คลังเก็บ

รีวิว Redmi Note 12 และ Redmi Note 12 5G สมาร์ตโฟนจอ AMOLED 120Hz, ขุมพลัง Snapdragon และชาร์จเร็ว 33W

คุณสมบัติการใช้งาน

Redmi Note 12 รันบนระบบปฎิบัติการ MIUI 14 บนพื้นฐาน Andorid 13 เวอร์ชั่นล่าสุด ที่มาพร้อม User Interface โฉมใหม่ที่ปรับเปลี่ยนใหม่แบบยกเครื่อง ไอคอนมีขนาดใหญ่และปรับขนาดได้หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีรูปแบบ Widget ใหม่และโฟลเดอร์ที่ขยายได้หลากหลายกว่าเดิม ให้เราได้ปรับแต่งได้อย่างเพลิดเพลินกว่าเดิม

ส่วน Redmi Note 12 5G รันบนระบบปฎิบัติการ MIUI 14 บนพื้นฐาน Andorid 12 ซึ่งมี User Interface ที่ไม่ต่างกับของ Redmi Note 12 ต่างกันตรงที่พื้นฐานระบบปฎิบัติการที่เป็นรุ่นก่อน คาดว่าน่าจะได้รับการอัปเดตเป็น Android 13 ต่อไป

Redmi Note 12 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 685 ของ Qualcomm ที่มอบประสบการณ์การทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ เล่นเกม การฟัง และการสตรีม

ด้วยพลังโปรเซสเซอร์ที่ถูกสร้างขึ้นจากกระบวนการ 6 นาโนเมตร สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของ CPU 2.8GHz ทำให้คุณสามารถสลับไปมาระหว่างแอปต่างๆ และทำงานต่างๆ พร้อมกันได้อย่างง่ายดายโดยไม่เกิดความเฉื่อยหรือล่าช้า 

นอกเหนือจากพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่รวดเร็วสูงสุดขนาด 128GB แล้ว Redmi Note 12 ยังช่วยให้คุณสามารถติดตั้งแอปโปรดของคุณได้มากขึ้นและบันทึกรูปภาพและวิดีโอได้มากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลว่าพื้นจัดเก็บที่จะเต็มอีกด้วย

ส่วน Redmi Note 12 5G ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 4 Gen 1 จาก Qualcomm อันทรงพลังที่สร้างขึ้นด้วยกระบวนการ 6 นาโนเมตร จึงทำให้ Redmi Note 12 5G มอบประสิทธิภาพการใช้งานที่น่าประทับใจ ทั้งยังรองรับซิมการ์ด 5G แบบคู่ พร้อม RAM สูงสุด 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 256GB

คุณสามารถเรียกใช้แอปได้มากขึ้นและสลับไปมาระหว่างกันด้วยความเร็วที่เร็วขึ้นและยังมีพื้นที่เก็บข้อมูลมากมายเพื่อจัดเก็บแอปโปรดของคุณ ให้คุณสามารถถ่ายภาพและวิดีโอที่น่าจดจำมากมายโดยไม่ต้องกังวลว่าพื้นที่จะเต็มเสียก่อน เพื่อเพิ่มประสบการณ์ความบันเทิงที่ดียิ่งขึ้นหมายความว่าคุณจะสามารถเพลิดเพลินกับช่วงเวลานั้นๆ และตอบโพสต์บนโซเชียลมีเดียได้รวดเร็วยิ่งขึ้นรวมไปถึงเล่นเกมมือถือกราฟิกสูงกับเพื่อนๆได้ดียิ่งขึ้น

โดยใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของการเชื่อมต่อ 5G ทำให้ตอนนี้คุณสามารถดาวน์โหลดเกมและอัปเดตได้เร็วยิ่งขึ้น Redmi Note 12 5G จึงเหมาะสมที่จะเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์เพื่อสร้างเนื้อหาใหม่ๆได้อย่างดีเยี่ยม และพร้อมเสมอที่จะสตรีมและถ่ายทอดสดวิดีโอผ่านการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและมีความเสถียรมากขึ้น  

Redmi Note 12 และ Redmi Note 12 5G มาพร้อมหน้าจอแสดงผลที่รองรับอัตราการรีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz ให้ภาพไหลลื่น คมชัด และชัดเจนมากขึ้นเมื่อเทียบกับอัตรารีเฟรชเรท 60Hz

หน้าจอแสดงผลของ Redmi Note 12 และ Redmi Note 12 5G ยังรองรับโหมดมืด Dark Mode ช่วยลดความสว่างหน้าจอขณะใช้งานในเวลากลางคืนหรือที่แสงน้อย และประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ในเครื่อง

พร้อมโหมดการอ่านที่ช่วยปรับสีและพื้นผิวของรายการบนหน้าจอช่วยให้ดวงตาของคุณผ่อนคลายไม่ล้า และปรับโทนสีได้ 3 แบบคือ สดใส, อิ่มสี และมาตรฐาน

Redmi Note 12 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual nanoSIM) โดยรองรับเครือข่าย 4G : LTE FDD:1/3/5/7/8/20/28 และ 4G: LTE TDD:38/40/41 พร้อมโหมด Dual 4G ใช้งาน 4G ได้พร้อมกัน 2 SIM

ขณะที่ Redmi Note 12 5G รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด (Dual nanoSIM) พร้อมรองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G ในประเทศไทย (รองรับ NSA + SA) โดยรองรับคลื่นความถี่ 5G : n1/3/5/7/8/20/28/38/40/41/77/78 และสามารถสแตนด์บายได้พร้อมกัน 2 ซิมการ์ด (Dual 5G SIM)

ซ้าย Redmi Note 12 ขวา Redmi Note 12 5G

ด้านความปลอดภัย Redmi Note 12 และ Redmi Note 12 5G ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังไว้บนปุ่มเปิด/ปิดเครื่องด้านขวาข้างเครื่อง ซึ่งสามารถตั้งค่าการใช้งานเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือสำหรับปลุกการทำงานของเครื่อง หรือปลดล็อกหน้าจอได้ พร้อมทั้งสามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้มากกว่า 1 ลายนิ้วมือ

ซ้าย Redmi Note 12 ขวา Redmi Note 12 5G

รวมทั้งรองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock โดยสามารถลงทะเบียนได้ทั้งหมด 2 ใบหน้า จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้

redmi Note 12 และ Redmi Note 12 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh โดย Redmi Note 12 สามารถใช้งานสนทนาต่อเนื่องได้นานสูงสุด 31 ชั่วโมง, เล่นเกมได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง และเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 21 ชั่วโมง

ส่วน Redmi Note 12 5G สามารถใช้งานสนทนาต่อเนื่องได้นานสูงสุด 34 ชั่วโมง, เล่นเกมได้นานสูงสุด 14 ชั่วโมง และเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 21 ชั่วโมง

พร้อมโหมดประหยัดพลังงานขั้นสุดแบบ Ultra Battery Saver ที่เมื่อเปิดใช้งานสัญลักษณ์แบตเตอรี่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และปรับการแสดงผลให้เป็น Dark theme

นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 33W ชาร์จเต็มได้ 50% ในเวลาเพียง 22 นาที จึงไม่จำเป็นต้องชาร์จทิ้งไว้ก่อนนอน สามารถชาร์จตอนเช้า ซึ่งชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็มก่อนที่ผู้ใช้งานจะทำกิจวัตรส่วนตัวในช่วงเช้าเสร็จด้วยซ้ำ และอะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว 33W แถมมาให้ในกล่องด้วย ไม่ต้องซื้อแยกต่างหาก

ประสิทธิภาพ

ทดสอบการเล่นเกม

Redmi Note 12 ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 685 ขนาด 6 นาโนเมตร ถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกที่ได้ใช้ชิปเซ็ตนี้ แต่จะรองรับเครือข่าย 4G เท่านั้น รองรับกราฟิกดีขึ้น ใช้งานทั่วไปได้ดี และแบตอึดขึ้น 

โดยใช้หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 619 จับคู่กับ RAM 8GB แบบ LPDDR4X บวก 3GB RAM Virtual และ ROM 128GB แบบ UFS 2.2 

ส่วน Redmi Note 12 5G ใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 4 Gen 1 รุ่นอัปเกรดของ Snapdragon 480 Plus ที่มีการปรับปรุงให้ประสิทธิภาพของ CPU ดีขึ้น 15% และ GPU ดีขึ้น 10% บนเทคโนโลยีการผลิต 6 นาโนเมตร

พร้อมรองรับ 5G, รองรับหน้าจอความละเอียด FHD+ อัตรารีเฟรชสูงสุด 120Hz, รองรับ RAM แบบ LPDDR4x และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 2.2 และรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว Quick Charge 4+

เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า สมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่นสามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี

ทดสอบการเล่นเกมได้ลองกับ ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา

โดย Redmi Note 12  ตั้งค่า FPS ที่ระดับสูง ด้วยชิปเซ็ท Snapdragon 685 สามารถเล่นบนเฟรมเรทสูงได้สบายๆ และถ้าเลือกตั้งค่าเกมให้เป็นค่าเริ่มต้น ก็จะสามารถตีป้อมได้ค่อนข้างลื่นเลยทีเดียว

ส่วน Redmi Note 12 5G ตั้งค่า FPS ที่ระดับสูง ด้วยขุมพลังชิปเซ็ท Snapdragon 4 Gen 1 ทำให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุก

ต่อด้วยเกม PUBG Mobile เกมแบทเทิลรอยัล

โดย Redmi Note 12 สามารถปรับตั้งค่ากราฟิกที่ “สมดุล” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับกลาง ซึ่งในภาพรวมถือว่าทำผลงานได้น่าประทับใจ เพราะแทบไม่พบอาการแลคให้หงุดหงิดใจ และเครื่องไม่ร้อนอีกด้วย

ส่วน Redmi Note 12 5G สามารถปรับตั้งค่ากราฟิกที่ “HD” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับสูง ด้วยชิปเซ็ท Sanpdragon 4 Gen 1 บวกกับ RAM 6GB+2GB Virtual RAM และจอรีเฟรชเรท 120Hz ทำให้สามารถเล่นได้ไม่หน่วง และไหลลื่น

ซ้าย Redmi Note 12 ขวา Redmi Note 12 5G

ทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป AnTuTu

ซ้าย Redmi Note 12 ขวา Redmi Note 12 5G

ทดสอบประสิทธิภาพผ่านแอป GeekBench 5

อ่านต่อหน้า 3