realme Buds Air 3
ต่อด้วยรีวิว realme Buds Air 3 หูฟัง True Wireless รุ่นใหม่ล่าสุดของ realme ภายใต้สโลแกน Noise Off, Rock On. ที่มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน 42dB ที่ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland และใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่า realme Buds Air 3 รุ่นใหม่นี้จะดีกว่า Buds Air 2 รุ่นก่อนอย่างไร เราไปดูรีวิวเต็มกันเลยครับ
สเปก realme Buds Air 3
| ขนาดและน้ำหนัก | 64.5 x 48.3 x 24.3 มม., 37.2 กรัม (ตัวเคส) ประเภท: Half-in Ear น้ำหนัก: 4.2 กรัม (น้ำหนักหูฟังต่อข้าง) |
| ชิปเซ็ท | R3 |
| การสั่งการ | รองรับการควบคุมโดยการสัมผัส แตะสองครั้ง: เล่น / หยุด หรือ รับสาย/วางสาย แตะ 3 ครั้ง: เล่นเพลงต่อไป แตะค้าง 2 วินาทีที่ข้างใดข้างนึง: เพื่อปฎิเสธการรับสาย/สลับไป Noise Cancelling หรือ Transparency Mode แตะค้างทั้งสองข้าง 2 วินาที: สลับสู่โหมดปกติหรือโหมดเกม |
| โทรศัพท์ | AI Dual Mic Noise Cancellation |
| Noise Reduction Mode | Hybrid ANC |
| การเชื่อมต่อ | Bluetooth 5.2 10m Connectivity Range (in an obstacle-free environment) Dual-channel Transmission |
| การชาร์จ | ผ่านสาย USB Type-C |
| แบตเตอรี่ | 546mAh ชาร์จ 100% ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จอย่างรวดเร็ว 10 นาทีสำหรับการฟังเพลง 100 นาทีด้วยโหมดปกติ |
| ราคาและสี | 1,999 บาท มีให้เลือก 2 สี Starry Blue และ Galaxy White |
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- หูฟัง realme Buds Air 3
- เคสชาร์จแบบไร้สาย
- สายชาร์จแบบ USB Type-C
- จุกหูฟังขนาดเล็ก กลาง และใหญ่รวม 3 ชุด
- คู่มือการใข้งาน บัตรมาตรฐานความปลอดภัย และใบรับประกัน
รูปลักษณ์ดีไซน์
realme Buds Air 3 มาพร้อมกับเคสชาร์จสี Galaxy White ที่มีตัวหูฟังอยู่ด้านใน โดยตัวเคสชาร์จมีขนาด 64.5 x 48.3 x 24.3 มม. และ 37.2 กรัม กะทัดรัดพกพาได้สะดวก ด้านหน้าเคสตรงกลางมีไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จไฟ
ด้านบนเคสการออกแบบให้มีความโปร่งใส และพื้นผิวแบบชุบ พร้อมกับมีโลโก้ “ realme”
ด้านล่างมีพอร์ตแบบ USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเคส
ด้านขวามีปุ่มกดสำหรับเข้าโหมดเชื่อมต่อ
ส่วนตัวหูฟัง realme Buds Air 3 มาในดีไซน์ของหูฟัง EarBuds แบบ True Wireless ที่ยังคงความโค้งมนของรุ่นก่อนไว้ พร้อมกับการออกแบบที่โปร่งสบายที่เป็นเอกลักษณ์ และการผสมผสานระหว่างรูปทรงโค้งและพื้นผิวแบบชุบ ทำให้ตัว Ear Buds มีความแวววาวเหมือนอัญมณีที่สะท้อนแสงและเงาได้อย่างลงตัว
โดยหูฟังแยกซ้ายขวาออกจากกัน และมีน้ำหนักเบาเพียงข้างละ 4.2 กรัมเท่านั้น สวมใส่ได้อย่างสบาย ทั้งการนั่ง เดิน และวิ่งออกกำลังกาย ไม่เลื่อนหลุดง่ายขณะสวมใส่
คุณสมบัติการใช้งาน
ระบบตัดเสียงรบกวน 42dB
realme Buds Air 3 มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน 42dB เรียกได้ว่าเป็นระบบตัดเสียงที่ดีที่สุดในเซกเมนต์ ช่วยให้คุณสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับบทเพลงได้ในทุกวัน และยังรวมไปถึงเสียงรบกวนจากเครื่องบิน ท้องถนนหรือการยานพาหนะอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เรียกได้ว่า realme Buds Air3 จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากสิ่งรบกวนอื่นๆ และให้คุณมีสมาธิในการฟังเพลงหรือทำงานมากยิ่งขึ้นกว่ำเดิม
realme Buds Air 3 ได้ผ่านมาตรฐานการรับรองการตัดเสียงรบกวนประสิทธิภาพสูงครั้งแรกของอุตสาหกรรม กับ TÜV Rheinland นับเป็นหูฟัง TWS ตัวแรกของอุตสาหกรรมที่มีกำรรับรองประสิทธิภำพสูงของ TÜV Rheinland ซึ่งการผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland ถือเป็นเครื่องกำรันตีได้ว่าประสิทธิภาพการลดเสียงรบกวนได้ผ่านกระบวนการทดสอบที่เข้มงวด ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบความสามารถในการลดเสียง รบกวนรอบด้านของหูฟังและทำการทดสอบจำลองสถานการณ์ผู้ใช้จริงมากกว่า 10 สถานการณ์
realme Buds Air 3 มาพร้อมกับ Transparency Mode หรือโหมดฟังเสียงภายนอก ให้คุณได้ยินเสียงภายนอกได้เพียงคลิ๊กเดียว เนื่องจากการออกแบบตำมสรีระใบหูทำให้มีการตัดเสียงรบกวนทางกายภาพเป็นปกติ โหมด Transparency จึงทำให้การพูดคุยกับผู้อื่นเป็นเรื่องง่ายโดยไม่ต้องถอดหูฟังแม้แต่ครั้งเดียว
realme Buds Air 3 มาพร้อมกับเทคโนโลยี Smart De-wind โดยเมื่อ ear buds ตรวจจับเสียงของลม ไมโครโฟนจะมีกำรป้อนกลับของเสียงอย่ำงน้อยที่สุด ในส่วนของฮาร์ดแวร์ realme Buds Air 3 มาพร้อมกับโครงสร้าง Dual-Channel De-wind โดยได้มีการออกแบบการป้องกันเสียงรบกวนจากลมพร้อมกระแสลมสองทาง ช่วยให้ลมไหลผ่านรูนำลมสอง ช่องของก้าน earbuds ได้อย่างเป็นธรรมชำติ
*ฟีเจอร์ de-wind จะรองรับทั้งเฟิร์มแวร์และ realme link OTA ในภายหลัง และสามารถเปิดใช้งานได้ในแอป realme Link
AI Dual Mic Noise Cancellation ไมโครโฟนแบบคู่จะสร้างระบบลดเสียงรบกวนอันทรงพลัง รองรับโดยอัลกอริธึมการตัดเสียง รบกวน AI ENC ซึ่งช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างชาญฉลาดระหว่างการโทรได้อย่างมาก ทำให้อีกฝ่ายได้ยินชัดขึ้นและมีการสนทนาที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น
realme Buds Air 3 มาพร้อมกับไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ 10mm ซึ่งมาจาก liquid crystal polymer ชนิดใหม่ ซึ่งจะช่วยให้เสียงเบสมีความลึก และมีเสียงที่หนักแน่นมากกว่าเดิม โดย realme ได้เชิญนักดนตรี และทีมวิศวกรเสียงผุ้มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี มาร่วมสร้างสรรค์และปรับแต่งเสียง เพื่อให้ได้เสียงอย่างมีคุณภาพที่สุด และ Buds Air 3 ยังรองรับมาตรฐานการกระจายเสียง ACC คุณภาพสูงอีกด้วย
เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ความไวต่อการได้ยินจะค่อยๆ ลดลง และด้วยเทคโนโลยีการปรับจูนเสียงที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับ Buds Air 3 ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบการชดเชยเสียงเฉพาะบุคคล เพื่อให้สามารพฟังเพลงที่คุ้นเคย และค้นพบความรู้สึกของการฟังตั้งแต่ครั้งแรก
จากการชดเชยความไวในการได้ยินของผู้ใช้ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบการชดเชยเสียงและปรับความถี่เช่น สูงและต่ำเพื่อฟังเสียงพิเศษที่ชื่นชอบได้
นอกจากนี้ยังมาพร้อม 3 โหมดในแอป realme Link ได้แก่ Bass Boost, Balanced และ Bright Bass Boost+ ช่วยให้เกิดเสียงเบสที่ยอดเยี่ยม ปรับสมดุลเสียงเบส เสียงแหลม และเสียงกลาง ขณะที่ Bright Bass Boost+ จะเสริมเสียงของมนุษย์ ซึ่ง Bright Bass Boost+ จะเหมาะสำหรับการฟังพอดแคสต์และหนังสือเสียง (audiobooks)
realme Buds Air 3 รองรับโหมดความหน่วยต่ำ 88ms Super Low Latency เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกมขณะสวมหูฟัง ซึ่งเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้ามีการลดลง 35% ทำให้ตอนนี้ เมื่อเล่นเกม การแสดงภาพจะไม่ได้รับผลกระทบจากการไม่ซิงค์เสียง และภาพอย่างแน่นอน
realme Buds Air 3 ใช้ระบบสัมผัสที่ตัวหูฟังแทนปุ่มในการควบคุมคำสั่งต่างๆ โดยวิธีสั่งการมีรูปแบบดังนี้
- แตะ 2 ครั้ง เพื่อเล่น/หยุดเพลง หรือรับสาย/วางสายโทรศัพท์
- แตะ 3 ครั้ง เพื่อเล่นเพลงต่อไป
- แตะ Buds Air 1 ข้างค้าง 2 วินาที เพื่อปฏิเสธการรับสาย / สลับไป Noise Cancelling หรือ Transparency Mode
- แตะ Buds Air 2 ข้างค้าง 2 วินาที เพื่อสลับสู่โหมดปกติหรือโหมด Game
แบตเตอรี่ของ realme Buds Air 3 มีความจุขนาดใหญ่ 546mAh ซึ่งสามารถฟังเพลงได้นานต่อเนื่องสูงสุด 30 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังชาร์จอย่างรวดเร็วถึง 100% ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จอย่างรวดเร็ว 10 นาทีสำหรับการฟังเพลง 100 นาทีด้วยโหมดปกติ
วิธีเชื่อมต่อ realme Buds Air 3 กับสมาร์ตโฟน ทำได้ 2 วิธี
- เชื่อมต่อแบบปกติ ใช้ได้ทั้งสมาร์ตโฟน Android และ iOS เชื่อมต่อโดยการเปิด Bluetooth ที่สมาร์ตโฟน หลังจากนั้นเปิดฝาเคสชาร์จ และกดค้นหาอุปกรณ์บนสมาร์ตโฟน เมื่อเจออุปกรณ์ realme Buds Air 3 กดเชื่อมต่อ เมื่อสำเร็จก็สามารถใช้งานได้ทันที
- เชื่อมต่อผ่าน Google Fast Pair (สำหรับสมาร์ตโฟน Android เวอร์ชั่น 7.0 ขึ้นไป) เชื่อมต่อโดยการเปิด Bluetooth ที่สมาร์ตโฟน เปิดฝาเคสชาร์จและนำเข้าใกล้สมาร์ตโฟน จะมีหน้าต่าง Pop-up ขอเชื่อมต่ออุปกรณ์เด้งขึ้นมา ให้กด Pair หลังจากนั้นสามารถใช้งานได้ทันที
ซึ่ง realme Buds Air 3 รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2 ให้การเชื่อมต่อที่เสถียรแม้ต้องเผชิญกับการรบกวนจากหลายอุปกรณ์ ด้วยระยะการส่งข้อมูลสูงสุด 10 เมตร สามารถเล่นเพลงได้อย่างรบรื่นแม้ในขณะที่ไม่มีสมาร์ตโฟนอยู่ใกล้ๆ และการมีหูฟังสองตัว จะช่วยลดความหน่วงและความล่าช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีข้อผิดพลาดในการซิงค์ในช่วงเวลาสำคัญของเกม คุณจึงสามารถระบตำแหน่งของศัตรูและรับชัยชนะได้อย่างง่ายดาย
รวมทั้งมีฟีเจอร์ Smart Wear Detection สามารถตรวจจับสภาพการสวมใส่ของ Buds Air 3 แบบเรียลไทม์ รับรู้ได้เมื่อหูฟังอยู่ในหู และหยุดเพลงโดยอัตโนมัติเมื่อนำออก ไม่ว่าคุณจะดูหนังหรือฟังเพลง คุณจะไม่พลาดแม้แต่ช่วงเวลาเดียว นอกจากนี้ เพื่อประสบการณ์การสวมใส่ที่ดียิ่งขึ้น เมื่อคุณถอด ear buds ข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งจะเปลี่ยนเป็นโหมด Transparency โดยอัตโนมัต
realme Buds Air 3 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกัน เช่น PC และสมาร์ตโฟน หกกคุณกำลังฟังเสียงบน PC Buds Air 3 จะสลับไปใช้โทรศัพท์โดยอัตโนมัติหากมีสายเรียกเข้า นอกจากนี้ยังใช้งานได้หากคุณเชื่อมต่อกับแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนเมื่อคุณใช้แท็บเล็ต และรับสายเรียกเข้าบนสมาร์ตโฟนของคุณ
realme Buds Air 3 รองรับระดับการกันน้ำ IPX5 เพื่อป้องกันน้ำกระเซ็น ฝน และเหงื่อในสถานการณ์การใช้งานทุกวัน (ไม่รองรับเคสชาร์จ) ขณะเดียวกัน realme Buds Air 3 ได้ผ่านการทดสอบที่เข้มงวดในระหว่ำงกระบวนการผลิตเพื่อให้แน่ใจว่าต้องเผชิญกับการใช้งานที่ซับซ้อนในแต่ละวัน
การทดสอบความทนทานและคุณภาพของ realme Buds Air 3
- ทดสอบการเสียบพอร์ต Charging เข้า/ออก 5,000 ครั้ง
- ทดสอบการเปิด/ปิด Charging Case 10,000 ครั้ง
- ทดสอบความเสถียรของพอร์ต Charging 2,000 ครั้ง
- กำรกันน้ำของปุ่มฟังก์ชั่น 2,500 ครั้ง
- ทดสอบอุณหภูมิต่ำสูง -20 ℃ และอุณหภูมิสูงสุด 60 ℃ เป็นเวลา 168 ชั่วโมง
- ทดสอบอุณหภูมิสูง/ความชื้นสูง 65℃/RH95% 168 ชั่วโมง
บทสรุป
realme Buds Air 3 ถือเป็นหูฟัง True Wireless รุ่นที่ 3 ในตระกูล Buds Air Series ของ realme ที่มอบคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม พร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation สูงสุดถึง 42 เดซิเบล และยังเป็นหูฟังรุ่นแรกในอุตสาหกรรมที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน TÜV Rheinland High Performance Noise Cancellation เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ realme Bud Air 3 ยังให้แบตเตอรี่มากถึง 546mAh ให้คุณฟังเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง ทั้งยังสามารถชาร์จไฟเต็มเร็ว 100% ใน 1 ชั่วโมง และรองรับระบบชาร์จเร็ว โดยชาร์จ 10 นาที สามารถฟังเพลงได้นานถึง 100 นาที เรียกว่าเป็นหูฟังไร้สายที่จัดเต็มทั้งดีไซน์สวยหรู พร้อมสเปกระดับไฮเอนด์ในราคาสบายกระเป๋ากันเลย
ทั้งนี้ realme Buds Air 3 ราคา 1,999 บาท วางจำหน่ายวันแรก 22 มีนาคม 2565 นี้ บนช่องทางออนไลน์ที่กำหนด พร้อมรับฟรี Joox VIP 6 เดือน* และวางจำหน่ายผ่านช่องทาง realme Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ วันที่ 30 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป
*ของแถมมีจำนวนจำกัด
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด