คุณสมบัติการใช้งาน
realme Narzo 50 รันบนระบบปฏิบัติการ realme UI 2.0 บนพื้นฐาน Android 11 ที่มาพร้อมหน้าตา UI ที่ปรับแต่งได้อย่างอิสระ รวมทั้งปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ และประสิทธิภาพการใช้งานโดยรวมของ realme UI 2.0 นั้นดีขึ้นกว่าเดิมมาก โดยสามารถบริหารจัดการทรัพยากรของระบบได้ดีขึ้นถึง 45% ส่งผลให้ความเร็วเพิ่มขึ้น 32% เฟรมเรทเสถียรขึ้น 17% อีกทั้งยังเปิดแอปได้ไวขึ้น 23.63% เมื่อเทียบกับ realme UI เวอร์ชั่นก่อน
มาพร้อม Dark Mode หรือโหมดกลางคืน สำหรับปรับสีของหน้า UI ให้อยู่ในโทนสีดำ เพื่อช่วยให้ใช้งานได้อย่างสบายตามากยิ่งขึ้น และยังทำให้เครื่องใช้พลังงานน้อยลงช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ด้วย สามารถเลือกปรับได้ 3 สไตล์ คือ Enhanced (ดำสนิท), Medium (เทาเข้ม) และ Gentle (เทา) ซึ่งแต่ละรูปแบบก็จะมีคอนทราสต์ที่แตกต่างกันไป สามารถตั้งค่าเป็น Auto ให้ตัวเครื่องทำการวัดแสงโดยรอบจากเซ็นเซอร์ ambient แล้วประมวลผลเลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดตามช่วงเวลานั้น ๆ ให้เอง
รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า Face Unlock เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ใบหน้าเพื่อเข้าสู่แอปที่ป้องกันไว้ หรือในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยได้
ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบฝังบนปุ่ม Power ด้านขวาข้างเครื่อง โดยใช้การปลดล็อกลายนิ้วมือแบบ capacitive ช่วยให้คุณเปิด หรือปิด และเสแกนลายนิ้วมือได้ในหนึ่งเดียว
รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับ 4G แบบ Dual SIM Dual Standby สามารถเชื่อมต่อ 4G ผ่านซิมการ์ดใดก็ได้
มาพร้อม Google Mobile Service ครบครันทั้ง Google, Gmail, Google Maps, YouTube เป็นต้น
ประสิทธิภาพ
ทดสอบการเล่นเกม
realme Narzo 50 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.05GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Helio G96 , หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-G57 MC2 ซึ่งชิปเซ็ท Helio G96 ได้รวมเอ็นจิ้นการจัดการทรัพยากรอัจฉริยะ (Intelligent Resource Management Engine) และเอ็นจิ้นโครงข่าย (Networking Engine) เข้าไว้ด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมในแต่ละด้าน
เอ็นจิ้นการจัดการทรัพยากรอัจฉริยะจะบริหารหน่วย CPU, GPU และหน่วยความจำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อให้การเล่นเกมราบรื่นและไม่เกิดการกระตุก แม้จะเป็นช่วงที่เกิดความร้อนสูงขึ้นตามปกติในขณะที่เล่นเกมต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ก็ตาม อีกทั้งยังยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้นานยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มศักยภาพการประหยัดพลังงาน
ทดสอบกับ ROV เกมแนว MOBA สุดฮิตของบ้านเรา ตั้งค่าปรับภาพ HD ระดับสูงมาก โดย realme Narzo 50 สามารถเล่นบนเฟรมเรทสูงได้สบายๆ และถ้าเลือกตั้งค่าเกมให้เป็นค่าเริ่มต้น ก็จะสามารถตีป้อมได้ลื่นเลยทีเดียว
ส่วนเกม PUBG Mobile ปรับตั้งค่ากราฟิกที่ “HD” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับสูง ซึ่งในภาพรวมถือว่าทำผลงานได้อย่างประทับใจ เพราะแทบไม่พบอาการแลคให้หงุดหงิดใจเลย
โหมดเกมแบบใหม่ คุณสามารถเลือกโหมดประสิทธิภาพการใช้งานและรูปแบบการแจ้งเตือนต่างๆ ได้ตามความต้องการ เพื่อเติมเต็ม อรรถรสเกมโปรดของคุณให้สนุกมากยิ่งขึ้น
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ realme Narzo 50 ผ่านแอป AnTuTu
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ realme Narzo 50 ผ่านแอป GeekBench