คลังเก็บ

รีวิว : Redmi Note 7 สมาร์ทโฟนสเปกจัดเต็ม พร้อมกล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล ในราคาสุดคุ้ม

 

เปิดตัวด้วยราคาที่ได้เสียงตอบรับจากผู้ใช้เป็นอย่างดีสำหรับ Redmi Note 7 ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,999 บาทเท่านั้น ซึ่งราคานี้สวนกับสเปกเครื่องที่เรียกว่าจัดเต็มน้องๆ สมาร์ทโฟนเรือธงเลยก็ว่าได้ จึงทำให้ตอนนี้เครื่อง Redmi Note 7 ขายดีจนขาดตลาดไปชั่วคราว

อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมสมาร์ทโฟนรุ่นจึงเป็นสมาร์ทโฟนสเปกดี ในราคาสุดคุ้มที่หลายคนอยากได้มาครอบครองกัน เราไปดูรีวิวกันเลยดีกว่า

Redmi Note 7

อุปกรณ์ในกล่อง

กล่องแพ็คเกจจิ้งของ Redmi Note 7 เป็นกล่องกระดาษแข็งสีขาวคาดด้วยแถบสีส้มด้านล่าง ด้านหน้ามาพร้อมชื่อรุ่น และมีโลโก้ Mi อยู่มุมขวาด้านบน ส่วนด้านหลังกล่องจะเป็นสเปกคร่าวๆ ของตัวเครื่อง

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะเห็นตัวเครื่อง Redmi Note 7, สายเชื่อมต่อ USB Type-C, อแดปเตอร์ชาร์จไฟ (5V/2A), เข็มจิ้มซิมการ์ด, เคสพลาสติกใส, คู่มือใช้งาน และใบรับประกัน

รูปลักษณ์ดีไซน์

ตัวเครื่อง Redmi Note 7 ใช้วัสดุไล่เฉดสีที่เคลือบด้วยกระจกสวยหรู ด้วยขนาด  159.21 x 75.21 x 8.1 มม ครอบด้วยกระจกกันรอยขอบโค้ง 2.5D Gorilla Glass 5 ที่มีความหนาเพิ่มขึ้น 0.8 มม. ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเครื่อง และเสริมด้วยกระบวนการตัดขอบ Microcrack ที่มุมทั้ง 4  ด้านเพิ่มความทนทานให้กับตัวเครื่อง และกันน้ำกันฝุ่นได้

รูปลักษณ์ทั่วไปเริ่มจากด้านหน้าตรงกลางด้านบนมีติ่งเล็กๆ หรือที่เรียกว่าจอดีไซน์ Dot Drop สำหรับเป็นตำแหน่งของกล้องเซลฟี่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และมีช่องลำโพงสนทนาอยู่ด้านบน

ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 2340 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว ในอัตราส่วน 19.5:9 ที่มีความสว่าง 450nit ในอัตราส่วนความคมชัด 1500:1 โดยเหลือขอบใต้หน้าจอที่บางเพียง 1.95 มม. และใต้หน้าจอไม่มีปุ่มกดใดๆ โดยปุ่มควบคุมการใช้งานนั้นจะอยู่บหน้าจอซึ่งจะแสดงขึ้นมาเมื่อเปิดเครื่องใช้งาน

ด้านหลังเครื่องในใช้วัสดุที่ครอบด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D มุมซ้ายด้านบนมีเลนส์กล้องดิจิทัลแบบคู่วางในแนวนอนความละเอียด 48+5 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ถัดลงมามีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ Redmi

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบไฮบริด โดยรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด และสามารถเพิ่มหน่วยความจำเสริมภายนอกแบบ microSD Card ได้โดยใช้ช่องใส่ซิมการ์ดที่ 2

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง

ด้านบนเครื่องมีพอร์ตอินฟราเรดสำหรับใช้งานเป็นรีโมท, ช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. และช่องไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวน

ด้านท้ายเครื่อง ตรงกลางมีพอร์ต USB Type-C , ด้านซ้ายเป็นช่องไมโครโฟน และด้านขวาเป็นช่องลำโพงเสียง

สเปก Redmi Note 7

ขนาด 159.2 x 75.2 x 8.1 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 186 กรัม
หน้าจอ IPS LCD 16 ล้านสี ความละเอียด FHD+ 2340 x 1080 พิกเซล ขนาด 6.3 นิ้ว
หน่วยประมวลผล Octa-Core ความเร็ว 2.2GHz, ชิปเซ็ท Snapdragon 660 AIE, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 512
RAM 3GB/4GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 32GB/64GB/128GB
microSD Card สูงสุด 256GB
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลังคู่ โดยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Sony IMX586 รูรับแสง f/1.79 และกล้องรองความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF, โหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบ AI Portrait Mode, ฟังก์ชันปรับเอฟเฟ็กต์โบเก้แบบ AI Dynamic Bokeh และฟังก์ชันจัดแสงให้แก่ตัวแบบ AI Studio Lighting พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K @ 30fps ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบ AI Portrait Mode และโหมดถ่ายภาพหน้าสวยแบบ AI Beautify
ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย MIUI 10
การเชื่อมต่อ รองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C
รองรับระบบ 4G LTE Band 1/3/5/7/8/38/39/40/41 และ 3G 850/900/1900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่ 4000mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ Quick Charge 4
ราคา RAM 3GB/32GB ราคา 4,999 บาท 

RAM 4GB/64GB ราคา 6,599 บาท 

RAM 4GB/128GB ราคา 6,799 บาท

ประสิทธิภาพ

Redmi Note 7 ขับเคลื่อนด้วยระบบปฎิบัติการ Android 9 Pie ครอบทับด้วย MIUI 10 ซึ่งเป็น User Interface ที่ Xiaomi ได้พัฒนาขึ้นมาเอง โดนจะเน้นไปในเรื่องของการทำงานที่รวดเร็ว และลูกเล่นต่างๆ ที่จัดเต็มพร้อมตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกระดับ

ใข้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.2GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 660 AIE, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 512, หน่ยความจำมีให้เลือก 3 แบบคือ RAM 3GB/32GB, RAM 4GB/64GB และ RAM 4GB/128GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB

หลังจากที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV โดยเลือกปรับเฟรมเรทสูง 60 FPS ได้ โดยเฟรมเรทขณะเล่นจะอยู่ที่ระหว่าง 52-60 FPS และเกม Asphalt 9 ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และถ้าเล่นนานๆ เครื่องจะร้อน และกินเแบตเตอรี่พอสมควร แต่โดยรวมถือว่าสอบผ่าน

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Redmi Note 7 ผ่านแอป Antutu

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Redmi Note 7 ผ่านแอป Geekbench 4

ด้านการถ่ายภาพ

Redmi Note 7 มาพร้อมกล้องหลังคู่ Dual Camera โดยกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ขนาดของเซ็นเซอร์รับภาพอยู่ที่ 1/2 นิ้ว รูรับแสง f/1.79 และมีเทคโนโลยี 4-in-1 Super Pixel สำหรับรวมเม็กพิกเซลที่อยู่ใกล้เคียงกันเพื่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้นที่ 1.6 ไมครอน สำหรับช่วยเก็บแสงให้มากขึ้น และตอบโจทย์การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยโดยเฉพาะ

ส่วนกล้องรองความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติแบบ PDAF, โหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบ AI Portrait Mode, ฟังก์ชันปรับเอฟเฟ็กต์โบเก้แบบ AI Dynamic Bokeh และฟังก์ชันจัดแสงให้แก่ตัวแบบ AI Studio Lighting พร้อมรองรับการถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K @ 30fps

ขณะที่กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบ AI Portrait Mode และโหมดถ่ายภาพหน้าสวยแบบ AI Beautify

ตัวอย่างภาพจากกล้อง

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ของ Redmi Note 7 เป็นแบบ Li-Polymer ขนาดความจุ 4,000mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบ 9V/2A 18W (Quick Charge 4)

ทดสอบโดยลองใช้งานทั่วไป ใช้งานอินเทอร์เน็ต และเล่นเกม ปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ 1 วันสบายๆ  ถือว่าการจัดการพลังงานทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

แต่ถ้าใช้งานหนักๆ เล่นเกมหรือดูหนังแบตก็จะอยู่ได้ประมาณ 7-8 ชั่วโมง และมีโหมดใช้การปรับแบตเตอรี่ตามสภาพผู้ใช้ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ขณะทำงานในพื้นหลัง

บทสรุป

Redmi Note 7 ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางในตระกูล Note Series ของ Redmi ที่พลิกโฉมท้้งในเรื่องของดีไซน์ที่ดูเรียบหรูขึ้น รวมทั้งอัปเกรดสเปกต่างๆ โดยเฉพาะการถ่ายภาพที่ดีขึ้นแบบก้าวไปอีกระดับไม่แพ้สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง

ในส่วนของหน้าจอยังคงเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ทโฟนตระกูลซีรี่ส์นี้ โดยโดดเด่นด้วยจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.3 นิ้ว พร้อมทั้งใชิชิปเซ็ท Snapdragon 660 AIE ที่มีประสิทธิภาพในการประมวลผลข้อมูลและการเล่นเกม และแบตเตอรี่ที่ใช้งานยาวนานเหมือนเดิม

 

และที่ทำให้ Redmi Note 7 ถูกใจผู้ใช้มากที่สุดเลยก็คือราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 4,999 บาทเท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนในสเปกระดับเดียวกัน Redmi Note 7 กินขาดทั้งเรื่องของสเปกและราคาเลยก็ว่าได้ เรียกว่าราคานี้ขายดีจนขาดตลาดต้องรอวนกันไปก้ว่าได้

ทั้งนี้ Redmi Note 7 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Space Black, Neptune Blue และ Nebula Red โดยรุ่น RAM 3GB/32GB วางจำหน่ายในราคา 4,999 บาท, รุ่นRAM 4GB/64GB ราคา 6,599 บาท และรุ่น RAM 4GB/128GB ราคา 6,799 บาท

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน Xiaomi ได้ที่นี่ >>>