คลังเก็บ

รีวิว realme narzo 20 Pro สมาร์ตโฟนเกมมิ่งประสิทธิภาพที่เหนือกว่าในราคาสุดคุ้ม

ซอฟต์แวร์และฟีเจอร์

realme narzo 20 Pro เปิดตัวมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ realme UI v 1.0 บนพื้นฐานของ Android 10 โดยตัว UI มีความลื่นไหล และให้ความสดใส มีชีวิตชีวา อีกทั้งยังสามามรถปรับแต่งรูปแบบการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น โดยคำนึงถึง 4 ส่วนสำคัญ ได้แก่ ระบบสี ไอคอน พื้นหลัง และภาพเคลื่อนไหวแอนิเมชั่น

realme narzo 20 Pro มีการพัฒนาหน้าตาเมนูให้ดูสวยงาม มีสีสันสดใสในแบบ high-saturation ที่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา ซึ่งสัมผัสได้จากหน้าโฮมสกรีนที่มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างชัดเจน โดยไอคอนทั้งหมดถูกปรับดีไซน์ให้ดูเรียบง่ายขึ้นด้วยรูปทรงแบบกลม และมีการใช้สีสันที่มีความโดดเด่นสะดุดตา ส่วนใครที่ไม่ชอบไอคอนทรงกลมก็สามารถไปปรับเป็น Material Style หรือ Pebble ได้ในการตั้งค่า ซึ่งจะมีการปรับไอคอนให้อยู่ในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า และทรงสี่เหลี่ยมขอบมนนั่นเอง

นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งในส่วนของเลย์เอาท์หน้าจอหลัก ทั้งรูปแบบคอลัมน์ และหน้า Apps Drawer ได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ความชื่นชอบของแต่ละบุคคล รวมถึงการปรับแต่งภาพพื้นหลัง และรูปแบบธีมรวมถึงฟอนต์ที่สวยงาม ซึ่งมีให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้จากแอปพลิเคชัน ร้านขายธีม หรือ realme Theme Store ที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้วภายในเครื่อง

Dark Mode เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้การใช้งานในตอนกลางคืนเป็นไปอย่างราบลื่น และส่งผลดีต่อสุขภาพดวงตาของของผู้ใช้งาน โดยฟีเจอร์ Dark Mode หลักการทำงานจะเปลี่ยนพื้นหลังให้เป็นสีดำ เพื่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมในที่แสงน้อยได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งช่วยทั้งเรื่องของการประหยัดพลังงาน พร้อมถนอมสายตา และก่อให้เกิดความผ่อนคลายแก่ผู้ใช้งานอีกทางหนึ่งด้วย

(Dark Mode สามารถใช้งานได้กับบางแอปฯ)

สำหรับ Focus Mode จะเป็นโหมดที่ช่วยผู้ใช้งานคลายเครียดและความวุ่นวายจากโลกภายนอก โดยเมื่อใช้งาน โหมดโฟกัส ระบบจะเปิดเพลงฟังสบาย ๆ จึงช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกผ่อนคลาย พร้อมเปิดใช้งานโหมด DND หรือ DO Not Disturb โดยอัตโนมัติ เพื่อปิดการแจ้งเตือนที่รบกวนต่าง ๆ อีกทางหนึ่งด้วย

realme narzo 20 Pro มาพร้อมฟีเจอร์ด้าน Network และการโทรที่มีความโดดเด่นด้วยการรองรับเทคโนโลยี Full Netcom 4.0 ทำให้สามารถสามารถจับสัญญาณ 4G/3G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม รวมไปถึงยังรองรับการโทรผ่าน Wi-Fi และ Dual VoLTE ที่สามารถเปิด VoLTE ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม ทำให้การโทรผ่านสัญญาณที่มีความเร็วสูงบนคลื่น 4G  มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้งานด้านการโทรควบคู่ไปกับการใช้งาน Data ได้อย่างราบลื่นอีกด้วย

สำหรับปุ่มนำทาง Navigation สามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะกับความถนัดของเราได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมี Full Screen gesture ที่มาพร้อมฟีเจอร์สั่งการง่าย ๆ แต่สามารถใช้งานจอแสดงผลได้แบบเต็ม 100%

ซึ่ง Navigation gestures เป็นฟีเจอร์ที่ใช้การสไลด์นิ้วบนหน้าจอแสดงผลแทนการกดปุ่ม navigation เพื่อให้เป็นการแสดงผลแบบเต็มหน้าจออย่างแท้จริงนั่นเอง

ส่วนโหมด Quick gestures หรือโหมดตัวช่วยเพิ่มความสะดวก เป็นฟีเจอร์ที่มีให้ใช้งานมาอย่างยาวนานบนสมาร์ตโฟนของหลาย ๆ แบรนด์ ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้ก็คือการทำงานร่วมกับพวกเซ็นเซอร์ต่าง ๆ โดยเป็นการอำนวยความสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก เช่นการคว่ำหน้าจอเพื่อปิดเสียง, วาดบนหน้าเจอเพื่อเปิดแอปฯ / ควบคุมการคอนโทรล Music Player, การจับภาพหน้าจอด้วย 3 นิ้ว, การรับสายอัตโนมัติเมื่อนำโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูเป็นต้น

แบ่งหน้าต่างเพื่อใช้งาน 2 แอปพลิเคชั่นไปพร้อมกัน ได้ง่าย ๆ แค่ลากสาวนิ้วจากล่างขึ้นด้านบนของจอแสดงผล และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ขาดไม่ได้ก็คือแอพโคลน ที่รองรับการใช้งานแอปพลิเคชั่นโซเชียลยอดนิยม เช่น Line, Facebook หรือ Instagram ได้พร้อม ๆ กัน ถึง 2 แอคเคานท์ในเครื่องเดียว

Phone Manager เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการประสิทธิภาพภายในตัวเครื่อง ทั้งการลบไฟล์ขยะและไฟล์แคชของระบบ, การจัดการด้านความปลอดภัยความเป็นส่วนตัว, การสแกนไวรัส และการปกป้องด้านการชำระเงินเป็นต้น ซึ่งแอปฯนี้จะช่วยให้การทำงานของตัวเครื่องเต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ มีความรวดเร็วและความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

สำหรับ Game Space  “การเร่งความเร็วเกม” ที่ช่วย optimization ให้เล่นเกมได้ไหลลื่นมากยิ่งขึ้น และยังมีฟังก์ชั่นที่ช่วยจัดการด้านจัดการด้านเครือข่าย เช่นการปฏิเสธสาย จัดการด้านการแจ้งเตือน ล็อคความสว่างเป็นต้น ทำให้การเล่นเกมบน realme C12 นั้นเป็นไปอย่างสมูทลื่นไหล 

realme UI บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อประสบการณ์ Android ที่ดีขึ้น  โดยคำนึงถึงความชอบและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ UI ของ realme จะใช้งานได้ง่ายขึ้นและสนุกยิ่งขึ้น realme 7 Pro จะมีการนำฟีเจอร์ล่าสุด ดังนี้

Soloop แอปสำหรับการตัดต่อวิดีโอสั้น ๆ หรือ Vlog โดยเลือก Template ที่ชอบผ่าน Soloop App และเพลงจะถูกเลือกโดยอัตโนมัติผ่านฟีเจอร์อัจฉริยะ สามารถสร้าง Vlog ได้อย่างมืออาชีพได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัส

ปิดท้ายกันไปด้วยการจัดสรรพลังงาน ในภาพรวมต้องบอกว่า realme narzo 20 Pro นั้นมีแบตที่อึดอย่างน่าประทับใจ หากเป็นการใช้งานทั่ว ๆ สามารถใช้งานได้ครบ 1 วันแบบสบาย ๆ และยังมาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน “Super Power Saving Mode”  โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกแอพลิเคชั่นที่ใช้งานบ่อย 6 แอพพลิเคชั่น เพื่อการใช้ได้อย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว และประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ realme narzo 20 Pro  ยังมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperDart Charge ที่สามารถชาร์จแบตขนาดใหญ่ 4500 mAh เต็ม 100% ภายในเวลาเพียง 38 นาที หรือแม้กระทั่งในขณะเล่นเกมอย่างหนักหน่วง 65W SuperDart Charge สามารถชาร์จแบตได้ 47% ภายในระยะเวลาเพียง 30 นาที และภายในเวลาเพียง 3 นาที สามารถชาร์จได้ถึง 14% ซึ่งสามารถเปรียบเทีนยให้เห็นภาพได้ดังนี้

-สามารถเล่นเกม PUBG ได้ 3 รอบเกม (1.2 ชั่วโมง)

-ฟังเพลงออนไลน์ 10 ชั่วโมง

-ดูหนังได้ 2 ชั่วโมง

-โทรได้ 5.78 ชั่วโมง

และยังรองรับชาร์จเร็ว 18W PD/QC charge ได้อีกด้วย

ประสิทธิภาพ

realme narzo 20 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับชิปเช็ต MediaTek Helio G95 โดยตัวชิปเช็ต MediaTek Helio G95 ถือเป็นชิปเซ็ตที่เน้นการเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนที่ทรงพลังที่สุด โดยใช้กระบวนการผลิต 12nm พร้อม Cortex-A76 จำนวน 2 คอร์ ความเร็ว 2.05GHz และ Cortex-A55 จำนวน 6 คอร์ ความเร็ว 2GHz โดยใช้ GPU Mali-G76 ซึ่งทำงานได้สูงถึง 900 MHz

และด้วยการทำร่วมกันระหว่าง CPU, GPU  ที่อัปเดตล่าสุด RAM ความเร็วสูง และ AI ที่ทรงพลัง ทำให้ realme narzo 20 Pro มอบประสบการณ์การเล่นบนสมาร์ทโฟนที่บลื่นไหลไม่สะดุด

สำหรับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ให้มาอย่างครบถ้วน เรียกว่าไม่น้อยหน้าสมาร์ทโฟนในระดับเดียวกันอย่างแน่นอน ส่วนในด้านการจับสัญญาณ GPS อยู่ในเกณฑ์ที่น่าประทับใจ ต้องบอกเลยว่าถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็กแต่ความสามารถไม่เล็กแต่อย่างใด 

มัลติมีเดียและความบันเทิง

Music Player บน realme narzo 20 Pro มาพร้อมความสามารถที่ครบเครื่อง เรียกว่าไม่แตกต่างจากแอป Music Player ยอดนิยมทั่ว ๆ ไป เช่นการเล่นสุ่ม/เล่นซ้ำ การสร้างเพลย์ลิสต์ ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าเป็นต้น แต่สิ่งที่มีความโดดเด่นและสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ใช้งาน ก็คือ Dual Mode Music Share ที่สามารถเชื่อมต่อหูฟ้งไร้สายได้พร้อมกัน 2 เครื่อง

รวมถึงระบบเสียง Real HD Sounds ที่ช่วยปรับปรุงให้คุณภาพเสียงนั้นยกระดับขึ้นไปอีกขั้น อีกทั้งยังสามารถปรับแต่ง อีควอไลเซอร์ได้ยืดหยุ่นตรงกับรสนิยมการฟังเพลงของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี จึงทำให้การรับชมคอนเทนต์เต็มอิ่มครบทุกอรรถรสอย่างแน่นอน 

สำหรับ Video Player บน realme narzo 20 Pro รองรับการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูงระดับ Full HD ได้อย่างสมูทไหลลื่น แถมยังมีฟีเจอร์ที่ให้ฟิลลิ่งใกล้เคียงกับแอปชื่อดังอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอฝั่งซ้ายเพื่อปรับระดับความสว่าง และปัดบนหน้าจอฝั่งขวาเพื่อปรับเพิ่ม/ลดระดับเสียงเป็นต้น  

ทดสอบการเล่นเกม

ในด้านประสิทธิภาพต้องบอกว่าตัวชิปเซ็ต MediaTek Helio G95 นั้นทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยผลคะแนนต่าง ๆ ที่ออกมา ถือว่าเกินความคาดหมาย และเมื่อรวมกับ RAM ที่ให้มาถึง 8GB ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป และเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยม

Asphalt 9 ตั้งค่ากราฟิก “คุณภาพสูง” ในภาพรวมไม่พบอาการหน่วงหรือสะดุดให้เห็น สามารถสัมผัสความเร็ว แรง ลื่นไหลได้ตลอดการแข่งขัน

ต่อกันด้วย ROV อีกหนึ่ง เกม MOBA สุดฮิตของบ้านเรา โดยค่าเริ่มต้น ตั้งค่าภาพ HD ในระดับสูงมา การแสดงผลระดับสูง พร้อมเลือกเฟรมเรทสูงโดยรักษาความ stable ไว้ที่ระดับ 59-60fps แบบต่อเนื่อง  ในภาพรวม realme narzo 20 Pro นั้นถือว่าแรงพอที่จะตีป้อมได้อย่างสมูทไหลลื่น โดยไม่หัวร้อนอย่างแน่นอน

ปิดท้ายกันด้วย เกม PUBG โดยสามารถปรับตั้งค่ากราฟิกที่ “HD” ส่วนเฟรมเรทตั้งไว้ที่ระดับสูง ซึ่งในการทดสอบจริง ทั้งการเคลื่อนไหว รวมถึงแอคชั่นต่าง ๆ ภายในเกมนั้นให้ความสมูทต่อเนื่อง โดยไม่รู้สึกถึงอาการหน่วงแต่อย่างใด สรุปในภาพรวม realme narzo 20 Pro ตอบโจทย์การเล่นเกมที่มีอยู่บนสโตร์ได้ทุกเกม ไม่ว่าเกมนั้น ๆ จะมีกราฟิกหนัก ๆ หรือต้องการสเปคในระดับสูงก็ตาม 

อ่านต่อ… คลิ๊กที่นี่ >>> หน้าที่ 3