ด้านการถ่ายภาพ
กล้องหน้าแบบ In-Display Selfie 16MP
realme GT Neo2 5G ติดตั้งกล้องหน้าเซลฟี่แบบฝังใต้หน้าจอ In-Display Selfie ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล FOV 78°, รูรับแสงขนาด f/2.5, ขนาดเซนเซอร์: 1/3.09” และชุดเลนส์ 5P
โดยมีหน้าตา User Interface ที่สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งแสดงไอคอนเอาไว้ให้ใช้งานได้ทันที ได้แก่ เปิดปิดไฟแฟลช, ฟังก์ชัน HDR, การเพิ่มฟีลเตอร์แบบต่างๆ, สัดส่วนภาพถ่าย, การตั้งเวลาถ่ายภาพ และการตั้งค่าอื่นๆ สามารถถ่ายภาพในความละเอียดสูงสุด 3456 x 4608 พิกเซล
รวมทั้งรองรับโหมดถ่ายภาพ Portrait Bokeh, Time-lapse Video, Panoramic View, Beauty, HDR, Face Recognition, Filter, Mirror Image, Super Night Scape, Adjustable Bokeh, ระบบการแก้ไขภาพบิดเบี้ยว และถ่ายวิดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p ที่อัตรา 30 เฟรมต่อวินาที
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto โดยยังไม่เปิดใช้งาน AI Beauty
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 50%
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 100%
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Auto พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 15 แบบ
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 50%
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 100%
ทดสอบกล้องหน้าในโหมด Portrait พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 15 แบบ
กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera 64MP
realme GT Neo2 5G มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8, 26mm (wide), ขนาดเซ็นเซอร์ 1/1.73″, ขนาดพิกเซล 0.8µm และระบบ PDAF
- กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3, 16mm, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4.0″, ขนาดพิกเซล 1.12µm และถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา
- กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
โดยโหมดถ่ายภาพมาพร้อมอินเทอร์เฟซที่คุ้นตากัน ด้านบนมีแถบเมนูเปิดปิดไฟแฟลชอัตโนมัติ, เปิดปิดโหมด HDR, เปิดปิดโหมดการปรับแต่งฉากหลังด้วย AI, เลือกฟิลเตอร์, เปิดปิด Tilt-shift, เลือกสัดส่วนการถ่าย, ตัวจับเวลา และตั้งค่าการใช้งานกล้องต่างๆ
สามารถเลือกถ่ายได้ทั้งโหมดปกติ, โหมด Portrait, โหมดวิดีโอ, โหมดกลางคืน, โหมด 64MP, โหมด Starry, โหมด Dual-View Video, โหมด Slo-motion, โหมด Time-Lapse, โหมด Movie, โหมด Pro, โหมด Panorama, ระบบสแกนข้อความ โหมดมาโครพิเศษ และโหมด Street
โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 9248×6936 พิกเซล (ุเมื่อถ่ายด้วยโหมด 64 ล้านพิกเซล) ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตรา 60 เฟรมต่อวินาที พร้อมซูมแบบออฟคิคอลได้ 5 เท่า และระบบกันสั่น UIS Video Stabilization
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto โดยยังไม่เปิดใช้งาน AI Beauty
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 50%
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 100%
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Auto พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 18 แบบ
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 50%
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมเปิดใช้ AI Beauty 100%
สำหรับโหมด Portrait หรือหน้าชัดหลังเบลอ สามารถปรับระดับความเบลอได้ที่ 0-100% (ค่าเริ่มต้นอยู่ที่ 60%) โดยละลายฉากหลังได้สวยละมุนมีความเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเก็บดีเทลของตัวขอบอย่างเช่นเส้นผม หรือขอบเสื้อผ้าไว้ได้ค่อนข้างดีอีกด้วย
ทดสอบกล้องหลังในโหมด Portrait พร้อมปรับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือก 6 แบบ
นอกจากนี้กล้องหลังของ realme GT Neo2 5G ยังมีโหมดถ่ายภาพ Street Photography พร้อมด้วยฟิลเตอร์ Film Simulation ช่วยเปลี่ยนโทนสีภาพให้เหมือนฉากในภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเตอร์ B&W Plus, ฟิลเตอร์ Dramatic และ ฟิลเตอร์ Street มีโหมดถ่ายภาพรูปแบบไฟล์ RAW ให้เลือกใช้ สำหรับช่างภาพมืออาชีพนำภาพถ่ายไปปรับแต่งเพิ่มเติมได้
realme GT Neo2 5G ใช้อัลกอริทึม AI Portrait มาช่วยให้การถ่ายภาพดูสวยงามและมีมิติมากขึ้น จับโฟกัสของตัวแบบ และเบลอฉากหลังให้เนียนเป็นธรรมชาติ พร้อมการเบลอแบบใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ภาพดูมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น ได้แก่
- AI Color Portrait ให้ภาพบุคคลมีสีสัน พร้อมเบลอฉากหลังเป็นโมโนโทน เพิ่มจุดเด่นให้กับบุคคลมากขึ้น
- Neon Portrait เบลอภาพให้ดูเหมือนกับความฝัน เป็นแนวฟุ้งๆ ทำให้ภาพฉากหลังมีดวงโบเก้สวยงาม
- Dynamic Bokeh ใช้ไดนามิกโบเก้เพื่อเน้นบุคคลให้หยุดนิ่งในขณะที่พื้นหลังมีความเคลื่อนไหว
ช้าย ถ่ายด้วยโหมดปกติ ขวา ถ่ายด้วยโหมด Ultra Wide
โหมด Ultra Wide ถ่ายด้วยกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยถ่ายมุมกว้างได้ 119 องศา เก็บรายละเอียดของฉากหลังได้ครบ
รองรับการโหมดถ่ายภาพระยะใกล้แบบ Ultra Macro โดยสามารถถ่ายในระยะใกล้สุดที่ 4 เซนติเมตร