คลังเก็บ

รีวิว Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition รุ่นพิเศษสี Mystic Silver

คุณสมบัติการใช้งาน

Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition รันบนระบบปฎิบัติการ MIUI 14 ล่าสุดบนพื้นฐาน Andorid 13 ซึ่งมีการใช้งานที่รวดเร็วเช้ากับฮาร์ดแวร์ได้ดี รวมทั้งยังมี UX กับ UI ที่ดูใช้งานง่ายๆ และมีการปรับแต่งฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานใช้งานได้สะดวกอีกด้วย

วอลเปเปอร์ Xiaomi Fan Festival สวยๆ ที่มีเฉพาะใน Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition

ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7200-Ultra ถูกสร้างขึ้นบนกระบวนการผลิตขนาด 4 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียูแบบ Octa Core ความเร็วสูงสุด 2.8GHz และหน่วนประมวลผลกราฟิก Mali-G610 จับคู่กับ RAM 12GB แบบ LPDDR5 + 6GB RAM Extension และหน่วยความจำภายใน 512GB แบบ UFS 3.1 เรียกว่านอกจากเร็ว แรงแล้ว ยังเก็บไฟล์ภาพ วิดีโอ และอื่นๆ ได้อย่างจุใจอีกด้วย

มาพร้อมหน้าจอแสดงผลที่รองรับอัตราการรีเฟรชเรท AdaptiveSync 120Hz ให้ทั้งความคมชัด มีสีสันสวยงาม และการแสดงผลลื่นไหล

รองรับโหมดมืด Dark Mode ช่วยลดความสว่างหน้าจอขณะใช้งานในเวลากลางคืนหรือที่แสงน้อย และประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ในเครื่อง

พร้อมโหมดการอ่านที่ช่วยปรับสีและพื้นผิวของรายการบนหน้าจอช่วยให้ดวงตาของคุณผ่อนคลายไม่ล้า และปรับโทนสีได้ 3 แบบคือ สดใส, อิ่มสี และมาตรฐาน

รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual nanoSIM) พร้อมรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G ในประเทศไทย (รองรับ NSA + SA) โดยรองรับคลื่นความถี่ 5G : n1/3/5/7/8/20/28/38/40/41/66/77/78 และสามารถสแตนด์บายได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual 5G SIM)

ด้านความปลอดภัย ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังใต้หน้าจอ สามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับปลุกการทำงานของเครื่อง หรือปลดล็อกหน้าจอได้ พร้อมทั้งสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ

รวมทั้งรองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock โดยสามารถลงทะเบียนได้ทั้งหมด 2 ใบหน้า จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้

นอกจากนี้ Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition ยังมาพร้อมลำโพงคู่ และเทคโนโลยีเสียง Dolby Atmos ให้ประสบการณ์เสียงรอบทิศทาง รวมถึงสนับสนุน Dolby Vision ทำให้ตอบสนองความบันเทิงได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งภาพและเสียง

Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh สามารถเปิดเครื่องสแตนด์บายได้ยาวนานถึง 21 วัน ใช้งานสนทนาต่อเนื่องได้นานสูงสุด 33 ชั่วโมง, เล่นเพลงผ่านชุดหูฟังยาวนาน 2.5 วัน และเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 19 ชั่วโมง

พร้อมโหมดประหยัดพลังงานขั้นสุดแบบ Ultra Battery Saver ที่เมื่อเปิดใช้งานสัญลักษณ์แบตเตอรี่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และปรับการแสดงผลให้เป็น Dark theme

และอีกจุดเด่นที่เป็นไฮไลต์ของ Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 120W HyperCharge สามารถชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 19 นาที ผ่านสาย USB Type-C และแถมอุปกรณ์ชาร์จเร็ว 120W Power Adapter มาให้ในกล่องด้วย

ประสิทธิภาพ

ทดสอบการเล่นเกม

Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition ใช้ชิปเซ็ท MediaTek Dimensity 7200-Ultra ขนาด 4nm จาก TSMC ที่เร็ว แรง มีประสิทธิภาพ และยังประหยัดพลังงานอีกด้วย พร้อมหน้าจอตอบสนองการสัมผัสสูงที่ 2160Hz เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ทดสอบการเล่นเกมได้ลองกับ ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา

โดยตั้งค่า FPS ที่ระดับสูง ด้วยชิปเซ็ท Dimensity 7200-Ultra สามารถเล่นบนเฟรมเรทสูงได้สบายๆ และถ้าเลือกตั้งค่าเกมให้เป็นค่าเริ่มต้น ก็จะสามารถตีป้อมได้ค่อนข้างลื่นเลยทีเดียว และถ้าเล่นนานๆ ตัวเครื่องไม่ร้อนมากด้วย

ต่อด้วยเกม PUBG Mobile เกมแบทเทิลรอยัล

โดยปรับตั้งค่ากราฟิกที่ “สมดุล” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับกลาง มีการตอบสนองที่รวดเร็ว แม่นยำ สามารถควบคุมการเล็งในเกมแนวชูตติ้งได้ง่าย โดยรวมแล้วจัดว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่เล่นเกมได้ดีอีกรุ่นหนึ่งเลย

นอกจากนี้ยังมีโหมด Game Turbo ที่ช่วยจัดการพลังงานของเครื่อง หรือตัดส่วนที่จะมารบกวนขณะเล่นเกมออกไป ทำให้ขณะเล่นเกมจะเห็นว่าเครื่องตอบสนองเร็ว เล่นลื่น ไม่มีอาการกระตุก รวมทั้งยังออกแบบให้มีแผงระบายความร้อน VC กว้างเกือบ 4,000 ตร.มม. และพื้นที่ระบายความร้อนด้วยแกรไฟต์ 11,000 ตร.มม. ช่วยกระจายความร้อนได้ดี ไม่ทำให้เครื่องร้อนเมื่อเล่นเกมต่อเนื่องหรือขณะที่ต้องชาร์จแบตฯ ไปด้วย ซึ่งเรียกว่าเป็นการออกแบบเพื่อระบายความร้อนที่ดีที่สุดในสมาร์ตโฟน Redmi

ทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป AnTuTu

ทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป GeekBench 6

อ่านต่อหน้า 3