หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในบ้านเราไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาสำหรับ Realme แบรนด์สมาร์ทโฟนน้องใหม่มาแรงที่ประเดิมด้วยการส่ง Realme 2 Pro ทำตลาด และได้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยในวันเปิดตัวก็ได้ส่ง Realme C1 ออกมาลุยตลาดอีกรุ่น
สำหรับ Realme C1 เป็นสมาร์ทโฟนระดับระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ที่ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างครบครัน ในราคาสบายกระเป๋า และที่น่าสนใจคือ เป็นสมาร์ทโฟนที่หาซื้อได้ง่ายที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่สาขาในประเทศไทยกว่า 10,000 สาขาอีกด้วย เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปดูรีวิวกันเลยดีกว่า
อุปกรณ์ในกล่อง
กล่องแพ็คเกจจิ้งของ Realme C1 เป็นกล่องกระดาษแข็งสีขาวตัดสีแดงขนาดกระทัดรัดใส่เครื่องได้พอดี โดยด้านหน้ากล่องมาพร้อมชื่อรุ่น C1 ตัวใหญ่สีแดงมองเห็นได้ชัดเจน และด้านล่างในแถบสีแดงมีโลโก้ Realme ส่วนด้านหลังมาพร้อมข้อมูลของเครื่องรุ่นนี้
\
เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับตัวเครื่อง Realme C1 และอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ อแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่, สายดาต้าลิงคฺ์ microUSB, อุปกรณ์ถอด SIM Card, เคสซิลิโคนใส และคู่มือการใช้งาน ส่วนฟิลม์กันรอยนั้นติดมาให้เลยตั้งแต่แกะกล่อง
รูปลักษณ์ดีไซน์
Realme C1 มาพร้อมดีไซน์ขอบโค้งมนเรียบหรู ตัวเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากพลาสติกขึ้นรูปชิ้นเดียวแบบ Unibody โดยมีขนาด 156.2 × 75.6 × 8.2 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 168 กรัม
ด้านหน้าเครื่อง เริ่มจากด้านบนตรงกลางมีรอยบากหรือ Notch สำหรับเป็นตำแหน่งของกล้องเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, ช่องลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์ต่างๆ ทั้งปิดหน้าจอ และปรับความสว่างอัตโนมัติ
ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผล Notch Full Screen แบบ IPS LCD 16 ล้านสี ความละเอียด HD+ 1520 x 720 พิกเซล ขนาด 6.2 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3 และที่ด้านล่างไม่มีปุ่มใดๆ โดยย้ายปุ่มควบคุมการใช้งานต่างๆ ไปอยู่บนหน้าจอแทน
ด้านหลังเครื่องจะมีผิวสัมผัสคล้ายกระจกแบบ Glossy Design ด้วยเทคโนโลยีเคลือบสารนาโน 12 ชั้น ทำให้มีความมันวาว โดยมุมซ้ายด้านบนมีเลนส์กล้องคู่ Dual Camera ความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยไฟแฟลช LED ส่วนด้านล่างมีโลโก้ Realme
ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องแบบ Triple-Slot สามารถใส่ซิมการ์ดแบบ nano-SIM ได้ 2 ซิม และช่องใส่ MicroSD อีก 1 ช่อง ถัดลงมาด้านล่างเป็นปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง
ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่ม Power สำหรับเปิดและปิดเครื่อง
ด้านบนเครื่องไม่มีช่องและปุ่มกดใดๆ
ด้านล่างเครื่องมีช่องลำโพงเสียง, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ microUSB และช่องเสียบชุดหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
สเปก Realme C1
ขนาด | 156.2 × 75.6 × 8.2 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก | 168 กรัม |
หน้าจอ | Notch Full Screen แบบ IPS LCD 16 ล้านสี ความละเอียด HD+ 1520 x 720 พิกเซล ขนาด 6.2 นิ้ว ในอัตราส่วน 19:9 ครอบทับด้วยกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 3 |
หน่วยประมวลผล | Octa-Core ความเร็ว 1.8GHz, ชิปเซ็ท Snapdragon 450, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506 |
RAM | 2GB |
หน่วยความจำภายในเครื่อง | 16GB |
microSD Card | สูงสุด 256GB |
กล้องถ่ายภาพ | กล้องหลังคู่ด้านหลังความละเอียด 13+2 ล้านพิกเซล ขนาดรูรับแสงกว้าง f/2.2+f/2.4 มีเซ็นเซอร์วัดความความลึกในกล้องรอง พร้อมรองรับโหมด HDR และโหมด AI Beautification ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 พร้อมทั้งสามารถเปิด-ปิดเอฟเฟกต์ละลายฉากหลัง |
ระบบปฏิบัติการ | Android 8.1 Oreo ครอบด้วย ColorOS 5.1 |
เชื่อมต่อ | รองรับ Wi-Fi 802.11 b/g/n, 4G LTE, Bluetooth 4.2, microUSB 2.0 |
รองรับระบบ | 4G LTE Band 1/3/5/8/38/40/41 และ 3G 850/900/1900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย) |
แบตเตอรี่ | 4,230 mAh พร้อมรองรับระบบชาร์จแบบ 5V2A และฟังก์ชัน AI Power Master |
ราคา | 3,990 บาท |
คุณสมบัติการใช้งาน
Realme C1 รันบนระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบทับด้วย ColorOS 5.1 สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบไม่ว่าจะเป็น การเปลี่ยนธีม, การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง, การนำวิดเจ็ตที่ต้องการใช้งานมาไว้ที่หน้าจอโฮมสกรีน และการเปลี่ยนเอฟเฟกต์ปลดล็อกหน้าจอ
โดยในส่วนของหน้าจอหลักนั้น มีหน้าจอเริ่มต้นให้ใช้ทั้งหมด 3 หน้าหลักด้วยกัน โดยด้านซ้ายเป็นหน้ารวมแอปที่ใช้งานย่อยๆ ส่วนด้านขวาเป็นหน้าแอปทั้งหมด และสามารถเพิ่มหน้าได้ในภายหลัง เมื่อมีการลงแอป
นอกจากนี้ถ้าแตะที่ด้านบนแล้วลากลงมาจะเป็นหน้าจอแจ้งเตือน Notifications และถ้าเลือนจากใต้หน้าจอขึ้นมาจะเป็นหน้าสำหรับเปิดปิดการเชื่อมต่อต่างๆ ทั้งอินเทอร์เน็ต, WiFi รวมทั้งปรับความสว่าง และตั้งค่าใช้งานต่างๆ
รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมรองรับเครือข่าย 4G LTE และรองรับ Full Net Com 3.0 ใช้ 4G/3G ทั้ง 2 ซิม
แม้ Realme C1 จะไม่ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ แต่ก็รองรับการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้า เพียงลงทะเบียนด้วยใบหน้า ซึ่งจะใช้ได้เพียงหน้าเดียวเท่านั้น จากนั้นเมื่อหน้าจอติดมองไปยังบนหน้าจอก็สามารถปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว
โหมด Game Space ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมมากขึ้น รวมทั้งมีฟีเจอร์การปิดกั้นการแจ้งเตือนในขณะที่กำลังเล่นเกมอยู่แล้วมีสายเรียกเข้าก็จะไม่ตัดออกจากเกม แต่จะขึ้นแถบที่ด้านบนให้เลือกว่าจะรับ หรือตัดสาย นอกจากนี้ ยังสามารถปิดกั้นการแจ้งเตือนไม่ให้แสดงไปเลยก็ได้
คุณสมบัติอื่นๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน
ด้านการถ่ายภาพ
Realme C1 มาพร้อมกล้องหลังคู่ พร้อมไฟแฟลช LED โดยกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 กล้องรองเซ็นเซอร์วัดความลึกความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ,ซูมดิจิทัล 4 เท่า และระบบออโต้โฟกัส
นอกจากนี้ยังมีโหมด HDR, โหมดถ่ายภาพโปร, โหมด Portrait หน้าชัดหลังเบลอ, พาโนราม่า, หน้าสวยที่ปรับได้ 6 ระดับ, สติ๊กเกอร์ และโหมดย่นเวลา
รวมทั้งตั้งเวลานับถอยหลังก่อนถ่ายได้ 3 และ 10 วินาที, และปรับอัตราส่วนของรูปได้ 3 แบบ คือแบบจตุรัส 1:1, มาตรฐาน (4:3) และเต็มจอ (19:9 กินพื้นที่เข้าไปในรอยบากด้วย)
โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4160 x 3120 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080p
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/2.2 ที่มีผู้ช่วยอัจฉริยะในโหมด AI Beauty ช่วยปรับใบหน้าให้ออกมาสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ โดยปรับได้ 6 ระดับ รวมทั้งมีฟังก์ชั่นหน้าชัดหลังเบลอ (Bokeh Effect) ใช้งานง่ายเพียงเปิดที่รูปหยดน้ำให้เป็นสีเหลือง และกำหนดจุดที่ต้องการให้ชัด เท่านี้ก็ได้รูปหน้าชัด หลังเบลอสวยๆ
และรองรับการถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080 พิกเซล พร้อมสามารถปรับค่าผิวเนียนขณะบันทึกวิดีโอได้ รวมทั้งมีโหมด AR Sticker, เซลฟี่แบบพาโนรามา และมีโหมดถ่ายวิดีโอ Time-Lapse ให้ใช้งานด้วย
ตัวอย่างภาพจากกล้อง
ประสิทธิภาพ
Realme C1 ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 1.8GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 450, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 506, RAM 2GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 16GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB
เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม ROV และ PUBG ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ พอจะเล่นได้บ้าง แต่ก็มีกระตุกบ้าง ในส่วนของเกมกราฟิคน้อยๆ หรือเกมทั่วไป สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และเล่นนานๆ เครื่องก็ไม่มีอาการร้อนอีกด้วย โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Realme C1 ผ่านแอป Antutu
ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Realme C1 ผ่านแอป GeekBench
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ที่ใช้กับเครื่องรุ่นนี้มีขนาด 4,230 mAh ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในระดับราคาใกล้เคียงกัน พร้อมรองรับระบบชาร์จแบบ 5V2A และมีฟังก์ชั่น AI Power Master ที่ช่วยจัดการระบบ และแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อให้ใช้งานได้
หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานต่อเนื่องใน 1 วันปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 10-12 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้งานอินเทอร์เน็ตในเครือข่าย 4G แบตก็อาจหมดเร็วขึ้น โดยรวมแล้วสามารถใช้งานได้ใน 1 วันสบายๆ ไม่ต้องเสียเวลาชาร์จระหว่างวัน หรือต้องพกแบตเตอรี่สำรอง
บทสรุป
Realme C1 ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กราคาประหยัดที่มาพร้อมดีไซน์เรียบหรูทันสมัย ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ Notch Full Screen ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.2 นิ้ว รองรับการรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างเต็มตาเต็มอารมณ์ และด้านหลังยังใช้วัสดุพื้นผิวแบบกระจกทำให้ตัวเครื่องดูพรีเมียมยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังติดตั้งกล้องหลังคู่ และกล้องหน้าเซลฟี่ที่รองรับเทคโนโลยี AI Beauty ช่วยปรับให้หน้าเนียนสวยเป็นธรรมชาติ และที่เป็นจุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้เลยก็คือ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สามารถใช้งานได้เป็นวัน โดยรวมแล้วเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหามือถือจอใหญ่ที่ใช้งานทั่วไปไม่ต้องแรงมาก
ทั้งนี้ Realme C1 มีให้เลือกสีเดียวตือสีดำ (Mirror Black) ในราคา 3,990 บาท โดยสามารถหาซื้อได้ที่ร้าน 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ
พิเศษ! แถมฟรี ซิม Truemove H แบบเติมเงิน ไม่ล็อคซิม พร้อมรับสิทธิพิเศษใช้อินเทอร์เน็ตฟรีไม่อั้นนาน 12 เดือน ที่ความเร็ว 1 Mbps รวมทั้งใช้ฟรี Wifi และโทรฟรีในเครือข่ายทรูมูฟ เอช เพียงเติมเงินสะสมครบ 100 บาทต่อเดือน
คลิกช้อป Realme 2 Pro ผ่าน Lazada ได้ที่นี่ >>>