagram และอื่น ๆ ได้พร้อม ๆ กัน ถึง 2 แอคเคานท์ในเครื่องเดียว
Device care เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่อง ทั้งการลบไฟล์ขยะและไฟล์แคชของระบบ, การจัดการด้านหน่วยความจำ, การสแกนไวรัส และการดูแลแบตเตอรี่เป็นต้น ซึ่งแอปฯนี้จะช่วยให้การทำงานของตัวเครื่องเต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ มีความรวดเร็วและความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
มาพร้อมแบตความจุสูงถึง 4500mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Fast charge 25W จากการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน หากเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไม่ได้เน้นเล่นเกม สามารถใช้งานได้ครบ 1 วันหรือ 1 วันครึ่งได้แบบสบาย ๆ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้ตัวชิปเซ็ทและ Firmware ที่ปรับแต่งมาได้ดีมาก ๆ นั่นเอง
ปิดท้ายด้วย Galaxy Gift และ EZY Rewards เอกสิทธิ์ที่พร้อมมอบสิทธิพิเศษแบบ Exclusive ที่มีให้เฉพาะลูกค้าของซัมซุงเท่านั้น ซึ่งหาไม่ได้ในแบรนด์อื่น ๆ ที่มีอยู่ในตลาด ณ ทุกวันนี้
ประสิทธิภาพ
Samsung Galaxy A52 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่ Qualcomm SM7225 Snapdragon 750G 5G บนสถาปัตยกรรม 8 นาโนเมตร ประมวลผล Octa Core ความเร็ว 2.2GHz ผสานด้วยหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 619
ส่วนในแง่การใช้งานจริงถือว่าเป็นสมาร์ตโฟน Mid-Range ระดับกลางค่อนไปทางสูงที่มาพร้อมความลื่นไหล มอบความแรงในระดับที่นำไปใช้งานทั่วไปและเล่นเกมที่มีกราฟิกหนัก ๆ ได้แบบสบาย ๆ สำหรับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ก็ให้มาอย่างครบถ้วน อาทิ Gyroscope, Magnetic, Accelerometer ในส่วนของภาครับสัญญาณ GPS พบว่ามีความเร็วและความแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจมาก ๆ
มัลติมีเดียและความบันเทิง
ซัมซุงยังเล็งเห็นความสำคัญของกลุ่มผู้ใช้งานที่ยังชื่นชอบการรับฟังวิทยุ FM จึงไม่ได้ตัดฟีเจอร์นี้ออกไป และ FM บน Samsung Galaxy A52 5G นั้นเป็น FM แบบทศนิยมสองจุด ที่มีภาครับสัญญาณถือว่าคมชัดใช้ได้เลย ส่วนฟีเจอร์ก็ใส่มาให้ครบถ้วน ทั้งการบันทึกวีดีโอไว้ฟังแบบออฟไลน์ และการส่งไปยัง Reminder เป็นต้น
Music Player เป็นแอปฯที่พัฒนาโดยซัมซุง โดยมาพร้อมความสามารถแบบจัดเต็มไม่แพ้แอปฯเสียเงินที่มีอยู่ในสโตร์ เพียงแต่ไม่ได้มีการพรีโหลดมาให้ตั้งแต่โรงงาน เราต้องทำการดาวน์โหลดมาติดตั้งเองในภายหลัง ในแง่ความสามารถนั้นครบเครื่องจัดเต็มตามที่เกริ่นไป ส่วนสิ่งที่ขับเน้นให้เกิดความโดดเด่นและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้งาน ก็คือในด้านกำลังขับและเทคโนโลยี Dolby Atmos ที่ช่วยปรับปรุงให้คุณภาพเสียงนั้นยกระดับขึ้นไปอีกขั้น อีกทั้งยังสามารถปรับแต่ง อีควอไลเซอร์ได้ยืดหยุ่นตรงกับรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี จึงทำให้การฟังเพลงหรือรับชมคอนเทนต์นั้นเต็มอิ่มครบทุกอรรถรสอย่างแน่นอน
สำหรับ Video Player บน Samsung Galaxy A52 5G รองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K ได้อย่างสมูทไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น
ทดสอบการเล่นเกม
Samsung Galaxy A52 5G ตอบโจทย์การเล่นเกมในระดับมืออาชีพด้วยฟีเจอร์ Game Booster ซึ่งช่วยให้การเล่มเกมเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ปกป้องการรบกวนจากการแจ้งเตือน อีกทั้งยังใช้งานง่ายด้วยอินเทอร์เฟซแบบเฉพาะและเมนูที่ง่ายต่อการเข้าถึง ส่วน Frame Booster จะช่วยให้กราฟิกนั้นดูไหลลื่นสมจริง พร้อมเล่นเกมได้ดีที่สุดด้วย Game Booster ที่สามารถเรียนรู้รูปแบบการเล่นของผู้ใช้งาน เพื่อปรับการใช้งานแบตเตอรี่, อุณหภูมิ และการใช้งานหน่วยความจำได้อย่างเหมาะสม
เริ่มต้นกันด้วยเกม Call of Duty ที่สามารถปรับตั้งค่า คุณภาพกราฟิก HIGH และเฟรมเรท HIGH ในการทดสอบใช้งานจริง พบว่าการการเคลื่อนที่ การยิง รวมถึงเอฟเฟกต์ภายในเกม มีความสมูทลื่นไหลที่ดี ไม่รู้สึกถึงอาการแลค และยังมีความเสถียรในระดับที่น่าพึงพอใจมาก ๆ อีกด้วย
ต่อกันด้วย ROV อีกหนึ่ง เกม MOBA สุดฮิตของบ้านเรา โดยค่าเริ่มต้น ตั้งค่าภาพ HD ในระดับสูงมาก และการแสดงผลระดับสูง พร้อมเลือกเฟรมเรทสูงโดยรักษาความ stable ไว้ที่ระดับ 59-60fps แบบต่อเนื่อง ในภาพรวม Samsung Galaxy A52 5G นั้นถือว่าแรงพอที่จะตีป้อมได้อย่างสมูทไหลลื่น โดยไม่หัวร้อนอย่างแน่นอน
ปิดท้ายกันไปแด้วย PUBG ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องการทรัพยากรขั้นสูง เบื้องต้นสามารถตั้งค่ากราฟิกที่ระดับ “HD” และเฟรมเรทระดับสูง ซึ่งในการทดสอบจริง ทั้งการเคลื่อนไหว รวมถึงแอคชั่นต่าง ๆ ภายในเกมนั้นให้ความสมูทต่อเนื่อง โดยไม่รู้สึกถึงอาการหน่วงแต่อย่างใด
ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับ Firmware ที่ปรับแต่งมาเป็นอย่างดี รวมถึงฟีเจอร์ Game Launcher ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะให้เหมาะสมกับการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น
บทสรุป
Samsung Galaxy A52 5G เป็นซีรีส์ A ที่ดีที่สุดเท่าที่ซัมซุงเคยเปิดตัวมา ซึ่งก่อนหน้านั้นอาจจะมีกั๊ก ๆ เพื่อไม่ให้ไปทับไลน์กับสมาร์ตโฟนภายในค่ายอยู่บ้าง แต่รอบนี้ซัมซุงปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ ด้วยการนำเสนอความแตกต่างทางด้านดีไซน์ ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์จนฉีกแนวไปจากค่ายอื่น ๆ และยังมาพร้อมสเปคและฟีเจอร์จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ sAMOLED ที่มีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ผสานกล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ขับเคลื่อนด้วย Super Ai Camera Pro+ โดยให้ฟีเจอร์และคุณภาพในระดับกระทบไหล่รุ่นพี่ที่เป็นเรือธงภายในค่ายได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ด้านความบันเทิงด้วยลำโพงคู่สเตอริโอ และสเปคในภาพรวมที่แรงพอจะทำงานและเล่มเกมที่มีกราฟิกหนัก ๆ ได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด แถมยังรองรับ 5G และมีแบตสุดอึดชาร์จไว เรียกว่าครบครัน ครบเครื่องในราคาจับต้องได้ สามารถตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้งานทั่วไปและสายทำคอนเทนต์ได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ Samsung Galaxy A52 5G วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วในราคา 13,499 บาท มี 4 สีให้เลือกใช้งานประกอบด้วย Awesome Black, Awesome White, Awesome Violet และ Awesome Blue ผู้ที่สนใจ สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ที่ ซัมซุง แบรนด์ช้อป, ช่องทางออนไลน์ และตัวแทนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ