คลังเก็บ

รีวิว Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition รุ่นพิเศษสี Mystic Silver

ด้านการถ่ายภาพ

กล้องหลัง 3 ตัว 200MP พร้อมกันสั่น OIS

Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition มอบประสบการณ์การถ่ายภาพระดับเรือธง โดยมาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 200 ล้านพิกเซล ซึ่งมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) ทั้งยังช่วยโฟกัสไปยังจุดที่สนใจได้ด้วยอินเซนเซอร์ 2x/4x (2x/4x in-sensor) อีกด้วย

ประสิทธิภาพของกล้องอันทรงพลังนี้ขับเคลื่อนด้วยเซนเซอร์ Samsung ISOCELL HP3 เพื่อรังสรรค์ภาพถ่ายที่เป็นเอกลักษณ์แม้จะอยู่ในสภาวะแสงน้อยและซับซ้อนก็ตาม และด้วยเซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4 นิ้วที่มาพร้อมรูรับแสง f/1.65 ขนาดใหญ่ และ Tetra pixel (เทคโนโลยี Pixel-binning ขั้นสูง) จะช่วยทำให้ภาพถ่ายในที่แสงน้อยสว่างและคมชัด

ในขณะที่เลนส์ 7P (7P lens) พร้อม Atomic Layer Deposition (ALD) ช่วยลดแสงแฟลร์และภาพซ้อนอย่างมีประสิทธิภาพ Redmi Note 13 Pro+ 5G มีกล้องหลัก 200MP พร้อมกล้องอัลตร้าไวด์ 8MP และกล้องมาโคร 2MP เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในทุก ๆ โอกาสการถ่ายภาพ 

ฮาร์ดแวร์ของกล้องที่ทรงพลังนี้ทำงานร่วมกับ Xiaomi Imaging Engine ซึ่งเป็นระบบการประมวลภาพเวอร์ชันใหม่  นอกจากนั้น Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition ยังมีขอบเขตสี P3 แบบ end-to-end ที่มีพื้นที่สีที่กว้างกว่ามาตรฐาน sRGB ทำให้ภาพถ่ายในจอแสดงผลมีความสวยงามเสมือนจริง และผู้ใช้ยังสามารถเพิ่มระดับภาพถ่ายด้วยตัวเลือกการปรับแต่งภาพที่หลากหลาย ได้แก่ ฟิลเตอร์ filmCamera ใหม่ล่าสุด เฟรมภาพแบบ Art และเอฟเฟกต์ AI bokeh

กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ ISOCELL HP3. เลนส์ 7P, รูรับแสง f/1.7, 23mm (wide), 1/1.4″, 0.56µm, multi-directional PDAF และระบบกันสั่น OIS
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 และถ่ายมุมกว้างได้ 120 องศา
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

สำหรับโหมดถ่ายภาพมาพร้อมอินเทอร์เฟซที่คุ้นเคย โดยมีดีไซน์เรียบหรูดูสบายตา ด้านบนมีแถบเมนูเปิด/ปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, Goole Lens, เลือกอัตราส่วนภาพถ่าย, เปิด/ปิดโหมด HDR, เส้นตาราง, กล้อง AI, โหมดมาโคร, ตัวจับเวลา, ปรับเบลอ, ตั้งเวลาถ่ายต่อเนื่อง และกล้องช่วย ส่วนด้านล่างจะเป็นโหมดถ่ายภาพ

โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 200MP 16320 x 12240 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 3840×2160 พิกเซล ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที

สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมดวิดีโอ, โหมด 200MP, โหมดเอกสาร, โหมด Portrait, โหมดกลางคืน, โหมดโปร, โหมด Panorama, โหมดหนังสั้น, โหมด Slo-motion, โหมดวิดีโอเคลื่อนไหวเร็ว, โหมดการเปิดรับแสงนาน และแก้ไข

ตัวอย่างภาพถ่าย

กล้องหน้าเซลฟี่ 16MP

Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

โดยมีหน้าตา User Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิด/ปิดไฟแฟลช, เลือกอัตราส่วนภาพถ่าย, ฟังก์ชัน HDR, เส้นตาราง, ตัวจับเวลา, ชัตเตอร์ด้วยฝ่ามือ, ตั้งเวลาถ่ายต่อเนื่อง, กล้องช่วย และเพิ่มเวลาบนรูปภาพ

โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียด 3456 x 4608 พิกเซล ส่วนวิดีโอรองรับการถ่ายที่ความละเอียดสูงสุด 1080p 1920×1080 พิกเซล ที่ทอัตรา 60 เฟรมต่อวินาที พร้อมโหมดบิวตี้ ปรับผิวเนียน หน้าเรียว และตาโต เลือกปรับโบเก้ให้กับฉากหลังได้ รองรับ HDR และใส่ฟิลเตอร์ได้ตามใจชอบ

ทดสอบกล้องหน้า

อ่านต่อหน้า 4