สวัสดีครับ กลับมาพบกับทีมงาน Mobile Octa อีกครั้งนะครับ เชื่อว่าเพื่อนๆ ที่กำลังชมรีวิวนี้อยู่ น่าจะกำลังหาผู้ช่วยทำความสะอาดบ้านฉลาดๆ อย่างหุ่นยนต์ทำความสะอาดอัตโนมัติอยู่ใช่มั้ยล่ะครับ
วันนี้พวกเรามีโอกาสได้หุ่นยนต์ทำความสะอาดพื้นอัจฉริยะมารีวิว นั่นก็คือ Roborock S8 Pro Ultra ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวท็อปในซีรีย์นี้ ที่นอกจากรุ่นนี้ยังมีรุ่นเล็กสุดอย่าง Roborock S8 และรุ่นกลางอย่าง Roborock S8+ ให้เลือกด้วย
แต่รุ่นที่เราได้มารีวิวนี้คือรุ่นท็อปอย่างรุ่น S8 Pro Ultra เลยครับ ซึ่งเราได้ทดสอบมาระยะนึงแล้ว วันนี้ผมจะเล่าให้ฟังว่าหลังจากทดสอบรุ่นนี้มาระยะนึงแล้ว มีจุดไหนที่เราชื่นชอบ หรือมีจุดสังเกตอะไรบ้าง ไปติดตามรับชมกันได้เลยครับ
ก่อนอื่นมาดูอุปกรณ์ในกล่องของ Roborock S8 Pro Ultra กันครับ ภายในกล่องของรุ่นนี้จะประกอบไปด้วยดังนี้
- หุ่นยนต์ทำความสะอาดอัจฉริยะ Roborock S8 Pro Ultra
- แท่น Station RockDock Ultra
- ถุงเก็บฝุ่น 2 ชิ้น
- คู่มือและใบรับประกัน
อุปกรณ์ก็มาง่ายๆ แค่นี้เองครับ ซึ่งการประกอบก็ทำได้ไม่ยากเพราะมีคู่มือแนะนำให้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว
ดีไซน์การออกแบบ
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roborock S8 Pro Ultra นี้จะมีดีไซน์ที่ดูสวยหรูทันสมัย มีดีไซน์ยอดนิยมครับ คือเป็นทรงกลม ด้านบนมีเซ็นเซอร์ LiDAR สำหรับตรวจสอบพื้นที่หรือ Mapping พื้นที่ห้องสำหรับวางแผนการทำความสะอาดด้วย AI นอกจากนี้รอบเครื่องยังมีเซ็นเซอร์ที่ช่วยหลบหลีกสิ่งกีดขวาง และเซ็นเซอร์กันตกจากพื้นที่ต่างระดับอีกด้วย
ปุ่มควบคุมบนตัวเครื่องจะมี 3 ปุ่มครับ ซึ่งสามารถกดควบคุมบนตัวเครื่องก็ได้ แต่ยุคนี้การควบคุมผ่านสมาร์ทโฟนน่าจะครบเครื่องและง่ายดายกว่าครับ ซึ่งบนแอปพลิเคชัน Roborock นี้ก็สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน iOS และ Android OS เลยครับ เมนูและ UI ต่างๆ ค่อนข้างใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อนครับ
เริ่มใช้งานครั้งแรกให้เรากดปุ่ม 2 ปุ่มซ้ายขวาข้างเพื่อ reset WIFI ในครั้งแรกครั้งเดียวครับ จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนในแอปเพื่อเชื่อมต่อกับหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอย่างง่ายๆ ไม่กี่นาทีก็เสร็จเรียบร้อย พร้อมทำความสะอาดแล้วครับ
จากนั้นให้เราเติมน้ำในถังน้ำสะอาดบน Station ด้วยนะครับ ซึ่งตัวหุ่น Roborock S8 Pro Ultra ก็จะสามารถเติมน้ำในตัวเองได้ 200 มล. และในตัวยังมีถังเก็บฝุ่น 350 มล. ซึ่งเมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วก็จะนำฝุ่นไปเก็บไว้ใน Station โดยเราสามารถเก็บได้นานสุดประมาณ 7 สัปดาห์ หรือเกือบ 2 เดือนค่อยเก็บทิ้งสักที ถือว่าสะดวกมาก ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ ครับ
ซึ่งในส่วนของถุงเก็บฝุ่นใน Station ก็ถูกออกแบบอย่างระเอียดมากครับ เมื่อเราดึงถุงออก ตัวฝาปิดฝุ่นก็จะเลื่อนออกมาปิดป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย ตรงนี้ถือว่าออกแบบอย่างเอาใจใส่มากครับ
ส่วนการออกแบบของ Station RockDock Ultra ก็ดูสวยงามทันสมัยดีครับ เหมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์สวยๆ ในห้องของเราได้ทุกมุมเลยฮะ ช่วยเสริมบุคลิคของห้องได้เป็นอย่างดี
ด้านบนของ Station จะมี 3 ส่วนหลักๆ เรียงจากซ้ายไปขวา ประกอบด้วย ถังเก็บน้ำเสีย, ถังเก็บน้ำสะอาด, และช่องสำหรับใส่ถุงเก็บฝุ่น และไม่ต้องกลัวว่าจะใส่ถังน้ำสลับช่องนะครับ เพราะแต่ละส่วนจะถูกออกแบบมาให้ใส่ผิดช่องไม่ได้ มันจะไม่ลงล็อคครับ ดังนั้นสบายใจในส่วนนี้ได้เลย
ด้านหลังของ Station จะมีช่องเสียบปลั๊กไป และส่วนสำหรับเก็บสายไฟได้เหมือนรุ่นก่อนครับ
ทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติ
ต่อไปมาดูฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจของ Roborock S8 Pro Ultra ที่เราประทับใจกันครับ อย่างแรกเลยยกให้ระบบทำความสะอาดตัวเองอัตโนมัติเลยครับ เพราะช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้นเยอะจริงๆ
โดยเมื่อการทำความสะอาดเสร็จสิ้นตามที่ได้รับมอบหมาย หุ่นยนต์จะกลับ Station พร้อมกับเริ่มระบบซักผ้าถูพื้นทันทีทุกครั้งด้วยแปรงทำความสะอาดภายใน Station เป็นอย่างดี จากนั้นระบบจะเป่าแห้งด้วยลมร้อนอัตโนมัติ ทำให้ผ้าถูพื้นแห้งได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น และลดกลิ่นอับหรือลดแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี ทำให้หุ่นยนต์ทำความสะอาดรุ่นนี้ทำงานได้ดีแม้จะไม่ได้อยู่ในที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวกก็ตาม
และเมื่อซักผ้าเสร็จแล้ว หุ่นยนต์จะหมุนกลับไปทิ้งฝุ่นผงลงใน Station ซึ่งตรงนี้จะมีเสียงดังมากขึ้นเล็กน้อยครับ แต่จะใช้เวลาไม่นาน และระบบจะชาร์จไปให้พร้อมทำความสะอาดในครั้งต่อไปทันที
ชาร์จไวขึ้น 30% และช่วยประหยัดไฟ
Roborock S8 Pro Ultra ถูกอัพเกรดความเร็วการชาร์จจากรุ่นเดิมให้ไวขึ้นราว 30% ครับ ทำให้ช่วยลดเวลาการชาร์จ และพร้อมทำความสะอาดได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถตั้งค่าให้หุ่นยนต์ชาร์จในช่วงเวลา Off Peak หรือชาร์จในเวลากลางคืนที่มีการประหยัดค่าไฟมากกว่า และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
เทคโนโลยีการทำความสะอาดที่ล้ำสมัยระดับโลก
มาพูดถึงระบบการทำความสะอาด Roborock S8 Pro Ultra กันต่อครับ จุดขายใหม่ของรุ่นนี้เริ่มกันที่ระบบแปรงปัดหลักยางคู่ หรือ DuoRoller Riser Brush ก่อนครับ โดยแปรงปัดใหม่นี้จะช่วยเสริมพลังการทำความสะอาดให้เหนือกว่าเครื่องดูดฝุ่นคู่แข่งในตลาดที่ทำได้แค่ดูดฝุ่น แต่รุ่นนี้จะมีแปรงปัดหลักเป็นยางคู่ ทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัวเพื่อเก็บฝุ่นหรือขยะมูลฝอยบนพื้นให้เนียนยิ่งขึ้น
เท่านั้นยังไม่พอยังมีระบบ VibraRise 2.0 ที่เพิ่มพลังขัดถูพื้นด้วยแรงกดสั่นสะเทือน 3000 ครั้งต่อนาที และยังเพิ่มส่วนสั่นสะเทือนเป็น 2 จุดจากรุ่นเดิมที่มีจุดเดียว ทำให้ช่วยให้ถูพื้นได้สะอาดยิ่งขึ้นเป็นสองเท่า
นอกจากพลังการปัดกวาดเช็ดถูที่ยอดเยี่ยมแล้ว Roborock S8 Pro Ultra ยังมีพลังการดูดที่แรงถึง 6,000 Pa รองรับการทำความสะอาดทุกพื้นผิว ไม่เว้นแม้แต่พรมครับ โดยเมื่อเซ็นเซอร์ของหุ่นยนต์ตรวจจับได้ว่ากำลังอยู่บนพรมซึ่งมักเป็นจุดเก็บฝุ่นเสมอ ระบบจะเพิ่มแรงดูดให้แรงขึ้นเพื่อเพิ่มพลังการทำความสะอาดให้ดียิ่งขึ้นอัตโนมัติ
อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญที่ทำให้ Roborock S8 Pro Ultra โดดเด่นคือการจัดการพื้นที่ทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว และหลบหลีกได้อย่างแม่นยำครับ โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมเทคโนโลยี ReActive 3D ที่มีกล้องตรวจจับสิ่งกีดขวางหรือวัตถุแปลกปลอมบนพื้นได้อย่างแม่นยำ พร้อมระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางที่จะระบุบนแอปว่าเจออะไรตกอยู่ตรงไหน เช่นรองเท้า สายไฟ หรือสัตว์เลี้ยง จากนั้นจะหลีกเลี่ยงได้อย่างแม่นยำครับ
และที่เราค่อนข้างชอบคือระบบ Mapping ห้องได้อย่างรวดเร็วผ่าน LiDAR Sensor และการเคลื่อนที่ของหุ่นก็ทำได้ไวดีเช่นกัน ทำให้การทำความสะอาดเร็วขึ้นถึง 30% หรือทำความสะอาดได้ด้วยความเร็ว 20 ซม. ต่อวินาที รวมถึงการกำหนดพื้นที่ทำความสะอาดแบบโซน ทำให้เราสามารถเน้นการทำความสะอาดเฉพาะจุดหรือเฉพาะพื้นที่ได้ และสามารถจดจำพื้นที่ทำความสะอาดได้ถึง 4 ชั้นด้วยกัน และสามารถตั้งค่าการทำความที่แตกต่างกันได้เลย ดังนั้นบ้านที่มีหลายชั้นก็สบายหายห่วงได้เลยครับ
นอกจากนี้ยังสามารถสร้างแผนที่ 3D Mapping แบบสามมิติ ซึ่งระบบจะระบุแต่ละเฟอร์นิเจอร์ในห้องเป็นไอคอนอยู่บนแผนที่ได้อีกด้วย ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถทำความสะอาดพื้นที่เฉพาะได้ง่าย และเร็วขึ้นอีกระดับ รวมถึงสามารถตั้งเวลาการทำความสะอาดในแต่ละวันก็ยังได้
และในส่วนของการทำความสะอาดหุ่นยนต์ก็สามารถถอดแต่ละชิ้นส่วนออกมาได้ไม่ยากครับ ทำให้สามารถถอดแปรงทำความสะอาด หรือถอดแผ่นถูพื้นไปซัก หรือจะซื้อเปลี่ยนแต่ละชิ้นส่วนก็ทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยากเลยครับ
บทสรุป
โดยสรุปนะครับ Roborock S8 Pro Ultra เหมาะสำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเกรดพรีเมี่ยม ที่มีฟีเจอร์และคุณสมบัติที่ไว้วางใจได้ สามารถทำงานได้อย่างเสถียร แต่ไม่ต้องดูแลบ่อย สามารถปล่อยให้หุ่นยนต์ทำความสะอาดห้องหรือพื้นที่ต่างๆ ในบ้านได้อย่างสะดวกสะบาย สามารถกำหนดเวลาในแต่ละวันได้เช่น ก่อนตื่นนอน ก็กำลังให้หุ่นยนต์ทำความสะอาดก่อนที่คนในบ้านจะตื่น หรือใครที่ไม่ได้อยู่ห้องบ่อยๆ ก็สามารถกำหนดให้หุ่นยนต์ทำความสะอาดให้เราได้แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ห้องก็ตาม
แถมเราไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ แค่เกือบๆ 2 เดือนค่อยเก็บฝุ่นไปทิ้งสักที แบบนี้เหมาะกับพ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลที่บ้านเลยครับ ใครที่กำลังหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้นอัจฉริยะที่เก็บฝุ่น ซักผ้าถู เติมน้ำ พร้อมเป่าแห้งเองในตัวอัตโนมัติ รับรองว่าน่าจะชอบ Roborock S8 Pro Ultra รุ่นนี้แน่นอนครับ สำหรับการรีวิววันนี้ก็ต้องขอจบเพียงเท่านี้ จนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ ^^