ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว realme ได้เปิดตัว realme Pad แท็บเล็ตรุ่นแรกของแบรนด์ที่มาพร้อมจอขนาด 10.4 นิ้ว และดีไซน์ Ultra-Slim บางเพียง 6.9 มิลลิเมตร
ล่าสุดมาปีนี้ได้เปิดตัว realme Pad Mini รุ่นใหม่ที่มาในขนาดพกพาได้สะดวกขึ้น ด้วยจุดเด่นหน้าจอขนาด 8.7 นิ้ว ดีไซน์บางเฉียบ 7.6 มิลลิเมตร และแบตเตอรี่ 6,400mAh รองรับชาร์จไว 18W
หลายคนคงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่า realme Pad Mini รุ่นใหม่นี้ จะใช้งานอะไรได้บ้าง ตอบโจทย์การใช้งานมากน้อยแค่ไหน มาติดตามรีวิวกันเลย
สเปก realme Pad Mini
| ขนาด (สูง x กว้าง x หนา) | 211.8 มม. x 124.5 มม. x 7.6 มม. |
| น้ำหนัก | ประมาณ 372 กรัม (รวมแบตเตอรี่) |
| สี | Grey, Blue |
| หน้าจอแสดงผล | IPS LCD 16.7 ล้านสี ความละเอียด 800 x 1340 พิกเซลขนาด 8.7 นิ้ว ในอัตราส่วน 5:3 และมีอัตราส่วนจอต่อเครื่อง 84.59% |
| โปรเซสเซอร์ | ซีพียู Octa Core ความเร็ว 2.0GHz, ชิปเซ็ท Unisoc T616 Processor และหน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 |
| ระบบปฏิบัติการ | Android 11 ครอบทับด้วย realme UI for Pad |
| หน่วยความจำและความจุ | RAM: 3GB/4GB หน่วยความจำภายใน: 32GB/64GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 1TB |
| แบตเตอรี่ | 6,400 mAh รองรับชาร์จไว 18W และชาร์จแบบย้อนกลับ |
| กล้อง | กล้องหน้า: 5 MP HD Camera รูรับแสง f/2.2 ฟีเจอร์การถ่ายภาพกล้องหน้า Portrait Mode, Beauty Mode, Face-Recognition, Filter และ Bokeh Effect Control กล้องหลัง: 8 MP HD Camera รูรับแสง f/2.0 ฟีเจอร์การถ่ายภาพกล้องหลัง: HDR, Panoramic view, Expert,Portrait Mode, Burst, Filter, Bokeh Effect Control, Beauty Mode และFace-Recognition |
| ระบบเสียง | ลำโพงคู่สเตอริโอ 4 ตำแหน่ง พร้อมระบบเสียง Dirac Sould |
| รองรับเครือข่าย | GSM: 850/900/1800/1900MHz WCDMA: B1/5/8 FDD-LTE: B1/3/5/7/8/20/28 TD-LTE: B38/40/41(2496MHz-2690MHz) |
| รองรับการเชื่อมต่อ | Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot รองรับ Bluetooth 5.0, A2DP, LE GPS with A-GPS, GLONASS, BDS พอร์ต USB Type-C 2.0, USB On-The-Go |
| ระบบเซ็นเซอร์ | Magnetic induction sensor Light Sensor Acceleration Sensor Gyro-meter Proximity Sensor |
| ราคา | 5,999 บาท |
อุปกรณ์ภายในกล่อง
realme Pad Mini มาในกล่องบรรจุภัณฑ์สีขาวพร้อมกับมีรูปตัวเครื่องวางอยู่หน้ากล่อง ส่วนด้านข้างของตัวกล่องก็มาพร้อมกับชื่อรุ่น และโลโก้ realme
ด้านหลังกล่องมีข้อมูลสเปกเด่นประกอบด้วย ดีไซน์ Ultra Slim 7.59 มม., หน้าจอขนาด 22.09 ซม. (8.7 นิ้ว), แบตเตอรี่ความจุ 6,400mAh, ชิปเซ็ททรงพลัง Unisoc T616, ชาร์จไว 18W และรันบน realme UI for Pad พร้อมรายละเอียดหมายเลขรุ่น, สี, หน่วยความจำ, เครือข่าย, ขนาดตัวเครื่อง และข้อมูลการผลิต
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับ realme Pad mini สี Grey วางอยู่ และเมื่อนำตัวเครื่องออก ก็จะพบกับกล่องที่ใส่อุปกรณ์ที่แถมมาให้ในกล่องวางอยู่
โดยภายในกล่องจะมีอะแดปเตอร์ชาร์จไว 18W พร้อมกับสายชาร์จ USB-C, อุปกรณ์เปิดถาดซิม, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน
รูปลักษณ์ดีไซน์
realme Pad Mini มาในดีไซน์บางเฉียบ Ultra-Slim ตัวเครื่องบางเพียง 7.6 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 372 กรัม ถือจับได้ถนัดมือทั้งแนวตั้งและแนวนอน และพกพาได้สบาย บอดี้ทำจากวัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ที่ผ่านกระบวนการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ เครื่องกลึง CNC ที่ใช้ในการตัดเพชร การชุบผิวแบบอโนไดซ์ ขัดผิวด้วยการพ่นทราย ทำให้ได้ฝาหลังมีความเรียบหรูพรีเมียมและให้สัมผัสที่ดี ละเอียด สบายมือ และมีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ Grey และ Blue
ด้านหน้ามาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาด 8.7 นิ้ว โดยมีขอบหน้าจอสีดำรอบๆ หน้าจอเพื่อให้จับใช้งานได้โดยไม่เผลอไปสัมผัสโดนหน้าจอทั้งในแนวตั้งและแนวนอน และติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลเอาไว้กึ่งกลางจอ เหมาะสำหรับใช้งานในแนวตั้ง
ด้านหลังมุมซ้ายด้านบนติดตั้งเลนส์กล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล AI Camera และมีโลโก้ realme อยู่มุมขวาด้านล่าง
ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ด
ด้านขวาข้างตัวเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง กับปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง
ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. กับช่องลำโพงเสียง
ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB Type-C และช่องลำโพงเสียง
ประสิทธิภาพ
หน้าจอใหญ่ 8.7 นิ้ว
realme Pad Mini มีสัดส่วนจอต่อเครื่องที่ 84.59% ไม่มีการเจาะรูหรือทำรอยบากให้รบกวนสายตา ด้วยการวางกล้องหน้ามุมกว้างความละเอียด 5 ล้านพิกเซลไว้ที่ขอบบนหน้าจอ มอบประสบการณ์การใช้งานได้อย่างเต็มตา เต็มอารมณ์
มาพร้อมกับหน้าจอ WXGA+（Wide Extended Graphics Array) ขนาด 8.7 นิ้ว การออกแบบขอบนาโนนี้ ทำให้สัมผัสกับประสบการณ์การรับชมที่ไร้ขอบและสมจริงยิ่งขึ้น และด้วยความละเอียดหน้าจอสูงถึง 1340×800 พิกเซล สามารถรับชมรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างคมชัด เต็มตา
รวมทั้งเป็นหน้าจอถนอมสายตา และมาพร้อมกับคุณสมบัติมากมาย ที่ไม่ทำให้ดวงตาเมื่อยล้าในขณะใช้งาน
- Reading Mode : ทำให้หน้าจอขณะอ่านมีสีที่ใกล้เคียงกับกระดาษ ทำให้ดวงตาไม่เมื่อยล้าเมื่อจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน
- Dark Mode : ช่วยถนอมดวงตาขณะใช้งานในที่มืด
- Night Mode : จะช่วยปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติ ลงอย่างต่ำ 2 nits ช่วยถนอมสายตาขณะใช้งานตอนกลางคืน
- Sunlight Mode : จะช่วยปรับหน้าจอสว่างอัตโนมัติอยู่ที่ความสว่างสูงสุด ช่วยให้มองเห็นหน้าจอชัดในที่แสงจ้า
ลำโพงสเตอริโอคู่ พร้อมระบบเสียง Dirac Sound
realme Pad mini มาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอ ช่วยให้เสียงคมชัดใสแจ๋ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังรองรับ Adaptive Surround ทำให้ได้เสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทางแบบสเตอริโอ เต็มอิ่มทุกอารมณ์ด้านความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง รับชมภาพยนตร์หรือแม้แต่การเล่นเกม
ชิปเซ็ททรงพลัง Unisoc 616
ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ octa-core Unisoc T616 ที่มีความเร็วสูงสุด 2.0GHz และ GPU Mali G51 มีความเร็วสูงถึง 750MHz ทำให้ได้คุณภาพแบบจัดเต็มและอัตราเฟรมเรทที่เสถียรยิ่งขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ คะแนนจาก AnTuTu ของ realme Pad mini ยังอยู่ที่ 222,219 ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มอีกด้วย โดยทำงานร่วมกับ RAM 3GB/4GB จับคู่กับ ROM 32GB/64GB พร้อมรองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD Card สูงสุด 1TB
รองรับ 4G LTE เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะทำงาน หรือเรียนออนไลน์ที่ไหนก็ไม่มีสะดุด
ทดสอบการเล่นเกม
เริ่มด้วยเกม ROV เล่นบนจอใหญ่ๆ เห็น Map ได้กว้างๆ realme Pad Mini สามารถเปิดกราฟิกได้ระดับสูงสุดทั้งหมด ยกเว้นการแสดงผลระดับสูง และเฟรมเรทที่ยังคงเป็นระดับปกติครับ โดยการเล่นภายในเกมแบบ 5 VS 5 ก็เล่นได้ไหลลื่นครับ ไม่มีอาการกระตุกใดๆ เฟรมเรทก็วิ่งประมาณ 28-30fps ตลอดเกม
Asphalt 9: Legends
ส่วนเกมกราฟิกแรงๆ อย่างเกม Asphalt 9: Legends ก็เปิดภาพระดับสูงได้ด้วย ทำให้ภาพที่แสดงผลออกมาสวยงามมากๆ ยิ่งใช้งานร่วมกับหน้าจอคมชัดสูงก็ยิ่งเห็นรายละเอียดของเกมมากขึ้นไปอีก